กวางเจา คานาสือ ซินเจียง อูรูมูฉี ทูรูฟาน ทะเลทรายโกบี ภูเขาห้าสี
ทะเลสาบคานาสือ ธารน้ำห้าสี แพะเมืองผี เมืองคาลามาอี้ ตลาดต้าปาจา โชว์ระบำซินเจียง
(พักโรงแรมกวางเจา 1 คืน และโรงแรมซินเจียง 7 คืน ระดับ 4 ดาว)
โปรแกรมนำเที่ยวทัวร์คานาสือ ประเทศจีน ซินเจียง เมืองหลากวัฒนธรรมแห่งชนเผ่าอุยกูย คานาสือ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์งดงาม ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ของจีน และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย โดยทีมงานมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงาน
อากาศหนาว เตรียมเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาวไปด้วยครับ
: เวลา
เวลาในประเทศจีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
: ภาษา
ภาษาจีนและภาษาท้องถิ่น
: ไฟฟ้า
220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ
: ระบบเงินตรา
สกุลเงินของจีนคือ หยวน มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5.50 บาท / 1 หยวน (การใช้จ่าย ใช้เงินหยวนอย่างเดียวครับ)
• เตรียมตัวอย่างไร?.... ก่อนขึ้นเครื่อง คลิ๊กที่นี่ครับ
• โปรแกรมการเดินทาง
• ทริปเดินทาง : วันที่ 12 - 20 กันยายน 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 63,900.-บาท....เปิดจองแล้วครับ)
• กรุ๊ปเหมา 15 ท่านขึ้นไป โปรดสอบถามราคานะครับ
วันแรก : สนามบินสุวรรณภูมิ – กวางเจา - อูรูมูฉี
09.00 น.
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9-10 แถว U เคาน์เตอร์ สายการบิน China Southern Airlines (CZ) โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้ความสะดวกแก่ท่าน
11.55 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองกวางเจา โดยสายการบินไชน่าเซ้าท์เทิร์น เที่ยวบิน CZ358
15.45 น.
ถึง สนามบินเมืองกวางเจา ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เตรีมตัวต่อเครื่องไป เมืองอูรูมูฉี
19.05 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองอูรูมูฉี โดย China Southern Airlines (CZ) เที่ยวบินที่ CZ6884 (รับประทานอาหารบนเครื่อง)
00.15 น.
เดินทางถึง เมืองอูรูมูฉี ชื่อเดิม ซีเฉิง แปลว่า เมืองทางตะวันตก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นพื้นที่เขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน เป็นถิ่นที่ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าอันสวยงาม” อูรูมูฉีเป็นต้นกำเนิดแห่งบทเพลงอันคลาสสิกและโรแมนติก ตั้งอยู่บนท้องทุ่งที่ราบทางตอนเหนือของแนวเทือกเขาเทียนซาน เป็นเมืองหลวงของเขตซินเจียง เมืองอูรูมูฉี นับเป็นเมืองใหญ่ระดับเมืองหลวงที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งทะเลมากที่สุดในโลก ก่อนที่อูรูมูฉีจะได้รับการจัดตั้งให้เป็นเมืองนั้น เคยเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตรอันกว้างใหญ่ไพศาล ได้จัดตั้งขึ้นเป็นเมืองครั้งแรกในราชวงศ์ถัง เมื่อเส้นทาง สายไหมได้มีการค้าขายเจริญเติบโตมากขึ้น เมืองแห่งนี้จึงได้เป็นจุดแวะพักของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมสายทุ่งหญ้า นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนกันตามสบาย (พัก Ramada Hotel หรือเทียบเท่า 4 ดาว)
วันที่สอง : อูรูมูฉี - บ่อน้ำมันคาลามาอี้ - ทะเลทรายโกบี - เบอร์จิ้น
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 1) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์จิ้น ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ทะเลทรายโกบีอันกว้างใหญ่ แวะบริการอาหารกลางวันที่เมืองคาลามาอี้ (เคอลาหม่าอี้) ซึ่งถือเป็นเมืองใหม่ในเขตทะเลทรายโกบี (มื้อที่ 2) หลังอาหารออกเดินทางกันต่อ นำท่านแวะชม บ่อน้ำมันเค่อลามาอี้ ให้ท่านชมวิวบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเค่อลามาอี้
ค่ำ
ถึง เมืองเบอร์จิ้น บริการอาหารเย็นที่ภัตตาร (มื้อที่ 3) หลังอาหารพักผ่อน..(พัก SHENHU HOTEL หรือ ระดับ 4 ดาว)
วันที่สาม : เบอร์จิ้น - ธารน้ำห้าสี - ภูเขาห้าสี - ชนเผ่าอาซาเค่อร์ - คานาสือ
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 4) หลังอาหารนำท่านเดินทางชม ธารน้ำห้าสี เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางทะเลทรายโกบีอันยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งโอบล้อมด้วยธรรมชาติ เมื่อยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องลำธาร ธารน้ำแห่งนี้จะปรากฏเป็นสายรุ้งห้าสีจึงได้รับสมญานามว่า ธารน้ำห้าสี และชม แกรนแคนยอน หรือที่เรียกว่า หาดห้าสี ที่เป็นดินผสมหินหลากหลายสีอันสวยงาม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำและสายลมทำให้เกิดเป็นรูปทรงต่างๆ ให้ท่านถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภูเขาห้าสี wu cai shan เป็นภูเขาทีมีสีสันสลับกันอย่างสวยงาม
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ในอุทยาน (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานคานาส ดินแดนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแผ่นดินที่บริสุทธิ์แหล่งสุดท้ายของมวลมนุษย์ที่ปราศจากมลภาวะ และสวยงามที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในโลก ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายความบริสุทธิ์ของธรรมชาติรอบกาย โอบล้อมด้วยภูเขาทั้งซ้ายขวา เขียวขจีไปด้วยทุ่งหญ้า ป่าสน แวะชมวิว ถ่ายรูปกับทุ่งหญ้า เยี่ยมชม ชนเผ่าอาซาเค่อร์ ชนเผ่าที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนกลางทุ่งหญ้า มีอาชีพเลี้ยงแกะ เลี้ยงม้า ตอนเย็นๆ ถึงที่พักที่เขตอุทยาน นำท่านเข้าที่พักและพักผ่อนกับบรรยากาศยามเย็นอันสวยงามของอุทยานคานาส
เย็น
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 6) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก KANASI XINLE DU JIA HOTEL)
วันที่สี่ : ทะเลสาบมังกรหลับ ทะเลสาบเทวดา จุดชมวิวคานาสือ ศาลาชมปลา ทะเลสาบคานาสือ ชนเผ่าถูวา
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 7) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เขตทิวทัศน์คานาสือ อุทยานคานาส นำท่านชม ทะเลสาบมังกรหลับ หรือ โค้งน้ำไดโนเสาร์ จากนั้นชม เย้เลี่ยงวาน หรือ โค้งวงพระจันทร์ ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นทะเลสาบที่มีรอยเท้าของเจงกิสข่าน ชม ทะเลสาบเทวดา เป็นทะสาบที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความใสของน้ำ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวคานาสือ จุดชมวิวที่สูงที่สุดเพื่ือชมทะเลสาปคานาสหรือทะเลสาปคานาสือ (ทะเลสาปเปลี่ยนสี) ชม ศาลาชมปลา ที่อยู่บนยอดเขา ชมทุ่งดอกไม้ ป่าสนเขา สัมผัสกับบรรยากาศอันหนาวเย็นและยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง (ช่วงเดือนปลายเดือนกันยายน ผืนป่าคานาสือก็จะเปลี่ยนสีกลายเป็นผืนป่าห้าสีครับ)
เที่ยง
บริการอาหารที่ภัตตาคารคานาส (มื้อที่ 8) หลังอาหารนำท่านล่องเรือ ทะเลสาบคานาสือ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,374 เมตร ชมบรรยากาศของทะเลสาบคานาส จากนั้นนำท่านเที่ยวชม บ้านชนเผ่าถูวา ชนเผ่าเลี้ยงม้าที่อาศัยอยู่มาช้านาน ตั้งแต่สมัยเจงกีสข่านแผ่ขยายอาณาจักร ชมการแสดงและชิมชาเจงกีสข่าน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับที่พัก
ค่ำ
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) หลังอาหารนำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามสบาย... (พัก KANASI XINLE DU JIA HOTEL)
วันที่ห้า : คานาสือ - แพะเมืองผี - เมืองคาลามาอี้
เช้า
บริการอาหารที่โรงแรม (มื้อที่ 10) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองผีอูเหอเอ่อ หรือเรียกว่า แพะเมืองผี ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
เที่ยง
บริการอาหารที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านนำท่านชม เมืองผีอูเหอเอ่อ หรือเรียกว่า แพะเมืองผี เป็นผืนแผ่นดินที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสลมทำให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ เปรียบเสมือนดินแดนพิศวง สนุกสนานกับกิจกรรมขี่อูฐ ชมบรรยากาศทะเลทรายโกบี จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเค่อลามาอี้ เมืองแห่งน้ำมันดำ
เย็น
บริการอาหารที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 12) หลังอาหารพักผ่อน (พักโรงแรมที่เมืองคาลามาร์อี้ ระดับ 4 ดาว)
วันที่หก : เมืองคาลามาอี้ - อูรูมูฉี - ทูรูฟาน
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 13) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองทูรูฟาน เมืองโอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมืองที่อยู่ต่ำจากระดับน้ำทะเล 154 เมตร
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชมบรรยากาศชม ซากเมืองโบราณเกาชาง ภาษาอุยกูร์เรียก DUHU CITY มีความหมายว่า เมืองกษัตริย์ สร้างโดยหน่วยทหารที่ถูกส่งมาพัฒนาพื้นที่ในยุคอาณาจักร CHESHI ซึ่งขณะนั้นตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ประมาณ 100 ปีก่อนคริสตกาล) ที่นี่ถูกเรียกว่ากำแพงเกาชางหรือด่านเกาชางในปลายราชวงศ์ฮั่นถึงราชวงศ์เว่ยและราชวงศ์จิ้น ท่านจะได้เห็นซากเมืองเก่า กำแพงเมืองเก่า ที่ยังคงเหลือร่องรอยอารยะธรรมที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน นำท่านชม เชียนฝอต้ง หรือ ถ้ำพระพันองค์ ซึ่งเป็นมรดกโลกของจีนโบราณที่มีชื่อในวงการศิลปกรรมโลก ประกอบด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 490 ถ้ำ เจาะตามผนังเขา มีภาพเขียนและรูปปั้นเกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก
เย็น
บริการอาหารที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 15) หลังอาหารพักผ่อน (พักโรงแรมที่เมืองทูรูฟาน ระดับ 4 ดาว)
วันที่เจ็ด : ทูรูฟาน - อูรูมูฉี - ตลาดต้าปาจา - โชว์ระบำพื้นเมือง
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 16) หลังอาหารนำท่านชม สวนองุ่น “ผู่เถาโกว” เมืองทูรูพานเป็นเมืองผลไม้ที่ลือชื่อของมณฑลซินเกียง มีทั้งองุ่น ลูกท้อ แอพริคอด แตงฮามี โดยเฉพาะองุ่นเป็นผลไม้ที่ปลูกมากที่สุด ส่งขายทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะองุ่นอบแห้งเป็นที่รู้จักดีในท้องตลาดมานานแล้ว ช่วงที่มีผลไม้มากที่สุดคือในระหว่างเดือน ก.ค.–ส.ค. ในช่วงดังกล่าวจะมีงานเทศกาลองุ่นเป็นงานประจำปี จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองอูรูมูฉี
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอูรูมูฉี (183 กม.) ผ่านทะเลสาบเกลือ ผ่านโรงงานพลิตไฟฟ้าจากพลังลมที่เมืองต้าปั่นเฉิน ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างเส้นทาง จากนั้นท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกที่ตลาดขายสินค้าพื้นเมืองของชนเผ่าเหวยอู๋เอ่ร์อบริเวณ เอ้อเต้าเฉียว (ตลาดต้าปาจา) อาทิ มีดเหล็กซินเจียง, เสื้อผ้า, ผลไม้, อาหารท้องถิ่น มากมาย ฯลฯ
เย็น
บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 18) พร้อมชมชม โชว์ระบำพื้นเมือง เป็นการเต้นรำของชนเผ่าแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า จากนั้นนำท่านเดินทางกลับที่พัก พักผ่อนกันตามสบาย (พัก Ramada Hotel หรือเทียบเท่า 4 ดาว)
วันที่แปด : อูรูมูฉี - กวางเจา - ถนนปักกิ่ง
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 19) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบินอูรูมูฉี
12.55 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองกวางเจา โดยสายการบิน China Southern Airlines (CZ) เที่ยวบินที่ CZ6883 (บนเครื่องมีบริการอาหาร)
17.45 น.
ถึง สนามบินไป่หวิน เมืองกวางเจา นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 20) หลังอาหารนำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนปักกิ่ง ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในกวางเจา มีสินค้ามากมาย อาทิเช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และของที่ระลึกอีกมากมาย เชิญท่านอิสระซื้อสินค้าต่างๆ ตามอัธยาศัย (พัก JOLLIES HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว)
วันที่เก้า : กวางเจา - สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้า
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 21) หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ พิพิธภัณฑ์ ดร.ซุนยัดเซ็น ซึ่งถือเป็นบิดาของจีนยุคใหม ชม อนุสาวรีย์ 5 แพะ สัญลักษณ์แห่งเมืองกวางเจา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกวางเจา สร้างโดยใช้หินแกรนิต 120 ก้อนแกะสลักประกอบเป็นแพะ 5 ตัว สูง 11 เมตร แพะ 5 ตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกวางเจาตลอดมา จากนั้นนำท่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ยาบัวหิมะ ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 22) หลังอาหารนำท่านชม ร้านหยก ที่ขึ้นชื่อของกวางเจาและสินค้าที่ระลึกของทางรัฐบาลจีน จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินกวางเจา
16.00 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน China Southern Airlines (CZ) เที่ยวบินที่ CZ363
17.55 น.
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพทุกท่าน
Fellow-Traveller (เพื่อนเดินทาง) @ เพื่อนที่รวมเดินทางไปตามที่ต่างๆ ด้วยกัน แหล่งรวมข้อมูลท่องเที่ยวจากเว็บทั่วโลก
Tuesday, June 23, 2015
เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง หลวงพ่อโตเล่อซาน เขาง้อไบ๊ ยอดเขาจินติ่ง วัดเป้ากั๋ว ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า วังแพะเขียว โชว์ทิเบต โชว์เปลี่ยนหน้ากาก (8 วัน)
เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง หลวงพ่อโตเล่อซาน เขาง้อไบ๊ ยอดเขาจินติ่ง
วัดเป้ากั๋ว ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า วังแพะเขียว โชว์ทิเบต โชว์เปลี่ยนหน้ากาก (8 วัน)
(พักโรงแรมเฉิงตู 2 คืน, โรงแรมจิ่วจ้ายโกว 2 คืน, โรงแรมเม่าเซี่ยน 1 คืน และ โรงแรมง้อไบ้ 2 คืน ระดับ 4 ดาว)
โปรแกรมนำเที่ยวประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน อุทยานจิ่วจ้ายโกว เล่อซาน ง๊อไบ๊ มณฑลเฉิงตู ชมความยิ่งใหญ่และสวยงาม พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย โดยทีมงานมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงาน ที่พักแบบมาตรฐานและบริการอาหารเลิศรส
อุณหภูมิและสภาพอากาศ เมืองเฉิงตู ประเทศจีน
: เวลา
เวลาประเทศจีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
: ภาษา
ภาษาจีนกลาง และภาษาท้องถิ่น
: ไฟฟ้า
220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ
: ระบบเงินตรา
สกุลเงินของจีนคือ หยวน มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5.50 บาท / 1 หยวน
การใช้จ่าย ใช้เงินหยวนอย่างเดียวครับ (หรือจะไปแลกกับไกด์ในวันเดินทางก็ได้)
: เครื่องคิดเลข
ควรนำติดตัวไปด้วยเพราะสะดวกในการต่อรองราคาสินค้า
• โปรแกรมการเดินทาง
• วันที่ 10 - 17 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 47,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
• วันที่ 20 - 27 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 48,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
• วันที่ 23 - 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 47,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
วันแรก : กรุงเทพฯ – เฉิงตู - ศาลเจ้าสามก๊ก - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
08.00 น.
พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
10.15 น.
ออกเดินทางสู่ นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 618
14.25 น.
