Dunnottar Castle พระราชวังจากเรื่อง Brave
Dunnottar Castle ที่ประเทศสก็อตแลนด์ ปราสาทบนเนินผาริมทะเล เดิมถูกใช้เป็นป้อมปราการมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15
Wednesday, March 23, 2016
Machu Picchu มหานครสาบสูญของชาวอินคา
Machu Picchu หมู่บ้านชนเผ่า จากเรื่อง The Emperor's New Groove
Machu Picchu มหานครสาบสูญของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู นับเป็นศูนย์กลางความสำคัญทางโบราณคดีของทวีปอเมริกาใต้
นักโบราณคดีต่างสงสัยว่าชาวอินคาในยุคนั้นสามารถขึ้นไปสร้างเมืองอยู่บนเขาเช่นนั้นได้อย่างไร รวมถึงพระนามของจักรพรรดิ Kuzco ในเรื่องก็ตั้งชื่อตามหมู่บ้าน Cusco ในเปรูอีกด้วย
Machu Picchu มหานครสาบสูญของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู นับเป็นศูนย์กลางความสำคัญทางโบราณคดีของทวีปอเมริกาใต้
นักโบราณคดีต่างสงสัยว่าชาวอินคาในยุคนั้นสามารถขึ้นไปสร้างเมืองอยู่บนเขาเช่นนั้นได้อย่างไร รวมถึงพระนามของจักรพรรดิ Kuzco ในเรื่องก็ตั้งชื่อตามหมู่บ้าน Cusco ในเปรูอีกด้วย
Angkor Wat มหานครโบราณ ประเทศเขมร
Angkor Wat มหานครโบราณ
Atlantis มหานครใต้บาดาลตามตำนานโบราณที่ไม่สามารถอ้างอิงจากสถานที่จริงได้ ดิสนีย์จึงหยิบยกเอาต้นแบบจากปราสาทที่มีอายุเก่าแก่จากหลายๆ ที่มารวมกัน โดยตัวแบบหลักจะเป็นปราสาทนครวัด ที่ประเทศเขมร นำมาผสมกับวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น มายัน อินเดีย เพื่อให้ออกมาเป็นแอตแลนติสตามจินตนาการในที่สุด
Atlantis มหานครใต้บาดาลตามตำนานโบราณที่ไม่สามารถอ้างอิงจากสถานที่จริงได้ ดิสนีย์จึงหยิบยกเอาต้นแบบจากปราสาทที่มีอายุเก่าแก่จากหลายๆ ที่มารวมกัน โดยตัวแบบหลักจะเป็นปราสาทนครวัด ที่ประเทศเขมร นำมาผสมกับวัฒนธรรมอื่นๆ เช่น มายัน อินเดีย เพื่อให้ออกมาเป็นแอตแลนติสตามจินตนาการในที่สุด
Mont Saint-Michel ประเทศฝรั่งเศส
Mont Saint-Michel ปราสาทจากเรื่อง Tangled
Mont Saint-Michel เชื่อว่าคงสวยงามจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าโปรดิวเซอร์ของดิสนีย์ยังต้องหยิบมาใช้อีกครั้งในเรื่อง Tangled เจ้าหญิงผมสวยราพันเซล
Mont Saint-Michel เชื่อว่าคงสวยงามจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าโปรดิวเซอร์ของดิสนีย์ยังต้องหยิบมาใช้อีกครั้งในเรื่อง Tangled เจ้าหญิงผมสวยราพันเซล
Neuschwanstein Castle
Neuschwanstein Castle พระราชวังจากเรื่อง Sleeping Beauty
Neuschwanstein Castle (ปราสาทนอยชวานสไตน์) ปราสาทงามของยุคกลางพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขากลางป่าใกล้ทิวเขาแอลป์ เป็นปราสาทที่มีภูมิทัศน์เหมือนอยู่ในเทพนิยายมากที่สุด
Neuschwanstein Castle (ปราสาทนอยชวานสไตน์) ปราสาทงามของยุคกลางพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขากลางป่าใกล้ทิวเขาแอลป์ เป็นปราสาทที่มีภูมิทัศน์เหมือนอยู่ในเทพนิยายมากที่สุด
Segovia Castle ปราสาทราชินี
Segovia Castle ปราสาทราชินี
Segovia Castle หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดของประเทศสเปน เคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ โรงเรียนสอนทหาร ค่ายกันศัตรู รวมถึงคุกคุมขังนักโทษ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อยู่บนชะง่อนผาที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน เป็นต้นแบบของปราสาทของซินเดอเรลล่านั่นเอง
Segovia Castle หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดของประเทศสเปน เคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ โรงเรียนสอนทหาร ค่ายกันศัตรู รวมถึงคุกคุมขังนักโทษ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อยู่บนชะง่อนผาที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน เป็นต้นแบบของปราสาทของซินเดอเรลล่านั่นเอง
Hotel de Glace ปราสาทน้ำแข็งของ Elsa
Quebec City ประเทศแคนาดา เป็นโรงแรมน้ำแข็งที่เปิดให้แขกเข้าพักได้ในเดือนมกราคม-มีนาคม
Taj Mahal วังสุลต่าน
ปราสาทต้นแบบของอะลาดินนี้เป็นสุสานที่เจ้าชายชาห์ จาห์ฮาล ทรงสร้างให้ด้วยใจอาลัยถึงพระนางมุมตัส มาฮาล ใช้ระยะเวลาการสร้างยาวนานถึง 22 ปี
Mont Saint-Michel ปราสาทของเจ้าชาย Eric
Mont Saint-Michel นั้นเป็นปราสาทตั้งอยู่บนเกาะขนาดเล็ก มีถนนเชื่อมระหว่างเกาะ และแผ่นดิน อยู่ในแคว้น Normandy ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว มีโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.709 รายล้อมด้วยหมู่บ้านที่ยังคงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างคับคั่งทุกๆ ปี
