บินสู่แฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี ชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ชมเมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิส นั่งรถไฟสู่ Top of Europe สถานีรถไฟตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรปที่ตั้งอยู่บน ยอดเขาจูงเฟรา (Jungfrau) เที่ยวกรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิสและเมืองมรดกโลก เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) ที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches Cruise) ใจกลางกรุงปารีส
วันที่ 1 กรุงเทพฯ
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ S ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่จาก ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับท่าน
23.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK69
วันที่ 2 อิสตันบูล - แฟรงก์เฟิร์ต - นูเรมเบิร์ก
05.35 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
08.05 น. ออกเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ TK 1587
10.25 น. ถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่นครแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟ แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ จากนั้นเชิญเดินเล่นย่านถนน ZEIL ที่มีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยและร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นนำสมัย หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดที่แฟรงก์เฟิร์ต โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับวิหารเซนต์ลอเรนซ์ วิหารสวยประจำเมือง ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสกลางเมืองนูเรมเบิร์ก ซึ่งเป็นย่านศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MERCURE NUREMBERG หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 นูเรมเบิร์ก – มิวนิค - ปราสาทนอยชวานสไตน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เข้าสู่นครมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. เชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องเหล็กตราตุ๊กตาคู่ เป็นต้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เพื่อนำท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม EURO PARK หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ฟุสเซ่น – วาดุซ – ลูเซิร์น - อินเทอลาเคน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของประเทศลิกเตน สไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ประชากรทั้งประเทศเพียงแค่เกือบ 4 หมื่นคน ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปกลางเต็มไปด้วยภูเขาสูง มีพรมแดนด้านตะวันออกติดกับออสเตรียและด้านตะวันตกติดกับสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว นำท่านเดินเล่นชมเมืองวาดุซ (Vaduz) เป็นเมืองหลวงของประเทศและเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ที่มีประชากรราว 5,100 คน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นนำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 จากนั้นชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นเดินทางสู่เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ตั้งอยู่ทะเลสาบสองแห่ง มีภาพของยอดเขา จูงเฟราเป็นฉากหลัง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า
วันที่ 5 อินเทอลาเคน - ยอดเขาจุงเฟรา – เบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศทีสวยงามและยังเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟขึ้นสู่ ยอดเขาจูงเฟรา(Jungfrau) เเละ เมื่อปี ค.ศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขายูงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขายูงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจูงเฟราย๊อช (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร จากนั้นพาท่านชมวิวที่ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป นำคณะเดินทางลงจากยอดเขาโดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิม ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างกันจนถึงสถานีรถไฟเมืองลาวท์เทอบรุนเนิน (Lauterbrunnen) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN WESTSIDE หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 เบิร์น - ดิจอง – ปารีส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เมืองดิจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด กรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 7 พระราชวังแวร์ซายส์ - ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ นำเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและเต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเชิญเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นอย่างเต็มอิ่ม ในราคาถูกที่ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) อาทิ เช่น เครื่องสำอางค์ น้ำหอม นาฬิกาหรือกระเป๋า จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่สุดหรูใจกลางกรุงปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต ,เครื่องหนัง,มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม NOVOTEL EST หรือเทียบเท่า
วันที่ 8 ถนนชองป์เอลิเซ่ – หอไอเฟล – ล่องเรือ - สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีสผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวแนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส จากนั้นเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน, นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 ให้เวลาท่านได้เลือกซื้อสินค้าชั้นนำบนถนนชองป์เอลิเซ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าสุดหรูหรา สินค้าแฟชั่นมากมาย แล้วนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) จากนั้นนำเดินทางสู่ สนามบินชาร์ล เดอ โกลด์ เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
14.30 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK1828
18.15 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่ 9 อิสตันบูล – กรุงเทพฯ
00.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK68
14.15 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
No comments:
Post a Comment