ถึง ท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน (เวลาประเทศจีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าสามก๊ก ซึ่งเป็นศาลเจ้าของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในสมัย 3 ก๊ก ภายในนำท่านชมรูปปั้นของบุคคลสำคัญในตำนานอันยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน อาทิเช่น ขงเบ้ง กวนอู เตียวหุย เล่าปี่ ชมสุสานเล่าปี่ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งของฝากที่ ถนนคนเดินจิงหลี่ ถนนสายวัฒนธรรม ที่มีขายสินค้าพื้นเมืองและขนมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) หลังอาหารท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก TOP SHOW OF SICHUAN ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก (พัก โรงแรม PERFIT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สอง : เฉิงตู – เม่าเสี้ยน – ทะเลสาบเตี๋ยซี – เมืองเก่าซงพาน - จิ่วจ้ายโกว
06.30 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเม่าเสี้ยน แวะชม ทะเลสาบเตี๋ยซี ซึ่งตั้งอยู่ระดับความสูงเกือบ 3,000 เมตร มองลงไปยังหุบเขาเบื้องล่างจะแลเห็นทะเลสาบสีเขียว เทอร์คอยซ์ทาบยาวไปตามซอกหุบเขา และนำท่านชมเมืองโบราณ เมืองเก่าซงพาน เมืองชายแดนในสมัยโบราณที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต ชม กำแพงเมืองโบราณ ในสมัยราชวงศ์หมิง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานจิ่วจ้ายโกว ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอหนานปิง อยู่ทางเหนือของมณฑลเสฉวน และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร มีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาอันสวยงาม แวะ ร้านชา ชิมชาแห่งภูเขาเมืองเฉิงตู
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พักโรงแรม JIUZHAI RESORT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สาม : อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (รถเหมาอุทยาน) – โชว์ทิเบต
06.30 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติธารสวรรค์ จิ่วจ้ายโกว มรดกโลกทางธรรมชาติ (จัดรถเหมาเฉพาะกรุ๊ปของเรา) ชมความสวยงามของภูเขาและหุบเขาอันสลับซับซ้อน มีแอ่งน้ำน้อยใหญ่มากมายถึง 114 แอ่ง และกลุ่มน้ำตกใหญ่น้อยมากมาย ท่านจะได้พบกับความหัศจรรย์ของอุทยานแห่งนี้ ชมสภาพของน้ำในทะเลสาบมีสีสันที่พิสดารหลากหลาย ประกอบด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจนทำไห้เกิดสีสัน อันมหัศจรรย์จนได้ฉายาว่า “7 แดนเทพนิยาย” ชม ทะเลสาบ LONG LAKE ทะเลสาบดอกไม้ 5 สี ทะเลสาบหมีแพนด้า ทะเลสาบไผ่ลูกศร และ ทะเลสาบนกยูง ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้อย่างวิจิต ดั่งภาพวาดในจินตนาการ
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในอุทยาน (มื้อที่ 6) หลังอาหารนำท่านชมความงดงามของ น้ำตกธารไข่มุก ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่ มีสายน้ำที่ทอดธารลดหลั่นยาวเป็นระยะยาวถึง 310 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความงามราวกับเส้นไข่มุกและสายธารน้อยใหญ่มากมาย แวะชม น้ำตกจิ่วจ้ายโกว น้ำตกที่หลดหลั่นตามหน้าผาที่สวยงาม ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพและชมธรรมชาติที่สวยสดงดงาม
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักโรงแรม JIUZHAI RESORT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สี่ : อุทยานหวงหลง – เมืองเม่าเสี้ยน
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 8) หลังอาหารนำท่านสู่ อุทยานหวงหลง หรือ อุทยานมังกรเหลือง อุทยานที่มีลำธารน้ำไหลมาจากยอดเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นสายน้ำที่มีส่วนผสมของหินปูน เมื่อไหลลงสู่ที่ราบก่อเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่น้อย ทำให้หินปูนตกตะกอนเกาะตัวกันเป็นแอ่งเล็กใหญ่มากมาย น้ำใสเรียบเหมือนกระจกที่สะท้อนภาพท้องฟ้า ภูเขาและต้นไม้ (ไม่รวมกระเช้าขึ้น – ลง ที่หวงหลง) เดินทางเท้าตามเส้นทางที่ทางอุทยานสร้างไว้ เที่ยวชมความงามของ อุทยานหวงหลง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) หลังอาหารนำท่านชม โรงงานหยก ที่มีชื่อเชียงของรัฐบาลจีน จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเม่าเสี้ยน ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (10) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (พักโรงแรม Maoxian inter หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่ห้า : เม่าเสี้ยน – ล่องเรือ - หลวงพ่อโตเล่อซาน – เขาง้อไบ๊
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเล่อซาน ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชนบท
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 12) หลังอาหารนำท่าน ล่องเรือเกาะเล่อซาน มีลักษณะคล้ายพระนอนกลางทะเล ชม หลวงพ่อโตเล่อซาน ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 90 ปี (สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 713 – 803) โดยหลวงพ่อไห่ทงได้ใช้เงินบริจาคจากชาวบ้านสร้าง เพื่อคอยคุ้มครองภัยน้ำท่วมจากแม่น้ำหมินเจียง หลวงพ่อโตเล่อซันเป็นพระพุทธรูปปางนั่งที่สกัดเข้าไปในภูเขาสูงและใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงถึง 71 เมตร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เชิงเขาง้อไบ๊ (เอ๋อเหมยซาน) ที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองในหมอก”
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) หลังอาหารนำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย (พักโรงแรม CENTURY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่หก : เขาง้อไบ๊ – ยอดเขาจินติ่ง – วัดเป้ากั๋ว
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาง้อไบ๊ "เอ๋อเหมยซาน" ถือเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีที่สำคัญของประเทศจีน ซึ่งประกอบไปด้วยเอ๋อเหมยซาน, ผู่ถอซาน, อู่ไถซาน และ จิ่วหวงซาน เขาง้อไบ้เป็นสถานที่มีวัดวาอารามและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งอยู่มากมาย มีพระสงฆ์จำวัดอยู่บนเขาหลายพันรูป ที่เขาง้อไบ้แห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมที่งดงาม มีพืชพันธุ์ รวมทั้งสัตว์หายากอีกหลายชนิด นำท่านนั่ง กระเช้าลอยฟ้า ขึ้นสู่จุดชมวิวบน ยอดจินติ่ง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,077เมตร ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆที่สวยงามดุจดั่งสวรรค์ นำท่านนมัสการ พระสมันตภัทธโพธิสัตย์ ซึ่งชาวจีนจะเรียกว่า เซี่ยนผู่ซา หรือ โผวเฮี้ยงผ่อสัก ลักษณะพิเศษขององค์พระปฏิมาจะเป็นพระโพธิสัว์ทรงคชสารเป็นช้างเผือก 6 งา (คัมภีร์มหายานเรียกว่า ช้างฉัททันต์) เพราะถือว่าช้างเป็นสัตว์ที่ทรหดอดทน ซึ่งองค์พระนี้มีความสูง 48 เมตร ตั้งอยู่ภายใน วัดว่านฝอ หรือ วัดหมื่นปี วัดนี้เป็นวัดที่เกิดจากพระประสงค์ของ ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ถัง ที่อยากแสดงความกตัญญูให้พระมารดา จึงสร้างวัดนี้ให้เป็นของขวัญ โดยตั้งชื่อเป็นมงคลให้มารดามีอายุหมื่นปีเช่นเดียวกัน
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 15) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดเป้ากั๋ว ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุนับหลายร้อยปี และเป็นวัดที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณเขาง้อไบ๊
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) หลังอาหารนำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย (พักโรงแรม CENTURY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่เจ็ด : เขาง๊อไบ๊ - เฉิงตู – วังแพะเขียว - ถนนคนเดินชุนซีลู่
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเฉินตู แวะช้อปปิ้ง ร้านคริสตัน และชมวิถีชีวิตระหว่างทาง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 18) หลังอาหารนำท่านท่านนำท่านชม วังแพะเขียว ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครเฉินตู ถือว่าเป็นสำนักที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเต๋าในภาคตะวันตกเฉียงใต้ นำท่านชมสิ่งก่อสร้างสำคัญ มีตำหนักหลินจู่ ตำหนักเฉียนคุน ตำหนักซานซิน ตำหนักถังอ่องและศาลายันต์แปดทิศ ภายในตำหนักประดิษฐานรูปปั้นเทวดาที่คนจีนนับถือ สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือตำหนักซานเซิน มีแพะทองเหลืองที่ศักดิ์สิทธิ์สองตัวตั้งตระหง่านอยู่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง จากนั้นนำท่านแวะชม โรงงานผลิตผ้าไหมของจีน ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้า
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 19) หลังอาหารนำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนคนเดินชุนซีลู่ ให้ท่านเลือกซื้อของฝากกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก (พักโรงแรม PERFIT HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่แปด : เมืองเฉิงตู – หมีแพนด้า – กรุงเทพฯ
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 20) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า จากนั้นนำท่านแวะ ร้านนวดเท้า ให้ท่านได้ชมการสาธิตการนวดเท้า ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียด
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 21) เมนูพิเศษอาหารสมุนไพรจีน หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานซวงหลิง เฉิงตู
15.30 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619
17.35 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพทุกท่าน
วัดเป้ากั๋ว ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า วังแพะเขียว โชว์ทิเบต โชว์เปลี่ยนหน้ากาก (8 วัน)
(พักโรงแรมเฉิงตู 2 คืน, โรงแรมจิ่วจ้ายโกว 2 คืน, โรงแรมเม่าเซี่ยน 1 คืน และ โรงแรมง้อไบ้ 2 คืน ระดับ 4 ดาว)
โปรแกรมนำเที่ยวประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน อุทยานจิ่วจ้ายโกว เล่อซาน ง๊อไบ๊ มณฑลเฉิงตู ชมความยิ่งใหญ่และสวยงาม พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย โดยทีมงานมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงาน ที่พักแบบมาตรฐานและบริการอาหารเลิศรส
อุณหภูมิและสภาพอากาศ เมืองเฉิงตู ประเทศจีน
: เวลา
เวลาประเทศจีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
: ภาษา
ภาษาจีนกลาง และภาษาท้องถิ่น
: ไฟฟ้า
220 โวลต์ สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ
: ระบบเงินตรา
สกุลเงินของจีนคือ หยวน มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5.50 บาท / 1 หยวน
การใช้จ่าย ใช้เงินหยวนอย่างเดียวครับ (หรือจะไปแลกกับไกด์ในวันเดินทางก็ได้)
: เครื่องคิดเลข
ควรนำติดตัวไปด้วยเพราะสะดวกในการต่อรองราคาสินค้า
• โปรแกรมการเดินทาง
• วันที่ 10 - 17 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 47,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
• วันที่ 20 - 27 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 48,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
• วันที่ 23 - 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท่านละ 47,900.-บาท เปิดจองแล้ว)
วันแรก : กรุงเทพฯ – เฉิงตู - ศาลเจ้าสามก๊ก - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
08.00 น.
พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
10.15 น.
ออกเดินทางสู่ นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 618
14.25 น.
ถึง ท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน (เวลาประเทศจีนเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าสามก๊ก ซึ่งเป็นศาลเจ้าของนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในสมัย 3 ก๊ก ภายในนำท่านชมรูปปั้นของบุคคลสำคัญในตำนานอันยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน อาทิเช่น ขงเบ้ง กวนอู เตียวหุย เล่าปี่ ชมสุสานเล่าปี่ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งของฝากที่ ถนนคนเดินจิงหลี่ ถนนสายวัฒนธรรม ที่มีขายสินค้าพื้นเมืองและขนมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) หลังอาหารท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก TOP SHOW OF SICHUAN ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก (พัก โรงแรม PERFIT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สอง : เฉิงตู – เม่าเสี้ยน – ทะเลสาบเตี๋ยซี – เมืองเก่าซงพาน - จิ่วจ้ายโกว
06.30 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเม่าเสี้ยน แวะชม ทะเลสาบเตี๋ยซี ซึ่งตั้งอยู่ระดับความสูงเกือบ 3,000 เมตร มองลงไปยังหุบเขาเบื้องล่างจะแลเห็นทะเลสาบสีเขียว เทอร์คอยซ์ทาบยาวไปตามซอกหุบเขา และนำท่านชมเมืองโบราณ เมืองเก่าซงพาน เมืองชายแดนในสมัยโบราณที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต ชม กำแพงเมืองโบราณ ในสมัยราชวงศ์หมิง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานจิ่วจ้ายโกว ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอหนานปิง อยู่ทางเหนือของมณฑลเสฉวน และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร มีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาอันสวยงาม แวะ ร้านชา ชิมชาแห่งภูเขาเมืองเฉิงตู
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย (พักโรงแรม JIUZHAI RESORT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สาม : อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (รถเหมาอุทยาน) – โชว์ทิเบต
06.30 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติธารสวรรค์ จิ่วจ้ายโกว มรดกโลกทางธรรมชาติ (จัดรถเหมาเฉพาะกรุ๊ปของเรา) ชมความสวยงามของภูเขาและหุบเขาอันสลับซับซ้อน มีแอ่งน้ำน้อยใหญ่มากมายถึง 114 แอ่ง และกลุ่มน้ำตกใหญ่น้อยมากมาย ท่านจะได้พบกับความหัศจรรย์ของอุทยานแห่งนี้ ชมสภาพของน้ำในทะเลสาบมีสีสันที่พิสดารหลากหลาย ประกอบด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจนทำไห้เกิดสีสัน อันมหัศจรรย์จนได้ฉายาว่า “7 แดนเทพนิยาย” ชม ทะเลสาบ LONG LAKE ทะเลสาบดอกไม้ 5 สี ทะเลสาบหมีแพนด้า ทะเลสาบไผ่ลูกศร และ ทะเลสาบนกยูง ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้อย่างวิจิต ดั่งภาพวาดในจินตนาการ
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในอุทยาน (มื้อที่ 6) หลังอาหารนำท่านชมความงดงามของ น้ำตกธารไข่มุก ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่ มีสายน้ำที่ทอดธารลดหลั่นยาวเป็นระยะยาวถึง 310 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความงามราวกับเส้นไข่มุกและสายธารน้อยใหญ่มากมาย แวะชม น้ำตกจิ่วจ้ายโกว น้ำตกที่หลดหลั่นตามหน้าผาที่สวยงาม ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพและชมธรรมชาติที่สวยสดงดงาม
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักโรงแรม JIUZHAI RESORT หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่สี่ : อุทยานหวงหลง – เมืองเม่าเสี้ยน
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 8) หลังอาหารนำท่านสู่ อุทยานหวงหลง หรือ อุทยานมังกรเหลือง อุทยานที่มีลำธารน้ำไหลมาจากยอดเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นสายน้ำที่มีส่วนผสมของหินปูน เมื่อไหลลงสู่ที่ราบก่อเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่น้อย ทำให้หินปูนตกตะกอนเกาะตัวกันเป็นแอ่งเล็กใหญ่มากมาย น้ำใสเรียบเหมือนกระจกที่สะท้อนภาพท้องฟ้า ภูเขาและต้นไม้ (ไม่รวมกระเช้าขึ้น – ลง ที่หวงหลง) เดินทางเท้าตามเส้นทางที่ทางอุทยานสร้างไว้ เที่ยวชมความงามของ อุทยานหวงหลง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) หลังอาหารนำท่านชม โรงงานหยก ที่มีชื่อเชียงของรัฐบาลจีน จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเม่าเสี้ยน ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (10) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (พักโรงแรม Maoxian inter หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่ห้า : เม่าเสี้ยน – ล่องเรือ - หลวงพ่อโตเล่อซาน – เขาง้อไบ๊
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเล่อซาน ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชนบท
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 12) หลังอาหารนำท่าน ล่องเรือเกาะเล่อซาน มีลักษณะคล้ายพระนอนกลางทะเล ชม หลวงพ่อโตเล่อซาน ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 90 ปี (สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 713 – 803) โดยหลวงพ่อไห่ทงได้ใช้เงินบริจาคจากชาวบ้านสร้าง เพื่อคอยคุ้มครองภัยน้ำท่วมจากแม่น้ำหมินเจียง หลวงพ่อโตเล่อซันเป็นพระพุทธรูปปางนั่งที่สกัดเข้าไปในภูเขาสูงและใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงถึง 71 เมตร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เชิงเขาง้อไบ๊ (เอ๋อเหมยซาน) ที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองในหมอก”
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) หลังอาหารนำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย (พักโรงแรม CENTURY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่หก : เขาง้อไบ๊ – ยอดเขาจินติ่ง – วัดเป้ากั๋ว
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาง้อไบ๊ "เอ๋อเหมยซาน" ถือเป็น 1 ใน 4 พุทธคีรีที่สำคัญของประเทศจีน ซึ่งประกอบไปด้วยเอ๋อเหมยซาน, ผู่ถอซาน, อู่ไถซาน และ จิ่วหวงซาน เขาง้อไบ้เป็นสถานที่มีวัดวาอารามและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งอยู่มากมาย มีพระสงฆ์จำวัดอยู่บนเขาหลายพันรูป ที่เขาง้อไบ้แห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมที่งดงาม มีพืชพันธุ์ รวมทั้งสัตว์หายากอีกหลายชนิด นำท่านนั่ง กระเช้าลอยฟ้า ขึ้นสู่จุดชมวิวบน ยอดจินติ่ง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,077เมตร ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์อันสลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขาเหนือชั้นเมฆที่สวยงามดุจดั่งสวรรค์ นำท่านนมัสการ พระสมันตภัทธโพธิสัตย์ ซึ่งชาวจีนจะเรียกว่า เซี่ยนผู่ซา หรือ โผวเฮี้ยงผ่อสัก ลักษณะพิเศษขององค์พระปฏิมาจะเป็นพระโพธิสัว์ทรงคชสารเป็นช้างเผือก 6 งา (คัมภีร์มหายานเรียกว่า ช้างฉัททันต์) เพราะถือว่าช้างเป็นสัตว์ที่ทรหดอดทน ซึ่งองค์พระนี้มีความสูง 48 เมตร ตั้งอยู่ภายใน วัดว่านฝอ หรือ วัดหมื่นปี วัดนี้เป็นวัดที่เกิดจากพระประสงค์ของ ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ถัง ที่อยากแสดงความกตัญญูให้พระมารดา จึงสร้างวัดนี้ให้เป็นของขวัญ โดยตั้งชื่อเป็นมงคลให้มารดามีอายุหมื่นปีเช่นเดียวกัน
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 15) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ วัดเป้ากั๋ว ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุนับหลายร้อยปี และเป็นวัดที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณเขาง้อไบ๊
19.00 น.
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) หลังอาหารนำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย (พักโรงแรม CENTURY HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่เจ็ด : เขาง๊อไบ๊ - เฉิงตู – วังแพะเขียว - ถนนคนเดินชุนซีลู่
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเฉินตู แวะช้อปปิ้ง ร้านคริสตัน และชมวิถีชีวิตระหว่างทาง
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มือที่ 18) หลังอาหารนำท่านท่านนำท่านชม วังแพะเขียว ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครเฉินตู ถือว่าเป็นสำนักที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเต๋าในภาคตะวันตกเฉียงใต้ นำท่านชมสิ่งก่อสร้างสำคัญ มีตำหนักหลินจู่ ตำหนักเฉียนคุน ตำหนักซานซิน ตำหนักถังอ่องและศาลายันต์แปดทิศ ภายในตำหนักประดิษฐานรูปปั้นเทวดาที่คนจีนนับถือ สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือตำหนักซานเซิน มีแพะทองเหลืองที่ศักดิ์สิทธิ์สองตัวตั้งตระหง่านอยู่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง จากนั้นนำท่านแวะชม โรงงานผลิตผ้าไหมของจีน ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้า
19.00 น.
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 19) หลังอาหารนำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนคนเดินชุนซีลู่ ให้ท่านเลือกซื้อของฝากกันตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก (พักโรงแรม PERFIT HOTEL หรือระดับ 4 ดาว)
วันที่แปด : เมืองเฉิงตู – หมีแพนด้า – กรุงเทพฯ
07.00 น.
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 20) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า จากนั้นนำท่านแวะ ร้านนวดเท้า ให้ท่านได้ชมการสาธิตการนวดเท้า ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียด
12.00 น.
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 21) เมนูพิเศษอาหารสมุนไพรจีน หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานซวงหลิง เฉิงตู
15.30 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619
17.35 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพทุกท่าน
Monday, June 22, 2015
เที่ยวเกาหลี ข้อมูลทั่วไปประเทศเกาหลี (South Korea)
เที่ยวเกาหลี (South Korea)
เกาหลีใต้ หรือ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออก เกาหลีมีพรมแดนทางด้านเหนือติดกับเกาหลีเหนือ ด้านตะวันออเฉียงใต้ติดกับญี่ปุ่น โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นระหว่างสองประเทศเอาไว้ โดยเกาหลีใต้มีพื้นที่ครอบคลุมอาณาบริเวณทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีประชากรประมาณ 50 ล้านคน โดยเชื้อสายส่วนใหญ่ก็เป็นชาวเกาหลี มีชาวจีนที่อาศัยอยู่ตามเขตเมืองหลวงประมาณ 3 หมื่นคน นอกจากนี้ยังมีมีชาวฟิลิปปินส์ และเชื้อสายอื่นๆ
การแบ่งเขตการปกครองของเกาหลี
เกาหลีใต้ได้แบ่งเขตการปกครองดังนี้
ศิลปะของเกาหลีมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะในภาพเขียนหรือเครื่องปั้นต่างๆ ก็มักจะใช้สีอ่อนและเรียบในชิ้นงานนั้น ซึ่งภาพวาดของเกาหลีมีขึ้นมานานแล้ว และพัฒนาสืบต่อกันมา จนในสมัยโชซอนได้มีการผสมผสานศิลปะจากจีนและตะวันตกเข้าด้วยกัน
ส่วนงานหัตถกรรมทั้งหลาย จะเน้นการออกแบบให้ดูเรียบง่ายเน้นประโยชน์ใช้สอยซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นงานไม้จะมีศิลปะการประดับมุก มีงานโลหะทำด้วยทอง มีการสร้างพระพุทธรูปและระฆังวัดหล่อด้วยสำริด เครื่องปั้นดินเผามีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะที่ทำมาจากศิลาดล ฝีมือปราณีตบรรจง ซึ่งทำให้มีการจัดเทศกาลเครื่องปั้นดินเผาขึ้นอีกด้วย
ในเรื่องของตัวอักษรเกาหลี มีต้นแบบมาจากอักษรจีนที่เข้ามามีอิทธิพลกว่า 1,500 ปีแล้ว และต่อมาจึงประดิษฐ์อักษรของตนเอง คือ อักษรอัลกึล
ศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันที่เรียกว่า บุดกึลซึ ต้องประกอบด้วย 4 อย่างคือ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กัน และกระดาษ ซึ่งผู้เขียนมักเป็นนักปราชญ์หรือจิตรกร
เครื่องแต่งกายประจำชาติของเกาหลี - เที่ยวเกาหลี
ชุดประจำชาติของชาวเกาหลีเรียกว่า ฮันบก ซึ่งมีลักษณะหลวมๆ เพื่อความคล่องตัวและสะดวกสบาย จะเป็นการใช้ผ้าผูกโดยไม่มีกระดุมหรือตะขอ ทำจากผ้าสีสันสดใส เนื้อผ้าขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กผู้หญิงจะใส่กระโปรแดงเสื้อเหลือง ถ้าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงแดงเสื้อเขียว ส่วนหญิงสูงอายุสามารถใช้สี่สันหลากหลาย
ชุดของผู้ชาย ข้างล่างประกอบด้วย ปันซือ หรือในสมัยใหม่เรียกว่า แพนที ซึ่งหมายถึงกางเกงใน ชั้นนอกสวมกางเกงขายาวหลวมๆ เรียกว่า บาจี รวบปลายขาไว้ด้วยแถบผ้าที่ใช้มัดกางเกงเรียกว่า แทมิน เที่ยวเกาหลี ทัวร์เกาหลี
ส่วนด้านบนเป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นสวมไว้ข้างใน เรียกว่า บันโซเม และสวมทับด้วยเสื้อนอกแขนยาว ไม่มีปก ไม่มีกระเป๋า เรียกว่า จอโกลี
ชุดของผู้หญิง ประกอบด้วยกระโปรงที่อยู่ข้างในเรียกว่า แพนที ส่วนด้านบนเป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ผันรอบอกแทนเสื้อยกทรง เรียนว่า ซ็อกชีมา ด้านนอกสวมกระโปรงยาวกรอมเท้า เรียกว่า ชีมา สวมเสื้อนอกแขนยาวเรียกว่า จอโกรี
ซึ่งปัจจุบันชุดแต่งกาย ฮันบก จะใช้สวมใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่อาจเห็นคนสวมใส่อยู่บ้างโดยเฉพาะผู้สูงอายุยังคงสวมใส่กันอยู่
เกาหลีใต้ หรือ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออก เกาหลีมีพรมแดนทางด้านเหนือติดกับเกาหลีเหนือ ด้านตะวันออเฉียงใต้ติดกับญี่ปุ่น โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นระหว่างสองประเทศเอาไว้ โดยเกาหลีใต้มีพื้นที่ครอบคลุมอาณาบริเวณทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีประชากรประมาณ 50 ล้านคน โดยเชื้อสายส่วนใหญ่ก็เป็นชาวเกาหลี มีชาวจีนที่อาศัยอยู่ตามเขตเมืองหลวงประมาณ 3 หมื่นคน นอกจากนี้ยังมีมีชาวฟิลิปปินส์ และเชื้อสายอื่นๆ
การแบ่งเขตการปกครองของเกาหลี
เกาหลีใต้ได้แบ่งเขตการปกครองดังนี้
- มี 8 จังหวัด คือ คย็องกี, คังว็อน, ชุงช็องเหนือ, ชุงช็องใต้, ช็อลลาเหนือ, ช็อลลาใต้, คย็องซังเหนือ และ คย็องซังใต้
- มี 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ คือ เชจู
- มี 6 มหานคร คือ ปูซาน, แทกู, อินช็อน, แทจ็อน, ควังจู และอุลซัน
- มี 1 นครพิเศษ คือ โซล
- มี 1 นครปกครองตนเองพิเศษ คือ เซจง
ศิลปะของเกาหลีมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะในภาพเขียนหรือเครื่องปั้นต่างๆ ก็มักจะใช้สีอ่อนและเรียบในชิ้นงานนั้น ซึ่งภาพวาดของเกาหลีมีขึ้นมานานแล้ว และพัฒนาสืบต่อกันมา จนในสมัยโชซอนได้มีการผสมผสานศิลปะจากจีนและตะวันตกเข้าด้วยกัน
ส่วนงานหัตถกรรมทั้งหลาย จะเน้นการออกแบบให้ดูเรียบง่ายเน้นประโยชน์ใช้สอยซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นงานไม้จะมีศิลปะการประดับมุก มีงานโลหะทำด้วยทอง มีการสร้างพระพุทธรูปและระฆังวัดหล่อด้วยสำริด เครื่องปั้นดินเผามีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะที่ทำมาจากศิลาดล ฝีมือปราณีตบรรจง ซึ่งทำให้มีการจัดเทศกาลเครื่องปั้นดินเผาขึ้นอีกด้วย
ในเรื่องของตัวอักษรเกาหลี มีต้นแบบมาจากอักษรจีนที่เข้ามามีอิทธิพลกว่า 1,500 ปีแล้ว และต่อมาจึงประดิษฐ์อักษรของตนเอง คือ อักษรอัลกึล
ศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันที่เรียกว่า บุดกึลซึ ต้องประกอบด้วย 4 อย่างคือ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กัน และกระดาษ ซึ่งผู้เขียนมักเป็นนักปราชญ์หรือจิตรกร
เครื่องแต่งกายประจำชาติของเกาหลี - เที่ยวเกาหลี
ชุดประจำชาติของชาวเกาหลีเรียกว่า ฮันบก ซึ่งมีลักษณะหลวมๆ เพื่อความคล่องตัวและสะดวกสบาย จะเป็นการใช้ผ้าผูกโดยไม่มีกระดุมหรือตะขอ ทำจากผ้าสีสันสดใส เนื้อผ้าขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กผู้หญิงจะใส่กระโปรแดงเสื้อเหลือง ถ้าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงแดงเสื้อเขียว ส่วนหญิงสูงอายุสามารถใช้สี่สันหลากหลาย
ชุดของผู้ชาย ข้างล่างประกอบด้วย ปันซือ หรือในสมัยใหม่เรียกว่า แพนที ซึ่งหมายถึงกางเกงใน ชั้นนอกสวมกางเกงขายาวหลวมๆ เรียกว่า บาจี รวบปลายขาไว้ด้วยแถบผ้าที่ใช้มัดกางเกงเรียกว่า แทมิน เที่ยวเกาหลี ทัวร์เกาหลี
ส่วนด้านบนเป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นสวมไว้ข้างใน เรียกว่า บันโซเม และสวมทับด้วยเสื้อนอกแขนยาว ไม่มีปก ไม่มีกระเป๋า เรียกว่า จอโกลี
ชุดของผู้หญิง ประกอบด้วยกระโปรงที่อยู่ข้างในเรียกว่า แพนที ส่วนด้านบนเป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ผันรอบอกแทนเสื้อยกทรง เรียนว่า ซ็อกชีมา ด้านนอกสวมกระโปรงยาวกรอมเท้า เรียกว่า ชีมา สวมเสื้อนอกแขนยาวเรียกว่า จอโกรี
ซึ่งปัจจุบันชุดแต่งกาย ฮันบก จะใช้สวมใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่อาจเห็นคนสวมใส่อยู่บ้างโดยเฉพาะผู้สูงอายุยังคงสวมใส่กันอยู่
Thursday, June 11, 2015
ทัวร์อังกฤษ เที่ยวอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ อังกฤษ 8 วัน 5 คืน
บินสู่เมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ (Scotland) เข้าชมปราสาทเอดินเบิร์ก (Edinburge Castle ) เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก๊อต ชมเลคดิสทริค (Lake District) อุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขนานนามว่าดีและสวยที่สุดของอังกฤษ แฟนบอลไม่พลาดเข้าชมสนามฟุตบอลของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Old Trafford Stadium) เที่ยวบ้านเกิดของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare ) เยือนเมืองคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) เมืองหลวงแห่งเวลส์ (Wales) ชมพิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน(Roman Bath Museum) อดีตที่ยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองของชาวโรมันที่เมืองบาธ ตื่นตาตื่นใจกับเสาหินสโตนเฮ้นจ์ (Stonehenge) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ช้อปปิ้งจุใจที่ห้างแฮร์รอดส์ และถนนอ๊อกฟอร์ด ใจกลางกรุงลอนดอน (London)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 1 กรุงเทพ
17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 น. ออกเดินทางสู่อาบูดาบี้ โดยสายการบินเอทิฮัด เที่ยวบินที่ EY 401
วันที่ 2 อาบูดาบี้ – เอดินบะระ - ปราสาทเอดินบะระ
00.05 น. เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี้ นำท่านเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อ
02.20 น. ออกเดินทางต่อสู่เอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EY27
07.20 น. ถึงสนามบินเอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเข้าสู่เมืองเอดินเบิร์ก (Edinburgh) เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ (Scothland) ดินแดนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยงาม นำท่านเดินทางสู่ย่านเมืองเก่า สู่ถนนรอยัลไมล์ (Royal Mile) ถนนสายสำคัญที่เชื่อมสู่พระตำหนักโฮลี่รู๊ด (Palace of Holyrood House) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชินี เวลาเสด็จเยือนสกอตแลนด์ และเคยเป็นที่ประทับของพระนางแมรีแห่ง สก็อต ฝั่งตรงข้ามเป็นรัฐสภาแห่งชาติสก็อตอันน่าภาคภูมิใจ ด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านเข้าชมปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle ) อันสง่างามด้วยทำเลที่ตั้งบนเนินเขาสูง มองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก๊อต แบ่งเป็นส่วนต่างๆอย่างน่าชม อาทิ ส่วนของป้อมปราการและกำแพงปราสาทโบราณ มีปืนใหญ่เรียงราย รวมทั้งประเพณีการยิงปืนใหญ่ในเวลา 13.00 น. ของทุกวันตลอด 150 ปีที่ผ่านมา, โบสถ์เซนต์ มากาเร็ต สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่อรำลึกถึงพระมารดาของกษัตริย์เดวิดที่ 1 แล้วเข้าสู่พระราชฐานชั้นในส่วนที่เป็น The Palace จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวของราชวงศ์แห่งสก็อต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม NOVOTEL EDINBURGH PARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 เอดินบะระ – วินเดอร์เมียร์ – ล่องเรือเลคดิสทริค - แมนเชสเตอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองวินเดอร์เมียร์ (Windermere) สู่เขตเลคดิสทริค (Lake District) อุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขนานนามว่าดีและสวยที่สุดของอังกฤษ ที่กว้างขวางและครอบคลุมทะเลสาบถึง 16 แห่ง นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศของ ด้วยการล่องเรือเลคดิสทริค ที่ท่านจะได้ชื่นชมกับความเป็นธรรมชาติในทะเลสาบจากแอมเบิลไซด์สู่เมืองเบาว์เนส ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามยิ่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) เมืองอุตสาหกรรม ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก เป็นศูนย์กลางศิลปะ สื่อ และธุรกิจขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งของสโมสรที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการฟุตบอลของโลก โดยมีสโมสรฟุตบอล 3 สโมสร ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรคริกเก็ต แลงคาเชียร์ เคาน์ตี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CROWNE PLAZA MANCESTER CITY CENTER หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 เข้าชมสนามฟุตบอลโอลด์ แทรฟฟอร์ด – OUTLET - ลิเวอร์พูล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเข้าชมสนามฟุตบอลโอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford Stadium and Museum Tour ) ของสโมสรแมนยูฯ ที่จัดว่ารวยที่สุดในโลก เป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ รองรับแฟนบอลได้มากถึง 76,212 คน เป็นรองจากสนามเวมบลีย์ สเตเดียม (Wembley Stadium) สนามฟุตบอลของทีมชาติอังกฤษเพียงแห่งเดียว และใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของยุโรปนอกจากนั้นยังเป็น 1 ใน 2 สนามในอังกฤษที่ ยูฟ่า รับรองเป็นสนาม 5 ดาว รวมทั้งเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (Museum) ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสโมสร และ ยังมีสิ่งของ ถ้วยรางวัลต่างๆ แสดงโชว์อยู่ด้วย จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกของทีมที่ท่านชื่นชอบในร้าน MEGA STORE ที่มากมายไปด้วยของที่ระลึกหลากหลายชนิดสำหรับแฟนบอล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านสู่ CHESHIRE OAKS DESIGNER OUTLET เพื่อซื้อสินค้าที่ลดราคาแบบสุดๆอิสระให้ท่านได้เดินเล่นเลือกซื้อสินค้ามีกว่า 140 ร้านค้า อาทิ เช่น Amani, Barbour, Gap, Diesel, French Connection,Polo Ralph lauren, Hugo Boss, Samsonite, Burbury, Superdry, Calvin Klein,Next,Mulburry ,M&S Outlet ฯลฯ จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองลิเวอร์พูล (Liverpool) ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2008 และยังเป็นเมืองถิ่นกำเนิดของวงดนตรีสี่เต่าทองหรือเดอะบีทเทิล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม LIVERPOOL MARRIOTT HOTEL CITY CENTER หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ลิเวอร์พูล – บ้านเช็คสเปียร์ – คาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงประเทศเวลส์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางต่อสู่ เมืองสแตรทฟอร์ด (Stratford Upon Avon) เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอน อันเป็นบ้านเกิดของ วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare ) กวีที่มีชื่อเสียงที่สุดของอังกฤษ นำท่านเที่ยวชมเมืองแสตรทฟอร์ด ซึ่ง ร่มรื่นไปด้วยสวนสาธารณะ นำชมบ้านเช็คสเปียร์ (ด้านนอก) และชีวิตความเป็นอยู่ของกวีเอกในอดีต ชมโบสถ์เก่าแก่ Holy Trinity แม่น้ำเอวอนอันเงียบสงบ และสถานที่ในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกวีเอกผู้นี้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกจากร้านค้ามากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) เมืองหลวงประเทศเวลส์ (Wales) หนึ่งในเครือจักรภพ กลางใจเมืองเป็นที่ตั้งของปราสาทคาร์ดิ๊ฟ เดิมเป็นที่พำนักของขุนนางผู้ปกครองเมือง ถูกล้อมรอบไว้ด้วยกำแพงโบราณ จากนั้นผ่านชมศาลาว่าการเมืองและกลุ่มอาคารโบราณเก่าแก่ผ่านชมเมือง สวนสาธารณะคาร์ดิ๊ฟ, สนามกีฬามิลเลนเนียม, อาคารที่ทำการของรัฐ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CARDIFF MARRIOTT หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 คาร์ดิฟฟ์ – เมืองบาธ – เสาหินสโตนเฮ้นจ์ – ลอนดอน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางต่อสู่เมืองบาธ (Bath) ตั้งอยู่ในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมันสมัยที่ยังเรืองอำนาจ และเป็นผู้สร้างโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) และยังได้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1987 นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน (Roman Bath Museum) ซึ่งมีประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ ปัจจุบันเป็นกลุ่มอาคารสำคัญของเมือง คือ บริเวณที่เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนคิงส์ (The Sacred Spring) ส่วนที่สอง คือ บริเวณวัด และส่วนที่สาม คือ บริเวณที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองใช้บริการน้ำแร่ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ, บ่อน้ำแร่เย็น-ร้อน,ห้องอบไอน้ำ และส่วนที่เป็น Turkish Bath
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาลิสบัวรี่ (Salisbury) นำท่านชมเสาหินสโตนเฮ้นจ์ (Stonehenge) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุกว่า 5,000 ปี เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่ ซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่มหานครลอนดอน (London) เมืองที่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น ศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญของยุโรปอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HILTON LONDON WEMBLEY หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 เที่ยวลอนดอน – หอนาฬิกาบิกเบน – ถนนอ๊อกฟอร์ด – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม มหานครลอนดอน ผ่านพิคคาดิลลี่เซอร์คัส (Piccadilly Circus) เดิมเป็นวงเวียนที่บรรจบของถนน 6 สาย มีน้ำพุ และรูปปั้นอีรอสตรงกลาง และเข้าสู่ไชน่าทาวน์ ย่านชุมชนชาวจีนกลางมหานครลอนดอน ผ่านจัตุรัสทราฟัลก้าร์ (Trafalgar Square) ที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่น่าสนใจ ผ่านมหาวิหารเซนต์ปอล (St.Paul’s Cathedral) ที่มียอดโดมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก สถานที่ใช้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ล และเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์ แล้วเข้าสู่จัตุรัสรัฐสภา ถ่ายรูปบริเวณด้านนอกของมหาวิหารเวสท์มินส์เตอร์ (Westminster Abbey) ที่ตั้งของรัฐสภาอังกฤษมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 และยังเป็นที่ตั้งของหอนาฬิกาที่รู้จักกันดีในนามหอนาฬิกาบิกเบน (Big ben) ที่มีความสูง 320 ฟุต ตีบอกเวลาทุกหนึ่งชั่วโมง เป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลกและฝั่งตรงข้ามที่มีแม่น้ำเทมส์กั้นอยู่เป็นที่ตั้งของชิงช้าสวรรค์ลอนดอน อาย (London Eye) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอกของพระราชวังบั้คกิ้งแฮม (Buckingham Palace) ที่ประทับของพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามี ใจกลางกรุงลอนดอน
เที่ยง
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร โฟร์ซีซั่น เพื่อลิ้มรสเป็ดย่างอันเลื่องชื่อ
บ่าย จากนั้นพาท่านเลือกซื้อสิ้นค้าในย่านไนซ์บริดจ์ (Knights Bridge) ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง ฮาร์วีย์ นิโคล(Harvey Nicole) และ แฮร์รอดส์ (Harrods) ที่ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งกระเป๋าแฮร์รอดส์ที่นิยมกันอย่างมาก รวมทั้งมีร้านค้าแฟชั่นมากมายตั้งอยู่บริเวณ High Street เช่น Accessorize, H&M ,Zara,Kipling , Gant , Hugo Boss ,Porsche Deign ,Bally และยังมีถนนสโลน(Sloane Street) ที่เป็นที่ตั้งของร้าน Super Brands อาทิ เช่น Louis Vuitton ,Chanel ,Hermes, Gucci ,Valentino, Salvatore Ferragamo, MCM , Ermenegildo Zegna, Alberta Ferretti, Shanghai Tang, Dior , Giorgio Armani , Dolce & Gabrana , Bottega Veneta , Bvlgari Fendi ฯลฯ
16.00 น. พาท่านเดินทางสู่สนามบินฮีทโธรว์ เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ คืนภาษี (Tax Refund) และเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในสนามบิน
20.20 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ EY18
วันที่ 8 อาบูดาบี้ - กรุงเทพฯ
07.20 น.
เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี้ แวะรอเปลี่ยนเครื่อง
10.40 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EY404
19.45 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 1 กรุงเทพ
17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 น. ออกเดินทางสู่อาบูดาบี้ โดยสายการบินเอทิฮัด เที่ยวบินที่ EY 401
วันที่ 2 อาบูดาบี้ – เอดินบะระ - ปราสาทเอดินบะระ
00.05 น. เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี้ นำท่านเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อ
02.20 น. ออกเดินทางต่อสู่เอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EY27
07.20 น. ถึงสนามบินเอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเข้าสู่เมืองเอดินเบิร์ก (Edinburgh) เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ (Scothland) ดินแดนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยงาม นำท่านเดินทางสู่ย่านเมืองเก่า สู่ถนนรอยัลไมล์ (Royal Mile) ถนนสายสำคัญที่เชื่อมสู่พระตำหนักโฮลี่รู๊ด (Palace of Holyrood House) ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชินี เวลาเสด็จเยือนสกอตแลนด์ และเคยเป็นที่ประทับของพระนางแมรีแห่ง สก็อต ฝั่งตรงข้ามเป็นรัฐสภาแห่งชาติสก็อตอันน่าภาคภูมิใจ ด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
แล้วนำท่านเข้าชมปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle ) อันสง่างามด้วยทำเลที่ตั้งบนเนินเขาสูง มองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก๊อต แบ่งเป็นส่วนต่างๆอย่างน่าชม อาทิ ส่วนของป้อมปราการและกำแพงปราสาทโบราณ มีปืนใหญ่เรียงราย รวมทั้งประเพณีการยิงปืนใหญ่ในเวลา 13.00 น. ของทุกวันตลอด 150 ปีที่ผ่านมา, โบสถ์เซนต์ มากาเร็ต สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่อรำลึกถึงพระมารดาของกษัตริย์เดวิดที่ 1 แล้วเข้าสู่พระราชฐานชั้นในส่วนที่เป็น The Palace จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวของราชวงศ์แห่งสก็อต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม NOVOTEL EDINBURGH PARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 เอดินบะระ – วินเดอร์เมียร์ – ล่องเรือเลคดิสทริค - แมนเชสเตอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองวินเดอร์เมียร์ (Windermere) สู่เขตเลคดิสทริค (Lake District) อุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขนานนามว่าดีและสวยที่สุดของอังกฤษ ที่กว้างขวางและครอบคลุมทะเลสาบถึง 16 แห่ง นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศของ ด้วยการล่องเรือเลคดิสทริค ที่ท่านจะได้ชื่นชมกับความเป็นธรรมชาติในทะเลสาบจากแอมเบิลไซด์สู่เมืองเบาว์เนส ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามยิ่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) เมืองอุตสาหกรรม ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก เป็นศูนย์กลางศิลปะ สื่อ และธุรกิจขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งของสโมสรที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการฟุตบอลของโลก โดยมีสโมสรฟุตบอล 3 สโมสร ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรคริกเก็ต แลงคาเชียร์ เคาน์ตี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CROWNE PLAZA MANCESTER CITY CENTER หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 เข้าชมสนามฟุตบอลโอลด์ แทรฟฟอร์ด – OUTLET - ลิเวอร์พูล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเข้าชมสนามฟุตบอลโอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford Stadium and Museum Tour ) ของสโมสรแมนยูฯ ที่จัดว่ารวยที่สุดในโลก เป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ รองรับแฟนบอลได้มากถึง 76,212 คน เป็นรองจากสนามเวมบลีย์ สเตเดียม (Wembley Stadium) สนามฟุตบอลของทีมชาติอังกฤษเพียงแห่งเดียว และใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของยุโรปนอกจากนั้นยังเป็น 1 ใน 2 สนามในอังกฤษที่ ยูฟ่า รับรองเป็นสนาม 5 ดาว รวมทั้งเข้าชมพิพิธภัณฑ์ (Museum) ที่รวบรวมประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสโมสร และ ยังมีสิ่งของ ถ้วยรางวัลต่างๆ แสดงโชว์อยู่ด้วย จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกของทีมที่ท่านชื่นชอบในร้าน MEGA STORE ที่มากมายไปด้วยของที่ระลึกหลากหลายชนิดสำหรับแฟนบอล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านสู่ CHESHIRE OAKS DESIGNER OUTLET เพื่อซื้อสินค้าที่ลดราคาแบบสุดๆอิสระให้ท่านได้เดินเล่นเลือกซื้อสินค้ามีกว่า 140 ร้านค้า อาทิ เช่น Amani, Barbour, Gap, Diesel, French Connection,Polo Ralph lauren, Hugo Boss, Samsonite, Burbury, Superdry, Calvin Klein,Next,Mulburry ,M&S Outlet ฯลฯ จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองลิเวอร์พูล (Liverpool) ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2008 และยังเป็นเมืองถิ่นกำเนิดของวงดนตรีสี่เต่าทองหรือเดอะบีทเทิล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม LIVERPOOL MARRIOTT HOTEL CITY CENTER หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ลิเวอร์พูล – บ้านเช็คสเปียร์ – คาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงประเทศเวลส์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางต่อสู่ เมืองสแตรทฟอร์ด (Stratford Upon Avon) เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอน อันเป็นบ้านเกิดของ วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare ) กวีที่มีชื่อเสียงที่สุดของอังกฤษ นำท่านเที่ยวชมเมืองแสตรทฟอร์ด ซึ่ง ร่มรื่นไปด้วยสวนสาธารณะ นำชมบ้านเช็คสเปียร์ (ด้านนอก) และชีวิตความเป็นอยู่ของกวีเอกในอดีต ชมโบสถ์เก่าแก่ Holy Trinity แม่น้ำเอวอนอันเงียบสงบ และสถานที่ในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกวีเอกผู้นี้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกจากร้านค้ามากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff) เมืองหลวงประเทศเวลส์ (Wales) หนึ่งในเครือจักรภพ กลางใจเมืองเป็นที่ตั้งของปราสาทคาร์ดิ๊ฟ เดิมเป็นที่พำนักของขุนนางผู้ปกครองเมือง ถูกล้อมรอบไว้ด้วยกำแพงโบราณ จากนั้นผ่านชมศาลาว่าการเมืองและกลุ่มอาคารโบราณเก่าแก่ผ่านชมเมือง สวนสาธารณะคาร์ดิ๊ฟ, สนามกีฬามิลเลนเนียม, อาคารที่ทำการของรัฐ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CARDIFF MARRIOTT หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 คาร์ดิฟฟ์ – เมืองบาธ – เสาหินสโตนเฮ้นจ์ – ลอนดอน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางต่อสู่เมืองบาธ (Bath) ตั้งอยู่ในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมันสมัยที่ยังเรืองอำนาจ และเป็นผู้สร้างโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) และยังได้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1987 นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน (Roman Bath Museum) ซึ่งมีประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ ปัจจุบันเป็นกลุ่มอาคารสำคัญของเมือง คือ บริเวณที่เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนคิงส์ (The Sacred Spring) ส่วนที่สอง คือ บริเวณวัด และส่วนที่สาม คือ บริเวณที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองใช้บริการน้ำแร่ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ, บ่อน้ำแร่เย็น-ร้อน,ห้องอบไอน้ำ และส่วนที่เป็น Turkish Bath
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาลิสบัวรี่ (Salisbury) นำท่านชมเสาหินสโตนเฮ้นจ์ (Stonehenge) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุกว่า 5,000 ปี เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่ ซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่มหานครลอนดอน (London) เมืองที่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น ศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญของยุโรปอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HILTON LONDON WEMBLEY หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 เที่ยวลอนดอน – หอนาฬิกาบิกเบน – ถนนอ๊อกฟอร์ด – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม มหานครลอนดอน ผ่านพิคคาดิลลี่เซอร์คัส (Piccadilly Circus) เดิมเป็นวงเวียนที่บรรจบของถนน 6 สาย มีน้ำพุ และรูปปั้นอีรอสตรงกลาง และเข้าสู่ไชน่าทาวน์ ย่านชุมชนชาวจีนกลางมหานครลอนดอน ผ่านจัตุรัสทราฟัลก้าร์ (Trafalgar Square) ที่รายล้อมไปด้วยอาคารที่น่าสนใจ ผ่านมหาวิหารเซนต์ปอล (St.Paul’s Cathedral) ที่มียอดโดมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก สถานที่ใช้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ล และเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์ แล้วเข้าสู่จัตุรัสรัฐสภา ถ่ายรูปบริเวณด้านนอกของมหาวิหารเวสท์มินส์เตอร์ (Westminster Abbey) ที่ตั้งของรัฐสภาอังกฤษมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 และยังเป็นที่ตั้งของหอนาฬิกาที่รู้จักกันดีในนามหอนาฬิกาบิกเบน (Big ben) ที่มีความสูง 320 ฟุต ตีบอกเวลาทุกหนึ่งชั่วโมง เป็นนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลกและฝั่งตรงข้ามที่มีแม่น้ำเทมส์กั้นอยู่เป็นที่ตั้งของชิงช้าสวรรค์ลอนดอน อาย (London Eye) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอกของพระราชวังบั้คกิ้งแฮม (Buckingham Palace) ที่ประทับของพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามี ใจกลางกรุงลอนดอน
เที่ยง
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร โฟร์ซีซั่น เพื่อลิ้มรสเป็ดย่างอันเลื่องชื่อ
บ่าย จากนั้นพาท่านเลือกซื้อสิ้นค้าในย่านไนซ์บริดจ์ (Knights Bridge) ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง ฮาร์วีย์ นิโคล(Harvey Nicole) และ แฮร์รอดส์ (Harrods) ที่ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งกระเป๋าแฮร์รอดส์ที่นิยมกันอย่างมาก รวมทั้งมีร้านค้าแฟชั่นมากมายตั้งอยู่บริเวณ High Street เช่น Accessorize, H&M ,Zara,Kipling , Gant , Hugo Boss ,Porsche Deign ,Bally และยังมีถนนสโลน(Sloane Street) ที่เป็นที่ตั้งของร้าน Super Brands อาทิ เช่น Louis Vuitton ,Chanel ,Hermes, Gucci ,Valentino, Salvatore Ferragamo, MCM , Ermenegildo Zegna, Alberta Ferretti, Shanghai Tang, Dior , Giorgio Armani , Dolce & Gabrana , Bottega Veneta , Bvlgari Fendi ฯลฯ
16.00 น. พาท่านเดินทางสู่สนามบินฮีทโธรว์ เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ คืนภาษี (Tax Refund) และเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในสนามบิน
20.20 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ EY18
วันที่ 8 อาบูดาบี้ - กรุงเทพฯ
07.20 น.
เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี้ แวะรอเปลี่ยนเครื่อง
10.40 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EY404
19.45 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ทัวร์ยุโรป เที่ยวยุโรป เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 9 วัน 6 คืน
บินสู่แฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี ชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ชมเมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิส นั่งรถไฟสู่ Top of Europe สถานีรถไฟตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรปที่ตั้งอยู่บน ยอดเขาจูงเฟรา (Jungfrau) เที่ยวกรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิสและเมืองมรดกโลก เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches Cruise) ใจกลางกรุงปารีส
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ S ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่จาก ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับท่าน
23.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK69
วันที่ 2 อิสตันบูล - แฟรงก์เฟิร์ต - นูเรมเบิร์ก
05.35 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.05 น. ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ TK 1587
10.25 น. ถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่นครแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟ แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นเชิญเดินเล่นย่านถนน ZEIL ที่มีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยและร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นนำสมัย หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดที่แฟรงก์เฟิร์ต โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับวิหารเซนต์ลอเรนซ์ วิหารสวยประจำเมือง ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสกลางเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเป็นย่านศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MERCURE NUREMBERG หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 นูเรมเบิร์ก – มิวนิค - ปราสาทนอยชวานสไตน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เข้าสู่นครมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. เชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องเหล็กตราตุ๊กตาคู่ เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เพื่อนำท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม EURO PARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ฟุสเซ่น – วาดุซ – ลูเซิร์น - อินเทอลาเคน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของประเทศลิกเตน สไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ประชากรทั้งประเทศเพียงแค่เกือบ 4 หมื่นคน ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปกลางเต็มไปด้วยภูเขาสูง มีพรมแดนด้านตะวันออกติดกับออสเตรียและด้านตะวันตกติดกับสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว นำท่านเดินเล่นชมเมืองวาดุซ (Vaduz) เป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ที่มีประชากรราว 5,100 คน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นนำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 จากนั้นชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ตั้งอยู่ทะเลสาบสองแห่ง มีภาพของยอดเขา จูงเฟราเป็นฉากหลัง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อินเทอลาเคน - ยอดเขาจุงเฟรา – เบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศทีสวยงามและยังเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟขึ้นสู่ ยอดเขาจูงเฟรา(Jungfrau) เเละ เมื่อปี ค.ศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขายูงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขายูงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจูงเฟราย๊อช (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร จากนั้นพาท่านชมวิวที่ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป นำคณะเดินทางลงจากยอดเขาโดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิม ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างกันจนถึงสถานีรถไฟเมืองลาวท์เทอบรุนเนิน (Lauterbrunnen) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN WESTSIDE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 เบิร์น - ดิจอง – ปารีส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เมืองดิจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด กรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 พระราชวังแวร์ซายส์ - ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ นำเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและเต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเชิญเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเต็มอิ่ม ในราคาถูกที่ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) อาทิ เช่น เครื่องสำอางค์ น้ำหอม นาฬิกาหรือกระเป๋า จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่สุดหรูใจกลางกรุงปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 8 ถนนชองป์เอลิเซ่ – หอไอเฟล – ล่องเรือ - สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีสผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวแนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส จากนั้นเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน, นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 ให้เวลาท่านได้เลือกซื้อสินค้าชั้นนำบนถนนชองป์เอลิเซ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูหรา สินค้าแฟชั่นมากมาย แล้วนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) จากนั้นนำเดินทางสู่ สนามบินชาร์ล เดอ โกลด์ เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
14.30 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK1828
18.15 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่ 9 อิสตันบูล – กรุงเทพฯ
00.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK68
14.15 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ S ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่จาก ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับท่าน
23.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK69
วันที่ 2 อิสตันบูล - แฟรงก์เฟิร์ต - นูเรมเบิร์ก
05.35 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.05 น. ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ TK 1587
10.25 น. ถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่นครแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟ แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นเชิญเดินเล่นย่านถนน ZEIL ที่มีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยและร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นนำสมัย หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดที่แฟรงก์เฟิร์ต โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับวิหารเซนต์ลอเรนซ์ วิหารสวยประจำเมือง ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสกลางเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเป็นย่านศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MERCURE NUREMBERG หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 นูเรมเบิร์ก – มิวนิค - ปราสาทนอยชวานสไตน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เข้าสู่นครมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. เชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องเหล็กตราตุ๊กตาคู่ เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เพื่อนำท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม EURO PARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ฟุสเซ่น – วาดุซ – ลูเซิร์น - อินเทอลาเคน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของประเทศลิกเตน สไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ประชากรทั้งประเทศเพียงแค่เกือบ 4 หมื่นคน ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปกลางเต็มไปด้วยภูเขาสูง มีพรมแดนด้านตะวันออกติดกับออสเตรียและด้านตะวันตกติดกับสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว นำท่านเดินเล่นชมเมืองวาดุซ (Vaduz) เป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ที่มีประชากรราว 5,100 คน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นนำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 จากนั้นชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ตั้งอยู่ทะเลสาบสองแห่ง มีภาพของยอดเขา จูงเฟราเป็นฉากหลัง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อินเทอลาเคน - ยอดเขาจุงเฟรา – เบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศทีสวยงามและยังเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟขึ้นสู่ ยอดเขาจูงเฟรา(Jungfrau) เเละ เมื่อปี ค.ศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขายูงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขายูงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจูงเฟราย๊อช (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร จากนั้นพาท่านชมวิวที่ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป นำคณะเดินทางลงจากยอดเขาโดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิม ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างกันจนถึงสถานีรถไฟเมืองลาวท์เทอบรุนเนิน (Lauterbrunnen) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN WESTSIDE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 เบิร์น - ดิจอง – ปารีส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เมืองดิจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด กรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 พระราชวังแวร์ซายส์ - ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ นำเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและเต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเชิญเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเต็มอิ่ม ในราคาถูกที่ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) อาทิ เช่น เครื่องสำอางค์ น้ำหอม นาฬิกาหรือกระเป๋า จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่สุดหรูใจกลางกรุงปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 8 ถนนชองป์เอลิเซ่ – หอไอเฟล – ล่องเรือ - สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีสผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวแนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส จากนั้นเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน, นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 ให้เวลาท่านได้เลือกซื้อสินค้าชั้นนำบนถนนชองป์เอลิเซ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูหรา สินค้าแฟชั่นมากมาย แล้วนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) จากนั้นนำเดินทางสู่ สนามบินชาร์ล เดอ โกลด์ เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
14.30 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK1828
18.15 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่ 9 อิสตันบูล – กรุงเทพฯ
00.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK68
14.15 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
ทัวร์เกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ 7 วัน 5 คืน
1. เมืองไคร้สท์เชิร์ช ที่ได้รับสมญานามว่า “เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ” และมีแม่น้ำเอว่อน ที่ไหลผ่านกลางเมืองอย่างสงบเยือกเย็น
2. ดะนีดิน เมืองแห่งชาวสก็อตแลนด์ที่เต็มไปด้วยโบสถ์อันเก่าแก่สวยงามริมอ่าวโอทาโก
3. ปราสาทลาร์นัค (LARNACH CASTLE) ปราสาทแบบสก็อตแลนด์แห่งเดียวในนิวซีแลนด์ ปราสาทนี้เป็นบ้านส่วนตัวของตระกูลบาร์เกอร์
4. วนอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ( MILFORD SOUND) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
5. ทะเลสาบเทคาโป ที่ผืนน้ำมีสีเขียวอมฟ้า สีพิเศษนี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับธารน้ำแข็งจากภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีไหลลงมาสู่ทะเลสาบเทคาโป ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ และ โบสถ์ขนาดเล็กที่สุด
6. กระเช้ากอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค ท่านจะได้สัมผัสความงามของเมืองควีนส์ทาวน์และทะเลสาบวาคาทีปู
7. ควีนส์ทาวน์ เมืองที่สวยงามริมทะเลสาบวาคาทีปูที่มีน้ำใสสะอาดและโอบล้อมด้วยภูเขาสูงและมีกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด อาทิ เช่นนั่งเรือเจ็ทโบ๊ท การกระโดดบันจี้
8. ชมการกระโดดบันจี้ที่สะพานคาวารัวเป็นการกระโดดบันจี้แห่งแรกของโลกที่เปิดทำการให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นนี้จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
9. แอร์โร่ทาวน์ เมืองเล็กๆ ที่ยังคงรักษาบรรยากาศของยุคตื่นทองใน ช่วงกลางศตวรรษที่ 19
10. พิเศษ !!! เมนูพิเศษ พร้อมเป๋าฮื้อทะเลใต้พร้อมกุ้งมังกร
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ – ไคร้สท์เชิร์ช
12.30 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 5 แถว K เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับพร้อมบริการเอกสารการเดินทาง
15.30 น. เหิรฟ้าสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ SQ 977
18.55 น. เดินทางถึง สิงคโปร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องบิน
19.45 น. ออกเดินทางสู่ ไคร้สท์เชิร์ช โดยเที่ยวบินที่ SQ 297
วันที่ 2 ไคร้สท์เชิร์ช ชมเมือง – แอชเบอร์ตั้น - ทะเลสาบเทคาโป ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ – ทไวเซิล
09.30 น. เดินทางถึงเมืองไคร้สท์เชิร์ช เกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศนิวซีแลนด์ หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางสู่ เมืองแอชเบอร์ตัน เมืองที่อยู่ทุ่งราบแคนเทอร์เบอร์รีที่คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงแกะ หรือฟาร์มวัว ให้ท่านได้แวะช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เซรั่ม ครีมลาโนลิน หรือจะชื้อของฝาก อาทิเช่นตุ๊กตาแกะ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน อาหารจีน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางต่อสู่ ทะเลสาบเทคาโป ที่สวยงามและเงียบสงบน้ำในทะเลสาบมีสีเขียวอมฟ้าหรือบางท่านเรียกว่าทะเลสาบสีน้ำนม สีพิเศษนี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับธารน้ำแข็งของภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีไหลลงมาสู่ทะเลสาบ ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ ที่เจ้าของฟาร์มให้ความสำคัญมากเพราะช่วยเจ้าของในการต้อนแกะในฟาร์มอันกว้างใหญ่ และใกล้ๆกันนั้นท่านจะได้เห็นโบสถ์ขนาดเล็ก CHURCH OF GOOD SHEPHERD โบสถ์ที่เล็กที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ที่ยังคงใช้ในการการประกอบพิธีทางศาสนาอยู่จากอดีตจนถึงปัจจุบัน หากท่านเข้าไปด้านในมองผ่านหน้าต่างออกมาด้านนอกแล้วท่านจะประทับใจกับวิวของทะเลสาบเทคาโปและยอดเขาที่สวยงามราวกับภาพวาด นำท่านเดินทางผ่านชมทะเลสาบปูคากิ ที่มีความงดงามดั่งภาพวาด แวะจุดชมวิวของ อุทยานแห่งชาติเม้าท์คุ้ก บริเวณเทือกเขาเซาท์เทิร์นแอลป์ ยอดเขาเม้าท์คุ้กที่มีความสูงถึง 3,754 เมตร ยอดเขามีหิมะและธารน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ แบบตะวันตกในโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MACKENZIE COUNTRY INN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ทไวเซิล – ครอมเวลล์ – ควีนส์ทาวน์ – กอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีคและเล่นลูจ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
นำท่านเดินทางผ่านเมืองโอมาราม่า เมืองขนาดเล็กบนที่ราบสูง ผ่านเมืองครอมเวลล์ เมืองแห่งสวนผลไม้ ให้ท่านได้แวะซื้อผลไม้สด แห้ง และแปรรูปนานาชนิดของนิวซีแลนด์ จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองควีนส์ทาวน์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ภัตตาคาร
ชมการกระโดดบันจี้ที่สะพานคาวารัว เป็นการกระโดดบันจี้แห่งแรกของโลกที่เปิดทำการให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นนี้จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและเป็นกิจกรรมที่จะพลาดไม่ได้เมื่อท่านมาเที่ยวนิวซีแลนด์ กระโดดจากสะพานด้วยความสูง 43 เมตร สู่พื้นน้ำอันใสและเชี่ยวกราดใต้สะพาน หรือท่านจะเลือกนั่งเรือเร็วเจ็ทโบ๊ทที่วิ่งด้วยความเร็วผ่านโขดหินสูงชันและแม่น้ำที่แคบเล็กและหลเชี่ยวอย่างตื่นเต้นสุด ๆ (การกระโดดบันจี้ และการนั่งเรือเร็วเจ็ทโบ๊ท เป็นทัวร์นอกรายการ สำหรับท่านที่ต้องการจะร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์เพื่อจองเวลาล่วงหน้า) ชมเมืองควีนส์ทาวน์ เมืองขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่กลางธรรมชาติที่งดงามริมทะเลสาบที่มีน้ำใสเป็นสีฟ้าแสนสวยที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องมาเยือน นำท่านขึ้นกระเช้ากอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค เป็นกระเช้าที่นั่งได้ 4 คนระยะทางขึ้นสู่ยอดเขา 730 เมตร ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์ทั้งเมืองในมุมสูงที่ท่านจะมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างตามไหล่เขาพร้อมกับทะเลสาบวาคาทีปูที่สวยงามด้านล่าง ชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว และให้ท่านได้เล่นลูจ (Luge)ซึ่งเป็นรถเลื่อนที่อาศัยความลาดชันของไหลเขาลงสู่ด้านล่างพร้อมให้ท่านได้ตี่นเต้นบนความสูงของยอดเขาพร้อมทัศนียภาพที่งดงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม COPTHORNE LAKEFRONT / MILLENNIUM HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ควีนส์ทาวน์ - เต อานาว – มิลฟอร์ดซาวน์ – ควีนส์ทาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
ออกเดินทางสู่มิลฟอร์ดซาวน์ โดยผ่านทะเลสาบเตอานาว ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ผ่านเขตป่าพรุ ป่าเบญจพรรณ ทุ่งกว้าง เข้าสู่วนอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ( MILFORD SOUND) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ของขั้วโลกใต้ซึ่งมีในลักษณะนี้เพียง 2 แห่งในโลก กล่าวคือภูมิประเทศแบบทะเลที่เคยเป็นธารน้ำแข็งในยุคโบราณ กัดเซาะหินทำให้น้ำท่วมแทนที่กลายเป็นอ่าวลึกระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามที่สร้างโดยธรรมชาติทะเลสาบ MIRROR LAKE ทะเลสาบที่ใสราวกระจก เป็นทะเลสาบที่ท่านจะสามารถมองสะท้อนภาพภูเขา ซึ่งเป็นวิวอยู่เบื้องล่าง และให้ท่านดื่มน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ MONKEY CREEK และแวะชมน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่ที่ CHASM
เที่ยง นำท่านล่องเรือสำราญ MILFORD MONARCH CRUISE ชมความงามของธรรมชาติโดยรอบ ตื่นตาตื่นใจกับภาพของสายน้ำตกอันสูงตระหง่านของ น้ำตกโบเวน ซึ่งมีความสูง160เมตรจากหน้าผา ชมแมวน้ำนอนอาบแดดบนโขดหินอย่างสบายใจ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟต์บนเรือ จากนั้นล่องเรือกลับสู่ท่าเรือ เพื่อเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศกลับสู่เมืองควีนส์ทาวน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ อาหารจีน ณ ภัตตาคาร พิเศษ..กุ้งมังกรและเป๋าฮื้อทะเลใต้
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม COPTHORNE LAKEFRONT / MILLENNIUM HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ควีนส์ทาวน์ – ดะนีดิน ชมเมือง – ปราสาทลาร์นัค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เมืองดะนีดินเมืองผ่านฟาร์มเลี้ยง ฟาร์มวัวที่เลี้ยงตามเนินเขาที่กว้างใหญ่และภูเขาที่สวยงาม เมืองดะนีดินเป็นเมืองแห่งสก็อตแลนด์แห่งดินแดนขั่วโลกใต้ที่สวยงามริมอ่าวโอทาโก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำชมตัว เมืองดะนิดิน เมืองที่เคยเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ในยุคตื่นทองและได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสก๊อตแลนด์ ผ่านชมสถานที่สำคัญของเมือง ชมมหาวิทยาลัยโอทาโกซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ชมอาคารของสถานีรถไฟฟ้าที่เก่าแก่ ผ่านชมสวนรุกชาติแห่งเมืองดะนีดินที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
นำท่านชม ปราสาทลาร์นัค (LARNACH CASTLE) ปราสาทแบบสก็อตแลนด์แห่งเดียวในนิวซีแลนด์ ปราสาทนี้เป็นบ้านส่วนตัวของตระกูลบาร์เกอร์ ใช้เวลาหลายปีในการปรับปรุงปราสาทให้คงเดิมอย่างตระการตา ให้ท่านเข้าชมการตกแต่งภายในที่สวยงาม อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในสมัยก่อน และห้องต่างๆมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก DUNEDIN CITY HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 ดะนีดิน – ไคร้สท์เชิร์ช ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางสู่เมืองไคร้สท์เชิร์ช ผ่านเมืองโออามารูริมมหาสมุทรที่สวยงามและเดินทางต่อไปยังเมืองทิมารูอีกเมืองเล็ก ๆ
ที่น่ารักอีกเมืองของนิวซีแลนด์ ก่อนจะถึงเมืองแอชเบอร์ตันเมืองแห่งที่ราบแคนเทอร์เบอรี่ที่มีฟาร์มเลี้ยงแกะ ฟาร์มวัวและยังให้ท่านได้แวะช้อปปิ้งสินค้าเพื่อเป็นของฝาก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ถึงสนามบินเมืองไคร้สเชิร์ช นำท่านชม เมืองไคร้สท์เชิร์ช ที่ได้รับสมญานามว่า “เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ” ผ่านชมสวนสาธารณะแฮกลีย์ ศาลาว่าการประจำเมือง ชมความงามของ แม่น้ำเอว่อน (AVON) ที่ไหลผ่านกลางเมืองอย่างสงบเยือกเย็น ท่านจะได้เห็นคนถ่อเรือไปตามสายน้ำที่ไหลเอื่อย มีกิ่งหลิวระย้าอยู่เหนือน้ำ เหมือนในสวนสาธารณะกลางเมืองผู้ดีไม่มีผิด เที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์ จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ ยอดเขาแคชเมียร์ ยอดเขาสูงที่ท่านจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองไคร้สท์เชิร์ช
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารไทย
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก THE ELMS HOTEL / RENDEZVOUSE HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 ไคร้สท์เชิร์ช – สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองไคร้สท์เชิร์ช
11.50 น. เหิรฟ้าสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ SQ 298
17.40 น. เดินทางถึง สิงคโปร์ แวะเปลี่ยนเครื่องบิน
18.50 น. ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ SQ 978
20.05 น. เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ... โดยสวัสดิภาพ
2. ดะนีดิน เมืองแห่งชาวสก็อตแลนด์ที่เต็มไปด้วยโบสถ์อันเก่าแก่สวยงามริมอ่าวโอทาโก
3. ปราสาทลาร์นัค (LARNACH CASTLE) ปราสาทแบบสก็อตแลนด์แห่งเดียวในนิวซีแลนด์ ปราสาทนี้เป็นบ้านส่วนตัวของตระกูลบาร์เกอร์
4. วนอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ( MILFORD SOUND) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
5. ทะเลสาบเทคาโป ที่ผืนน้ำมีสีเขียวอมฟ้า สีพิเศษนี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับธารน้ำแข็งจากภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีไหลลงมาสู่ทะเลสาบเทคาโป ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ และ โบสถ์ขนาดเล็กที่สุด
6. กระเช้ากอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค ท่านจะได้สัมผัสความงามของเมืองควีนส์ทาวน์และทะเลสาบวาคาทีปู
7. ควีนส์ทาวน์ เมืองที่สวยงามริมทะเลสาบวาคาทีปูที่มีน้ำใสสะอาดและโอบล้อมด้วยภูเขาสูงและมีกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด อาทิ เช่นนั่งเรือเจ็ทโบ๊ท การกระโดดบันจี้
8. ชมการกระโดดบันจี้ที่สะพานคาวารัวเป็นการกระโดดบันจี้แห่งแรกของโลกที่เปิดทำการให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นนี้จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก
9. แอร์โร่ทาวน์ เมืองเล็กๆ ที่ยังคงรักษาบรรยากาศของยุคตื่นทองใน ช่วงกลางศตวรรษที่ 19
10. พิเศษ !!! เมนูพิเศษ พร้อมเป๋าฮื้อทะเลใต้พร้อมกุ้งมังกร
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ – ไคร้สท์เชิร์ช
12.30 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 5 แถว K เคาน์เตอร์ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับพร้อมบริการเอกสารการเดินทาง
15.30 น. เหิรฟ้าสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ SQ 977
18.55 น. เดินทางถึง สิงคโปร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องบิน
19.45 น. ออกเดินทางสู่ ไคร้สท์เชิร์ช โดยเที่ยวบินที่ SQ 297
วันที่ 2 ไคร้สท์เชิร์ช ชมเมือง – แอชเบอร์ตั้น - ทะเลสาบเทคาโป ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ – ทไวเซิล
09.30 น. เดินทางถึงเมืองไคร้สท์เชิร์ช เกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศนิวซีแลนด์ หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางสู่ เมืองแอชเบอร์ตัน เมืองที่อยู่ทุ่งราบแคนเทอร์เบอร์รีที่คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงแกะ หรือฟาร์มวัว ให้ท่านได้แวะช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เซรั่ม ครีมลาโนลิน หรือจะชื้อของฝาก อาทิเช่นตุ๊กตาแกะ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน อาหารจีน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางต่อสู่ ทะเลสาบเทคาโป ที่สวยงามและเงียบสงบน้ำในทะเลสาบมีสีเขียวอมฟ้าหรือบางท่านเรียกว่าทะเลสาบสีน้ำนม สีพิเศษนี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับธารน้ำแข็งของภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีไหลลงมาสู่ทะเลสาบ ชมอนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะ ที่เจ้าของฟาร์มให้ความสำคัญมากเพราะช่วยเจ้าของในการต้อนแกะในฟาร์มอันกว้างใหญ่ และใกล้ๆกันนั้นท่านจะได้เห็นโบสถ์ขนาดเล็ก CHURCH OF GOOD SHEPHERD โบสถ์ที่เล็กที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ที่ยังคงใช้ในการการประกอบพิธีทางศาสนาอยู่จากอดีตจนถึงปัจจุบัน หากท่านเข้าไปด้านในมองผ่านหน้าต่างออกมาด้านนอกแล้วท่านจะประทับใจกับวิวของทะเลสาบเทคาโปและยอดเขาที่สวยงามราวกับภาพวาด นำท่านเดินทางผ่านชมทะเลสาบปูคากิ ที่มีความงดงามดั่งภาพวาด แวะจุดชมวิวของ อุทยานแห่งชาติเม้าท์คุ้ก บริเวณเทือกเขาเซาท์เทิร์นแอลป์ ยอดเขาเม้าท์คุ้กที่มีความสูงถึง 3,754 เมตร ยอดเขามีหิมะและธารน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ แบบตะวันตกในโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MACKENZIE COUNTRY INN HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ทไวเซิล – ครอมเวลล์ – ควีนส์ทาวน์ – กอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีคและเล่นลูจ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในโรงแรม
นำท่านเดินทางผ่านเมืองโอมาราม่า เมืองขนาดเล็กบนที่ราบสูง ผ่านเมืองครอมเวลล์ เมืองแห่งสวนผลไม้ ให้ท่านได้แวะซื้อผลไม้สด แห้ง และแปรรูปนานาชนิดของนิวซีแลนด์ จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองควีนส์ทาวน์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ภัตตาคาร
ชมการกระโดดบันจี้ที่สะพานคาวารัว เป็นการกระโดดบันจี้แห่งแรกของโลกที่เปิดทำการให้นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นนี้จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและเป็นกิจกรรมที่จะพลาดไม่ได้เมื่อท่านมาเที่ยวนิวซีแลนด์ กระโดดจากสะพานด้วยความสูง 43 เมตร สู่พื้นน้ำอันใสและเชี่ยวกราดใต้สะพาน หรือท่านจะเลือกนั่งเรือเร็วเจ็ทโบ๊ทที่วิ่งด้วยความเร็วผ่านโขดหินสูงชันและแม่น้ำที่แคบเล็กและหลเชี่ยวอย่างตื่นเต้นสุด ๆ (การกระโดดบันจี้ และการนั่งเรือเร็วเจ็ทโบ๊ท เป็นทัวร์นอกรายการ สำหรับท่านที่ต้องการจะร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์เพื่อจองเวลาล่วงหน้า) ชมเมืองควีนส์ทาวน์ เมืองขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่กลางธรรมชาติที่งดงามริมทะเลสาบที่มีน้ำใสเป็นสีฟ้าแสนสวยที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องมาเยือน นำท่านขึ้นกระเช้ากอนโดล่าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค เป็นกระเช้าที่นั่งได้ 4 คนระยะทางขึ้นสู่ยอดเขา 730 เมตร ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์ทั้งเมืองในมุมสูงที่ท่านจะมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างตามไหล่เขาพร้อมกับทะเลสาบวาคาทีปูที่สวยงามด้านล่าง ชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว และให้ท่านได้เล่นลูจ (Luge)ซึ่งเป็นรถเลื่อนที่อาศัยความลาดชันของไหลเขาลงสู่ด้านล่างพร้อมให้ท่านได้ตี่นเต้นบนความสูงของยอดเขาพร้อมทัศนียภาพที่งดงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารไทย
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม COPTHORNE LAKEFRONT / MILLENNIUM HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ควีนส์ทาวน์ - เต อานาว – มิลฟอร์ดซาวน์ – ควีนส์ทาวน์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
ออกเดินทางสู่มิลฟอร์ดซาวน์ โดยผ่านทะเลสาบเตอานาว ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ผ่านเขตป่าพรุ ป่าเบญจพรรณ ทุ่งกว้าง เข้าสู่วนอุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ ( MILFORD SOUND) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ของขั้วโลกใต้ซึ่งมีในลักษณะนี้เพียง 2 แห่งในโลก กล่าวคือภูมิประเทศแบบทะเลที่เคยเป็นธารน้ำแข็งในยุคโบราณ กัดเซาะหินทำให้น้ำท่วมแทนที่กลายเป็นอ่าวลึกระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามที่สร้างโดยธรรมชาติทะเลสาบ MIRROR LAKE ทะเลสาบที่ใสราวกระจก เป็นทะเลสาบที่ท่านจะสามารถมองสะท้อนภาพภูเขา ซึ่งเป็นวิวอยู่เบื้องล่าง และให้ท่านดื่มน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ MONKEY CREEK และแวะชมน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่ที่ CHASM
เที่ยง นำท่านล่องเรือสำราญ MILFORD MONARCH CRUISE ชมความงามของธรรมชาติโดยรอบ ตื่นตาตื่นใจกับภาพของสายน้ำตกอันสูงตระหง่านของ น้ำตกโบเวน ซึ่งมีความสูง160เมตรจากหน้าผา ชมแมวน้ำนอนอาบแดดบนโขดหินอย่างสบายใจ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟต์บนเรือ จากนั้นล่องเรือกลับสู่ท่าเรือ เพื่อเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศกลับสู่เมืองควีนส์ทาวน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ อาหารจีน ณ ภัตตาคาร พิเศษ..กุ้งมังกรและเป๋าฮื้อทะเลใต้
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม COPTHORNE LAKEFRONT / MILLENNIUM HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 ควีนส์ทาวน์ – ดะนีดิน ชมเมือง – ปราสาทลาร์นัค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เมืองดะนีดินเมืองผ่านฟาร์มเลี้ยง ฟาร์มวัวที่เลี้ยงตามเนินเขาที่กว้างใหญ่และภูเขาที่สวยงาม เมืองดะนีดินเป็นเมืองแห่งสก็อตแลนด์แห่งดินแดนขั่วโลกใต้ที่สวยงามริมอ่าวโอทาโก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำชมตัว เมืองดะนิดิน เมืองที่เคยเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ในยุคตื่นทองและได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสก๊อตแลนด์ ผ่านชมสถานที่สำคัญของเมือง ชมมหาวิทยาลัยโอทาโกซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ชมอาคารของสถานีรถไฟฟ้าที่เก่าแก่ ผ่านชมสวนรุกชาติแห่งเมืองดะนีดินที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
นำท่านชม ปราสาทลาร์นัค (LARNACH CASTLE) ปราสาทแบบสก็อตแลนด์แห่งเดียวในนิวซีแลนด์ ปราสาทนี้เป็นบ้านส่วนตัวของตระกูลบาร์เกอร์ ใช้เวลาหลายปีในการปรับปรุงปราสาทให้คงเดิมอย่างตระการตา ให้ท่านเข้าชมการตกแต่งภายในที่สวยงาม อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในสมัยก่อน และห้องต่างๆมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก DUNEDIN CITY HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 ดะนีดิน – ไคร้สท์เชิร์ช ชมเมือง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางสู่เมืองไคร้สท์เชิร์ช ผ่านเมืองโออามารูริมมหาสมุทรที่สวยงามและเดินทางต่อไปยังเมืองทิมารูอีกเมืองเล็ก ๆ
ที่น่ารักอีกเมืองของนิวซีแลนด์ ก่อนจะถึงเมืองแอชเบอร์ตันเมืองแห่งที่ราบแคนเทอร์เบอรี่ที่มีฟาร์มเลี้ยงแกะ ฟาร์มวัวและยังให้ท่านได้แวะช้อปปิ้งสินค้าเพื่อเป็นของฝาก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ถึงสนามบินเมืองไคร้สเชิร์ช นำท่านชม เมืองไคร้สท์เชิร์ช ที่ได้รับสมญานามว่า “เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ” ผ่านชมสวนสาธารณะแฮกลีย์ ศาลาว่าการประจำเมือง ชมความงามของ แม่น้ำเอว่อน (AVON) ที่ไหลผ่านกลางเมืองอย่างสงบเยือกเย็น ท่านจะได้เห็นคนถ่อเรือไปตามสายน้ำที่ไหลเอื่อย มีกิ่งหลิวระย้าอยู่เหนือน้ำ เหมือนในสวนสาธารณะกลางเมืองผู้ดีไม่มีผิด เที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์ จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ ยอดเขาแคชเมียร์ ยอดเขาสูงที่ท่านจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองไคร้สท์เชิร์ช
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารไทย
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก THE ELMS HOTEL / RENDEZVOUSE HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 ไคร้สท์เชิร์ช – สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองไคร้สท์เชิร์ช
11.50 น. เหิรฟ้าสู่ สิงคโปร์ โดยเที่ยวบินที่ SQ 298
17.40 น. เดินทางถึง สิงคโปร์ แวะเปลี่ยนเครื่องบิน
18.50 น. ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ SQ 978
20.05 น. เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ... โดยสวัสดิภาพ
เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมืองเศรษฐกิจพิเศษ
เมืองเซินเจิ้น
เซินเจิ้น เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีชายแดนติดกับฮ่องกง เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด กว่างตง (Guangdong)ประเทศจีน
คนไทยรู้จักในนามมาบุญครองเมืองไทยมีสินค้ามากมายหลายหมวดหมู่ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก
ภายในจำลองสถานที่สำคัญๆ ของเมืองจีน ว่ากันว่าเมื่อมาเที่ยวเมืองจำลองจีนเพียงวันเดียวก็สามารถเข้าใจประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี
ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเผ่าต่างๆทุกมณฑลของจีน
ชมการแสดงโชว์พื้นเมือง ที่มากด้วยความสามารถ เช่น การแสดงการต่อขา ประเพณีนั่งเกี้ยว ชมการแสดงโชว์ศิลป วัฒนธรรมจีน
เซินเจิ้น เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีชายแดนติดกับฮ่องกง เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด กว่างตง (Guangdong)ประเทศจีน
- หลอวู่ ซิตี้ “Lowu City”
คนไทยรู้จักในนามมาบุญครองเมืองไทยมีสินค้ามากมายหลายหมวดหมู่ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก
- เมืองจำลองจีน (Splendid Of China)
ภายในจำลองสถานที่สำคัญๆ ของเมืองจีน ว่ากันว่าเมื่อมาเที่ยวเมืองจำลองจีนเพียงวันเดียวก็สามารถเข้าใจประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี
- หมู่บ้านวัฒนธรรม (China Folk Culture Villages)
ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเผ่าต่างๆทุกมณฑลของจีน
ชมการแสดงโชว์พื้นเมือง ที่มากด้วยความสามารถ เช่น การแสดงการต่อขา ประเพณีนั่งเกี้ยว ชมการแสดงโชว์ศิลป วัฒนธรรมจีน
ทัวร์จีน เที่ยวเซี่ยงไฮ้ อู๋ซี ซูโจว โจวจวง หังโจว 5 วัน 4 คืน
1.ทัวร์จีน หังโจว ล่องทะเลสาบซีหู
2.โจวจวง ล่องเรือชมหมู่บ้านโบราณ พร้อมชมสินค้าพื้นเมือง
3.ซูโจว ชมการจัดสวนของเศรษฐีสมัยก่อนที่สวนโอหยวน และชมวัดซีหยวน
4.เซี่ยงไฮ้ ลอดอุโมงค์เลเซอร์ชมหาดไว่ทาน ขึ้นตึก SWFC ชมโชว์อลังการกายกรรม ERA
5.อู๋ซี นมัสการ พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ+ตำหนักฝานกง (รวมรถราง)
6.เที่ยวจีน ช้อปปิ้งจุใจ ถนนโบราณเหอฟังเจีย ถนนนานกิง ตลาด TAOBAOCHENG ตลาดเฉินหวังเมี่ยว
วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ-เซี่ยงไฮ้-ขึ้นตึก SWFC ชั้น 94-เซี่ยงไฮ้-อู๋ซี
07.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประตู 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
10.35 น. คณะออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 664
15.50 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติผู่ตง เมืองเอกเทศเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นชุมชนเก่าตั้งแต่ยุคสามก๊ก (ปี ค.ศ.220-280) มีหมู่บ้านชาวประมงถึงสมัยราชวงศ์ซ่งได้เปลี่ยนแปลงเป็นเซี่ยงไฮ้ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ หลังจากสงครามฝิ่น ค.ศ. 1848 ตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกเปิดเป็นเมืองท่าและเขตเช่าของนานาชาติ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ ห่างจากปากแม่น้ำแยงซีเกียง 17 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 เขต คือ เขตผู่ตง(ใหม่) และเขตผู่ซี(เก่า) กั้นโดยแม่น้ำหวงผู่ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านขึ้นชมวิวบน ตึก SWFC ชั้นที่ 94 (Shanghai World Financial Center-SWFC) เป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีนด้วยความสูงถึง 492 เมตร มี 101 ชั้น บนพื้นที่ 381,600 ตารางเมตร ให้ท่านชมทัศนียภาพอันงดงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก และสามารถมองเห็นตึกจินเม่า หอไข่มุกทีวี และอาคารต่างๆ พร้อมชมทิวทัศน์ รอบๆ นครเซี่ยงไฮ้
ค่ำ นำท่านเดินทางสู่ เมืองอู๋ซี ซึ่งเป็นเมือง อุตสาหกรรมเบา และมีฉายาว่าเมืองเซี่ยงไฮ้น้อยเดิมมีชื่อว่า ซีซาน เล่ากันว่าเมื่อสองพันปีก่อนมีการผลิตดีบุกในเมืองนี้ และต่อมาแร่ ดีบุกถูกขุดเจาะจนหมดสิ้นแต่บังเอิญมีคนขุดพบศิลาจารึกโบราณชิ้นหนึ่งมีใจความว่า “มีอาวุธ แผ่นดินจะไม่สงบ หากปราศจากอาวุธแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข” จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า อู๋ซี แปลว่าไม่มีตะกั่ว
ที่พัก Landison Plaza Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 2 พระใหญ่หลิงซาน (รวมรถแบตเตอร์รี่)-ร้านไข่มุก-อู๋ซี-ซูโจว-สวนโอหยวน-วัดซีหยวน-ร้านผ้าไหม-Harmony Time Square
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านนมัสการ พระใหญ่หลินซานต้าฝอ (พระพุทธเจ้าปางประสูติ) ชมการแสดงสรงน้ำพระ (เก้ามังกร) จากนั้นนำท่านนั่งรถกอล์ฟ สู่พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 88 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่ ลักษณะพระพักตร์สง่างาม เชิญท่านไหว้พระขอพรตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ วังกบิลพัตรจำลอง ให้ท่านชม ความสวยงามของวัง จากนั้น ผ่านชมพระราชวังโปตาลาและรอยพระพุทธบาทจำลองของยูนนาน แวะร้านไข่มุก สินค้าที่มีคุณภาพ และมีชื่อเสียงของเมืองจีน มีสินค้าให้เลือกซื้อ เลือกชมมากมาย เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไร ครีมไข่มุกเป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูโจว ซึ่งมีประวัติ 2,500 ปีมาแล้ว เดิมมีชื่อว่า “เมืองกู่ซู” ซึ่งเป็นเมืองที่จัดต้นแบบของการจัดสวนจีนที่สวยงาม เป็นอันดับหนึ่งในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสาวงามอีกทั้งเป็นเมืองที่งดงามมากจนได้รับฉายาว่า “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์” พร้อมเมืองหังโจว นำท่านเข้าชมการจัดสวนแบบจีนที่ สวนโอ่วหยวน สวนบ้านเศรษฐีโบราณสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านชม วัดซีหยวน นมัสการพระอรหันต์ไม้แกะสลัก 500 องค์ เจ้าแม่กวนอิม 1,000 มือ 1,000 ตา และพระจี้กงที่แกะสลักอย่างประหลาดที่สุดเพราะใบหน้าแสดงได้ถึง 3 อารมณ์วัดนี้ยังเป็นวัดที่สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จ และได้ถ่ายรูป ณ ลานวัดหน้าโบสถ์ ซึ่งมีต้นแปะก้วยเก่าแก่ปลูกไว้อย่างสวยงาม นำท่านเยี่ยมชม ร้านผ้าไหมจีน ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไหม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าพันคอ ฯลฯ ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร ชมการดึงใยไหมรังแฝด เพื่อมาทำไส้นวมผ้าห่มไหม เหมาะกับการซื้อเป็นทั้งของฝากและใช้เอง จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสหยวนหยง (Suzhou Harmony Time Square) เป็นจัตุรัสแห่งใหม่ที่ชาวต่างชาติมาลงทุนในเมืองซูโจว สร้างได้อย่างสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมแบบใหม่พร้อมชมจอยักษ์ลอยฟ้าความยาวกว่า 500 เมตร
ค่ำ
พักที่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Liverpool Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 3 ซูโจว-โจวจวง-ล่องเรือโจวจวง-หังโจว-ล่องเรือทะเลสาบซีหู-หมู่บ้านใบชา-ถนนโบราณเหอฟังเจี่ย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโจวจวง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งได้รับฉายาว่า "ยอดหมู่บ้านกลางน้ำแห่งเจียงหนาน" ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซู ในเขตเมืองคุนซาน เสน่ห์อันบริสุทธิ์ของโจวจวง ที่คงทนอยู่มานานหลายร้อยปี โดยมากกว่าร้อยละ 60 ของบ้านในโจวจวงนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) และ ราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1911) อันประกอบด้วยชุมชนบ้านริมน้ำหลาย 100 หลัง และ สะพานหินราว 60 หลัง ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันให้ท่านได้ ล่องเรือชมความงดงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองหังโจว เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ปรากกฎร่องรอยในสมัยราชวงศ์ฉิน มีชื่อเรียกว่าเมืองเฉียนถัง สมัยราชวงศ์สุยเปลี่ยนเป็นหังโจว ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งได้ตั้งหังโจวเป็นเมืองหลวง หังโจวเป็นเมืองงดงามด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเลสาบ ต้นไม้ และสวนจนได้รับสมญานามว่า “สวรรค์บนดิน” เนื่องจาก ซูโจว+หังโจว =ซูหัง แปลว่า “ฟากฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนผืนปฐพีก็มี ซู หัง” นำท่าน ล่องเรือทะเลสาบซีหู ชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีเนื้อที่ 5.66 ตารางกิโลเมตร ความยาวโดยประมาณ 15 กิโลเมตร น้ำลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร ชมโคมไฟ 3 โคม ทับแสงในบึงน้ำลึก สมควรแก่เวลานำท่านชม หมู่บ้านใบชาหลงจิ่ง ซึ่งเป็นชาเขียวที่มีชื่อที่สุดของประเทศจีน ให้ท่านได้ชิมชาเพื่อสุขภาพ
ค่ำ
พักที่ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านอิสระช้อปปิ้งที่ ถนนโบราณเหอฟังเจี่ย สินค้ามากมาย เป็น ให้ท่านซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึก เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึกต่าง ๆ
Best Western Premier Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 4 หังโจว-เซี่ยงไฮ้-ร้านบัวหิมะ-ตลาดเฉินหวังเมี่ยว-ตลาดก๊อปปี้ TAOBAOCHENG-ชมกายกรรม ERA
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เซี่ยงไฮ้ ระหว่างทางให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติสองฟากฝั่ง นำท่านชมศูนย์สมุนไพรและค้นคว้า ยาแผนโบราณหรือเป่าซูหลิงพร้อมฟังการบรรยายสรรพคุณของ สมุนไพรจีน หรือในชื่อว่า ยาบัวหิมะ ซื้อยาแก้น้ำร้อนลวกเป่าฟู่หลิง “ยาบัวหิมะ” ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านสู่ ตลาดเฉิงหวังเมี่ยว หรือที่เรียกกันว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เคยตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์รวมสินค้า และอาหารพื้นเมืองที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาวเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นย่านสินค้าราคาถูกที่มีชื่ออีกย่านหนึ่งของนครเซี่ยงไฮ้ ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย นำท่านช้อปปิ้งจุใจกับ ตลาดก๊อปปี้ TAOBAOCHENG มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายหลากหลายยี่ห้อในราคาย่อมเยาว์ ให้ท่านเลือกช้อปอย่างเต็มอิ่ม
ค่ำ
พักที่ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่าน ชมกายกรรม ERA INTERSECTION OF TIME เป็นกายกรรมที่ดีที่สุดในปัจจุบันงบประมาณกว่า 100 ล้านหยวน ทุกฉากตื้นเต้นเร้าใจ
Ramada Shanghai Wujiaochang หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 5 ร้านหยก-หาดไว่ทาน-อุโมงค์เลเซอร์-ถนนนานกิง-รถไฟแม่เหล็ก-เซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ ฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม อัญมณีล้ำค่า หยก เป็นเครื่องประดับที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเพราะเชื่อว่าใส่ แล้วจะช่วยป้องกันอันตรายได้ ให้ท่านได้เลือกซื้อ กำไรหยก แหวนหยก หรือผีเซียะสัตว์มงคลที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของประเทศจีน นำท่านสู่บริเวณ หาดไว่ทาน ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหวงผู่มีความยาวจากเหนือจรดใต้ถึง 4 กิโลเมตรเป็นเขตสถาปัตยกรรมที่ได้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมนานาชาติ” ถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของนครเซี่ยงไฮ้ อีกทั้งถือเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินการธนาคารที่สำคัญแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ตลอดแนวยาวของหาดไว่ทานเป็นแหล่งรวมศิลปะสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เช่น สถาปัตยกรรมแบบโรมันโกธิคบารอค รวมทั้งการผสมผสาน ระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออก-ตะวันตกเป็นที่ตั้งของ หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมศุลกากร โรงแรม และสำนักงานใหญ่ของธนาคารต่างชาติเป็นต้น นำท่าน ลอดอุโมงค์เลเซอร์ ใต้แม่น้ำหวงผู่ลงไป 50 เมตรภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยเเสงเลเซอร์ เป็นรูปต่าง ๆ ตื่นตาตื่นใจ จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ถนนนานกิง ถนนแห่งนี้เปรียบเหมือนย่านสีลมของเมืองไทย หรือย่านออร์ชาร์ด ของสิงคโปร์ ถนนนี้มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีห้าง สรรพสินค้ามากมายอยู่บนถนนแห่งนี้เป็นย่านที่คึกคักและทันสมัยที่สุดในเซี่ยงไฮ้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านนั่ง รถไฟแม่เหล็ก เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของนครเซี่ยงไฮ้
17.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 665
21.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ……
2.โจวจวง ล่องเรือชมหมู่บ้านโบราณ พร้อมชมสินค้าพื้นเมือง
3.ซูโจว ชมการจัดสวนของเศรษฐีสมัยก่อนที่สวนโอหยวน และชมวัดซีหยวน
4.เซี่ยงไฮ้ ลอดอุโมงค์เลเซอร์ชมหาดไว่ทาน ขึ้นตึก SWFC ชมโชว์อลังการกายกรรม ERA
5.อู๋ซี นมัสการ พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ+ตำหนักฝานกง (รวมรถราง)
6.เที่ยวจีน ช้อปปิ้งจุใจ ถนนโบราณเหอฟังเจีย ถนนนานกิง ตลาด TAOBAOCHENG ตลาดเฉินหวังเมี่ยว
วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ-เซี่ยงไฮ้-ขึ้นตึก SWFC ชั้น 94-เซี่ยงไฮ้-อู๋ซี
07.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประตู 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
10.35 น. คณะออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติผู่ตง เมืองเซี่ยงไฮ้ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 664
15.50 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติผู่ตง เมืองเอกเทศเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นชุมชนเก่าตั้งแต่ยุคสามก๊ก (ปี ค.ศ.220-280) มีหมู่บ้านชาวประมงถึงสมัยราชวงศ์ซ่งได้เปลี่ยนแปลงเป็นเซี่ยงไฮ้ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ หลังจากสงครามฝิ่น ค.ศ. 1848 ตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกเปิดเป็นเมืองท่าและเขตเช่าของนานาชาติ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ ห่างจากปากแม่น้ำแยงซีเกียง 17 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 เขต คือ เขตผู่ตง(ใหม่) และเขตผู่ซี(เก่า) กั้นโดยแม่น้ำหวงผู่ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านขึ้นชมวิวบน ตึก SWFC ชั้นที่ 94 (Shanghai World Financial Center-SWFC) เป็นตึกสูงที่สุดในประเทศจีนด้วยความสูงถึง 492 เมตร มี 101 ชั้น บนพื้นที่ 381,600 ตารางเมตร ให้ท่านชมทัศนียภาพอันงดงาม ด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก และสามารถมองเห็นตึกจินเม่า หอไข่มุกทีวี และอาคารต่างๆ พร้อมชมทิวทัศน์ รอบๆ นครเซี่ยงไฮ้
ค่ำ นำท่านเดินทางสู่ เมืองอู๋ซี ซึ่งเป็นเมือง อุตสาหกรรมเบา และมีฉายาว่าเมืองเซี่ยงไฮ้น้อยเดิมมีชื่อว่า ซีซาน เล่ากันว่าเมื่อสองพันปีก่อนมีการผลิตดีบุกในเมืองนี้ และต่อมาแร่ ดีบุกถูกขุดเจาะจนหมดสิ้นแต่บังเอิญมีคนขุดพบศิลาจารึกโบราณชิ้นหนึ่งมีใจความว่า “มีอาวุธ แผ่นดินจะไม่สงบ หากปราศจากอาวุธแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข” จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า อู๋ซี แปลว่าไม่มีตะกั่ว
ที่พัก Landison Plaza Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 2 พระใหญ่หลิงซาน (รวมรถแบตเตอร์รี่)-ร้านไข่มุก-อู๋ซี-ซูโจว-สวนโอหยวน-วัดซีหยวน-ร้านผ้าไหม-Harmony Time Square
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านนมัสการ พระใหญ่หลินซานต้าฝอ (พระพุทธเจ้าปางประสูติ) ชมการแสดงสรงน้ำพระ (เก้ามังกร) จากนั้นนำท่านนั่งรถกอล์ฟ สู่พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 88 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติขนาดใหญ่ ลักษณะพระพักตร์สง่างาม เชิญท่านไหว้พระขอพรตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ วังกบิลพัตรจำลอง ให้ท่านชม ความสวยงามของวัง จากนั้น ผ่านชมพระราชวังโปตาลาและรอยพระพุทธบาทจำลองของยูนนาน แวะร้านไข่มุก สินค้าที่มีคุณภาพ และมีชื่อเสียงของเมืองจีน มีสินค้าให้เลือกซื้อ เลือกชมมากมาย เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน กำไร ครีมไข่มุกเป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูโจว ซึ่งมีประวัติ 2,500 ปีมาแล้ว เดิมมีชื่อว่า “เมืองกู่ซู” ซึ่งเป็นเมืองที่จัดต้นแบบของการจัดสวนจีนที่สวยงาม เป็นอันดับหนึ่งในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสาวงามอีกทั้งเป็นเมืองที่งดงามมากจนได้รับฉายาว่า “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์” พร้อมเมืองหังโจว นำท่านเข้าชมการจัดสวนแบบจีนที่ สวนโอ่วหยวน สวนบ้านเศรษฐีโบราณสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านชม วัดซีหยวน นมัสการพระอรหันต์ไม้แกะสลัก 500 องค์ เจ้าแม่กวนอิม 1,000 มือ 1,000 ตา และพระจี้กงที่แกะสลักอย่างประหลาดที่สุดเพราะใบหน้าแสดงได้ถึง 3 อารมณ์วัดนี้ยังเป็นวัดที่สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จ และได้ถ่ายรูป ณ ลานวัดหน้าโบสถ์ ซึ่งมีต้นแปะก้วยเก่าแก่ปลูกไว้อย่างสวยงาม นำท่านเยี่ยมชม ร้านผ้าไหมจีน ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไหม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าพันคอ ฯลฯ ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร ชมการดึงใยไหมรังแฝด เพื่อมาทำไส้นวมผ้าห่มไหม เหมาะกับการซื้อเป็นทั้งของฝากและใช้เอง จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสหยวนหยง (Suzhou Harmony Time Square) เป็นจัตุรัสแห่งใหม่ที่ชาวต่างชาติมาลงทุนในเมืองซูโจว สร้างได้อย่างสวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมแบบใหม่พร้อมชมจอยักษ์ลอยฟ้าความยาวกว่า 500 เมตร
ค่ำ
พักที่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
Liverpool Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 3 ซูโจว-โจวจวง-ล่องเรือโจวจวง-หังโจว-ล่องเรือทะเลสาบซีหู-หมู่บ้านใบชา-ถนนโบราณเหอฟังเจี่ย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโจวจวง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งได้รับฉายาว่า "ยอดหมู่บ้านกลางน้ำแห่งเจียงหนาน" ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซู ในเขตเมืองคุนซาน เสน่ห์อันบริสุทธิ์ของโจวจวง ที่คงทนอยู่มานานหลายร้อยปี โดยมากกว่าร้อยละ 60 ของบ้านในโจวจวงนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) และ ราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1911) อันประกอบด้วยชุมชนบ้านริมน้ำหลาย 100 หลัง และ สะพานหินราว 60 หลัง ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันให้ท่านได้ ล่องเรือชมความงดงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองหังโจว เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ปรากกฎร่องรอยในสมัยราชวงศ์ฉิน มีชื่อเรียกว่าเมืองเฉียนถัง สมัยราชวงศ์สุยเปลี่ยนเป็นหังโจว ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งได้ตั้งหังโจวเป็นเมืองหลวง หังโจวเป็นเมืองงดงามด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเลสาบ ต้นไม้ และสวนจนได้รับสมญานามว่า “สวรรค์บนดิน” เนื่องจาก ซูโจว+หังโจว =ซูหัง แปลว่า “ฟากฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนผืนปฐพีก็มี ซู หัง” นำท่าน ล่องเรือทะเลสาบซีหู ชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีเนื้อที่ 5.66 ตารางกิโลเมตร ความยาวโดยประมาณ 15 กิโลเมตร น้ำลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร ชมโคมไฟ 3 โคม ทับแสงในบึงน้ำลึก สมควรแก่เวลานำท่านชม หมู่บ้านใบชาหลงจิ่ง ซึ่งเป็นชาเขียวที่มีชื่อที่สุดของประเทศจีน ให้ท่านได้ชิมชาเพื่อสุขภาพ
ค่ำ
พักที่ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านอิสระช้อปปิ้งที่ ถนนโบราณเหอฟังเจี่ย สินค้ามากมาย เป็น ให้ท่านซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึก เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึกต่าง ๆ
Best Western Premier Hotel หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 4 หังโจว-เซี่ยงไฮ้-ร้านบัวหิมะ-ตลาดเฉินหวังเมี่ยว-ตลาดก๊อปปี้ TAOBAOCHENG-ชมกายกรรม ERA
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เซี่ยงไฮ้ ระหว่างทางให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติสองฟากฝั่ง นำท่านชมศูนย์สมุนไพรและค้นคว้า ยาแผนโบราณหรือเป่าซูหลิงพร้อมฟังการบรรยายสรรพคุณของ สมุนไพรจีน หรือในชื่อว่า ยาบัวหิมะ ซื้อยาแก้น้ำร้อนลวกเป่าฟู่หลิง “ยาบัวหิมะ” ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านสู่ ตลาดเฉิงหวังเมี่ยว หรือที่เรียกกันว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เคยตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์รวมสินค้า และอาหารพื้นเมืองที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาวเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นย่านสินค้าราคาถูกที่มีชื่ออีกย่านหนึ่งของนครเซี่ยงไฮ้ ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย นำท่านช้อปปิ้งจุใจกับ ตลาดก๊อปปี้ TAOBAOCHENG มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายหลากหลายยี่ห้อในราคาย่อมเยาว์ ให้ท่านเลือกช้อปอย่างเต็มอิ่ม
ค่ำ
พักที่ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่าน ชมกายกรรม ERA INTERSECTION OF TIME เป็นกายกรรมที่ดีที่สุดในปัจจุบันงบประมาณกว่า 100 ล้านหยวน ทุกฉากตื้นเต้นเร้าใจ
Ramada Shanghai Wujiaochang หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
วันที่ 5 ร้านหยก-หาดไว่ทาน-อุโมงค์เลเซอร์-ถนนนานกิง-รถไฟแม่เหล็ก-เซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ ฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม อัญมณีล้ำค่า หยก เป็นเครื่องประดับที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเพราะเชื่อว่าใส่ แล้วจะช่วยป้องกันอันตรายได้ ให้ท่านได้เลือกซื้อ กำไรหยก แหวนหยก หรือผีเซียะสัตว์มงคลที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของประเทศจีน นำท่านสู่บริเวณ หาดไว่ทาน ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหวงผู่มีความยาวจากเหนือจรดใต้ถึง 4 กิโลเมตรเป็นเขตสถาปัตยกรรมที่ได้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมนานาชาติ” ถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของนครเซี่ยงไฮ้ อีกทั้งถือเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินการธนาคารที่สำคัญแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ตลอดแนวยาวของหาดไว่ทานเป็นแหล่งรวมศิลปะสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เช่น สถาปัตยกรรมแบบโรมันโกธิคบารอค รวมทั้งการผสมผสาน ระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออก-ตะวันตกเป็นที่ตั้งของ หน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมศุลกากร โรงแรม และสำนักงานใหญ่ของธนาคารต่างชาติเป็นต้น นำท่าน ลอดอุโมงค์เลเซอร์ ใต้แม่น้ำหวงผู่ลงไป 50 เมตรภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยเเสงเลเซอร์ เป็นรูปต่าง ๆ ตื่นตาตื่นใจ จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ถนนนานกิง ถนนแห่งนี้เปรียบเหมือนย่านสีลมของเมืองไทย หรือย่านออร์ชาร์ด ของสิงคโปร์ ถนนนี้มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีห้าง สรรพสินค้ามากมายอยู่บนถนนแห่งนี้เป็นย่านที่คึกคักและทันสมัยที่สุดในเซี่ยงไฮ้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านนั่ง รถไฟแม่เหล็ก เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของนครเซี่ยงไฮ้
17.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 665
21.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ……
ข้อมูลท่องเที่ยว Brisbane ประเทศออสเตรเลีย
ข้อมูลทั่วไปเมืองบริสเบนประเทศออสเตรเลีย
บริสเบน (Brisbane) เป็นเมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ มีประชากร 1.6 ล้านคน เป็นรัฐที่ใหญ่อันดับสองรองมาจากรัฐเวสเสเทอร์นออสเตรเลีย (Western Australia)ได้รับขนานนามว่า Sunshine State เป็นรัฐที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายแห่งเช่น Gold Coast และมีแนวปะการัง (Great Barrier Reef) ที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
ภูมิศาสตร์เมืองบริสเบน
บริสเบนเป็นเมืองที่น่าอยู่ ตั้งอยู่ในเขตกึ่งร้อนชื้น หรือ Sub-tropical ของรัฐควีนส์แลนด์ และรายล้อมไปด้วยทิวเขา Great Dividing Range ป่าธรรมชาติ น้ำตก และ ชายฝั่งทะเล บริสเบน ยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐควีนส์แลนด์ อันได้แก่ Gold Coast และ Sunshine Coast รวมถึง The Great Barrier Reef ซึ่งเป็นระบบนิเวศน์ปะการังที่ใหญ่ และซับซ้อนที่สุดในโลก อยู่ติดชายฝั่งทะเลห่างตัวเมืองบริสเบนไปทางเหนือเพียงเล็กน้อย ปะการังแถบนี้ มีขนาดกว้างใหญ่มากจนสามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเมืองบริสเบน
Queen Street Mall
Queen Street Mall
ถือได้ว่าเป็นใจกลางเมือง เป็นพื้นที่เปิดโล่งสาธารณะที่มีชีวิตชีวา และเป็นที่ที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรม โบราณและร่วมสมัยอยู่ที่เดียวกัน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบน แหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของออสเตรเลีย ความยาวของถนนควีนสตรีทขนาดครึ่งกิโลเมตรต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 26 ล้านคนต่อปี และยังเพิ่มห้างแห่งใหม Queens Plaza มีสินค้าแบรนด์เนมหรูหราให้เลือกช็อปมากมาย
Queensland Cultural Centre
Queensland Cultural Centre
อยู่ติดกับสวนสาธารณะ South Bank Parklands ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลป์ควีนส์แลนด์ หอศิลปะแห่งนี้ เป็นที่รวบรวมงานจิตกรรม และศิลปะของประเทศออสเตรเลีย ทั้งศิลปะของชาวอะบอริจิน ชาวยุโรป และชาวเอเชียที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นหอศิลปะที่งานแสดงที่มีชื่อเสียงติดอันดับของโลก มาใช้เป็นสถานที่จัดแสดงงานอยู่เสมอ
South Bank Parklands
South Bank Parklands
เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และยังเป็นเหมือนโอเอซิส ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบนด้วย เซาท์แบงค์มีชายหาดที่สร้างเลียนแบบหาดทรายริมทะเล มีทะเลสาบ สำหรับว่ายน้ำ แหล่งร้านอาหารนานาชนิด ร้านกาแฟ และร้านขายของบูติกต่างๆ
Brisbane City Hall
Brisbane City Hall
ตั้งอยู่ตรงมุมถนน Adelaide กับถนน Albert ถือเป็นแลนด์มาร์คของเมือง ศาลากลางแห่งนี้สร้างด้วยหินทราย จึงดูสง่างามแปลกตากว่าศาลากลางอื่นๆ โดยมีหอนาฬิกาสูงชะลูดขึ้นสู่ท้องฟ้า 85 เมตรอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวชมเมืองที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปตัวเองกับศาลากลางสักรูป ก็ถือว่ามาถึงบริสเบนแล้ว ด้านหน้าศาลากลางเป็นจัตุรัสเล็กๆ มีรูปปั้นของพระเจ้าจอร์จ อดีตกษัตริย์อังกฤษ งามสง่าอยู่บนหลังม้า จัตุรัสนี้จึงมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า King George Square
Fortitude Valley
Fortitude Valley
แหล่งรวมสินค้าฮิปๆเก๋ๆ เปิดรอให้นักท่องเที่ยว มาช็อปตลอดทั้งเจ็ดวัน ทั้งยังเพลินกับการแสดงดนตรีสด สีสันความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม และบาร์น่านั่งมองดูผู้คนเดินผ่านไปมา
Botanic Garden
Botanic Garden
สวนสาธารณะริมน้ำแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 110 ไร่ เย็นๆ ชาวบริสเบนนิยมมาวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเล่นสเก็ต กันที่นี่ บรรยากาศคล้ายกับสวนรถไฟบ้านเรา แต่ที่นี่จะมีต้นไม้ขนาดใหญ่มากกว่า
Lone Pine Koala Sanctuary
Lone Pine Koala Sanctuary
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่มีดีกรีรับรองถึงความน่าสนใจจากกินเนสบุ๊ค เวิร์ด ออฟ เรคคอร์ด ว่าเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธ์หมีโคอาล่าแห่งแรกของโลก
และยังใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
Riverlife Adventure Center
Riverlife Adventure Center
ออกพายเรือคายัคเที่ยวไปตามแม่น้ำบริสเบน หรือจะใช้บริการเรือยนต์ท้องแบนพาคุณไปชมวิวเมืองต่างๆตามแม่น้ำมีกิจกรรมปีนผาบริเวณแคงการู พอยท์ และสนุกกับการปั่นจักรยาน หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมต่างๆที่อาคาร Riverlife Adventure ยังมีบริการนวดสปาต่างๆให้คุณเลือก
ไว้ผ่อน คลายกล้ามเนื้อหลังจากทำกิจกรรมต่างๆมาทั้งวัน
ทัวร์บริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน สถานที่เที่ยวเมืองบริสเบน ไปเที่ยวบริสเบน เที่ยวราคาถูกเมืองบริสเบน
โปรแกรมทัวร์บริสเบน พาไปเบริสเบน ประเทศน่าเที่ยวบริสเบน พาทัวร์บริสเบน พาเที่ยวบริสเบน ไปบริสเบนทัวร์บริสเบน เที่ยวบริสเบน เมืองบริสเบน ไปบริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน สถานที่ท่องเที่ยวเมืองบริสเบน
ทัวร์บริสเบน (Brisbane) เที่ยวบริสเบน ไปบริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย (Australia)
อ้างอิง: http:http://australia.educatepark.com/brisbane/brisbane.php
บริสเบน (Brisbane) เป็นเมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ มีประชากร 1.6 ล้านคน เป็นรัฐที่ใหญ่อันดับสองรองมาจากรัฐเวสเสเทอร์นออสเตรเลีย (Western Australia)ได้รับขนานนามว่า Sunshine State เป็นรัฐที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายแห่งเช่น Gold Coast และมีแนวปะการัง (Great Barrier Reef) ที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
ภูมิศาสตร์เมืองบริสเบน
บริสเบนเป็นเมืองที่น่าอยู่ ตั้งอยู่ในเขตกึ่งร้อนชื้น หรือ Sub-tropical ของรัฐควีนส์แลนด์ และรายล้อมไปด้วยทิวเขา Great Dividing Range ป่าธรรมชาติ น้ำตก และ ชายฝั่งทะเล บริสเบน ยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐควีนส์แลนด์ อันได้แก่ Gold Coast และ Sunshine Coast รวมถึง The Great Barrier Reef ซึ่งเป็นระบบนิเวศน์ปะการังที่ใหญ่ และซับซ้อนที่สุดในโลก อยู่ติดชายฝั่งทะเลห่างตัวเมืองบริสเบนไปทางเหนือเพียงเล็กน้อย ปะการังแถบนี้ มีขนาดกว้างใหญ่มากจนสามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำเมืองบริสเบน
Queen Street Mall
Queen Street Mall
ถือได้ว่าเป็นใจกลางเมือง เป็นพื้นที่เปิดโล่งสาธารณะที่มีชีวิตชีวา และเป็นที่ที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรม โบราณและร่วมสมัยอยู่ที่เดียวกัน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบน แหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของออสเตรเลีย ความยาวของถนนควีนสตรีทขนาดครึ่งกิโลเมตรต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 26 ล้านคนต่อปี และยังเพิ่มห้างแห่งใหม Queens Plaza มีสินค้าแบรนด์เนมหรูหราให้เลือกช็อปมากมาย
Queensland Cultural Centre
Queensland Cultural Centre
อยู่ติดกับสวนสาธารณะ South Bank Parklands ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลป์ควีนส์แลนด์ หอศิลปะแห่งนี้ เป็นที่รวบรวมงานจิตกรรม และศิลปะของประเทศออสเตรเลีย ทั้งศิลปะของชาวอะบอริจิน ชาวยุโรป และชาวเอเชียที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นหอศิลปะที่งานแสดงที่มีชื่อเสียงติดอันดับของโลก มาใช้เป็นสถานที่จัดแสดงงานอยู่เสมอ
South Bank Parklands
South Bank Parklands
เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และยังเป็นเหมือนโอเอซิส ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบริสเบนด้วย เซาท์แบงค์มีชายหาดที่สร้างเลียนแบบหาดทรายริมทะเล มีทะเลสาบ สำหรับว่ายน้ำ แหล่งร้านอาหารนานาชนิด ร้านกาแฟ และร้านขายของบูติกต่างๆ
Brisbane City Hall
Brisbane City Hall
ตั้งอยู่ตรงมุมถนน Adelaide กับถนน Albert ถือเป็นแลนด์มาร์คของเมือง ศาลากลางแห่งนี้สร้างด้วยหินทราย จึงดูสง่างามแปลกตากว่าศาลากลางอื่นๆ โดยมีหอนาฬิกาสูงชะลูดขึ้นสู่ท้องฟ้า 85 เมตรอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวชมเมืองที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูปตัวเองกับศาลากลางสักรูป ก็ถือว่ามาถึงบริสเบนแล้ว ด้านหน้าศาลากลางเป็นจัตุรัสเล็กๆ มีรูปปั้นของพระเจ้าจอร์จ อดีตกษัตริย์อังกฤษ งามสง่าอยู่บนหลังม้า จัตุรัสนี้จึงมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า King George Square
Fortitude Valley
Fortitude Valley
แหล่งรวมสินค้าฮิปๆเก๋ๆ เปิดรอให้นักท่องเที่ยว มาช็อปตลอดทั้งเจ็ดวัน ทั้งยังเพลินกับการแสดงดนตรีสด สีสันความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม และบาร์น่านั่งมองดูผู้คนเดินผ่านไปมา
Botanic Garden
Botanic Garden
สวนสาธารณะริมน้ำแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 110 ไร่ เย็นๆ ชาวบริสเบนนิยมมาวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเล่นสเก็ต กันที่นี่ บรรยากาศคล้ายกับสวนรถไฟบ้านเรา แต่ที่นี่จะมีต้นไม้ขนาดใหญ่มากกว่า
Lone Pine Koala Sanctuary
Lone Pine Koala Sanctuary
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่มีดีกรีรับรองถึงความน่าสนใจจากกินเนสบุ๊ค เวิร์ด ออฟ เรคคอร์ด ว่าเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธ์หมีโคอาล่าแห่งแรกของโลก
และยังใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
Riverlife Adventure Center
Riverlife Adventure Center
ออกพายเรือคายัคเที่ยวไปตามแม่น้ำบริสเบน หรือจะใช้บริการเรือยนต์ท้องแบนพาคุณไปชมวิวเมืองต่างๆตามแม่น้ำมีกิจกรรมปีนผาบริเวณแคงการู พอยท์ และสนุกกับการปั่นจักรยาน หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมต่างๆที่อาคาร Riverlife Adventure ยังมีบริการนวดสปาต่างๆให้คุณเลือก
ไว้ผ่อน คลายกล้ามเนื้อหลังจากทำกิจกรรมต่างๆมาทั้งวัน
ทัวร์บริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน สถานที่เที่ยวเมืองบริสเบน ไปเที่ยวบริสเบน เที่ยวราคาถูกเมืองบริสเบน
โปรแกรมทัวร์บริสเบน พาไปเบริสเบน ประเทศน่าเที่ยวบริสเบน พาทัวร์บริสเบน พาเที่ยวบริสเบน ไปบริสเบนทัวร์บริสเบน เที่ยวบริสเบน เมืองบริสเบน ไปบริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน สถานที่ท่องเที่ยวเมืองบริสเบน
ทัวร์บริสเบน (Brisbane) เที่ยวบริสเบน ไปบริสเบน ข้อมูลเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย (Australia)
อ้างอิง: http:http://australia.educatepark.com/brisbane/brisbane.php
Subscribe to:
Posts (Atom)