Kelimutu crater lakes in Flores Island, Indonesia
Kelimutu crater lakes in Flores Island, Indonesia
มหัศจรรย์ธรรมชาติ ทะเลสาบ 3 สี ที่อินโดนีเซีย เป็นทะเลสาบที่อยู่บนปล่องภูเขาไฟเคลิมูตู (Kelimutu Volcano) บนเกาะฟลอเรส (Flores Island) เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อย (Lesser Sunda Islands) ประเทศอินโดนีเซีย สวยงามขนาดนี้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
มหัศจรรย์ธรรมชาติ ทะเลสาบ 3 สี ที่อินโดนีเซีย เป็นทะเลสาบที่อยู่บนปล่องภูเขาไฟเคลิมูตู (Kelimutu Volcano) บนเกาะฟลอเรส (Flores Island) เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อย (Lesser Sunda Islands) ประเทศอินโดนีเซีย สวยงามขนาดนี้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
Cenotes of Yucatán Peninsula in Mexico
Cenotes of Yucatán Peninsula in Mexico
หลุมเหล่านี้เป็นหลุมลึกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เกิดจากการถล่ม และสลายของหินปูนกลายเป็นหลุมที่มีบ่อน้ำใสขนาดใหญ๋ ในเม็กซิโก
หลุมเหล่านี้เป็นหลุมลึกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เกิดจากการถล่ม และสลายของหินปูนกลายเป็นหลุมที่มีบ่อน้ำใสขนาดใหญ๋ ในเม็กซิโก
Volcanoes of Kamchatka in Russia
ภูเขาไฟ คัมซัสก้า นี้เป็นภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่น อยู่ในประเทศรัสเซีย ปฏิกิริยาของภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และธารน้ำแข็งทำให้บริเวณที้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามตระการตา และยังเป็นที่รวมของสัตว์หลากหลายพันธุ์ ทั้งปลาแซลมอนหลายสายพันธุ์ที่สุดในโลก นากทะเล หมีสีน้ำตาล และนกอินทรีทะเลสเตลลาร์เป็นจำนวนมาก ภูเขาไฟที่สูงที่สุดคือ Klyuchevskaya Sopka เกือบ 16,000 ฟุต
พิชิตเขาสูง Matterhorn,เมืองจักรยาน Zermatt, Switzerland
Matterhorn, Zermatt, Switzerland
เมือง Zermatt (เซอร์แมตส์) เมืองเล็กน่ารักที่อุดมไปด้วยมิตรไมตรี บนความสูง 1,620 เมตร บริเวณเชิงเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น)
เมือง Zermatt (เซอร์แมตส์) เมืองเล็กน่ารักที่อุดมไปด้วยมิตรไมตรี บนความสูง 1,620 เมตร บริเวณเชิงเขา Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น)
Duomo di Milano, Milan, Italy
Duomo di Milano, Milan, Italy
Duomo (ดูโอโม ภาษาอังกฤษจะใช้ว่า Cathedral) เป็นสิ่งที่มีอยู่คู่เมืองในประเทศแถบยุโรปเป็นปกติอยู่แล้ว (ผังเมืองร้อยละ 70 ประเทศแถบนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือมีจัตุรัสกลางเมือง ศาลาว่าการ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ)
Duomo (ดูโอโม ภาษาอังกฤษจะใช้ว่า Cathedral) เป็นสิ่งที่มีอยู่คู่เมืองในประเทศแถบยุโรปเป็นปกติอยู่แล้ว (ผังเมืองร้อยละ 70 ประเทศแถบนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือมีจัตุรัสกลางเมือง ศาลาว่าการ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ)
To Sua Ocean Trench in the Lotofaga village on the south coast of Upolu, Samoa
To Sua Ocean Trench in the Lotofaga village on the south coast of Upolu, Samoa
Fingal’s Cave on the island of Staffa in Scotland
Fingal’s Cave on the island of Staffa in Scotland
ถ้ำฟิงกอล ที่ประเทศสกอตแลนด์ นี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นโครงสร้างบล็อกๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ความจริงแล้วเสาหินหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ด้วยสภาพถ้ำที่เป็นโพรงแนวยาว ทำให้ภายในถ้ำเกิดเป็นเสียงสะท้อน คล้ายเสียงดนตรีได้ด้วย บางทีคนก็เรียกถ้ำนี้ว่า “Cave of melody”
ถ้ำฟิงกอล ที่ประเทศสกอตแลนด์ นี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นโครงสร้างบล็อกๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ความจริงแล้วเสาหินหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ด้วยสภาพถ้ำที่เป็นโพรงแนวยาว ทำให้ภายในถ้ำเกิดเป็นเสียงสะท้อน คล้ายเสียงดนตรีได้ด้วย บางทีคนก็เรียกถ้ำนี้ว่า “Cave of melody”
Antelope Canyon in Arizona, United States
หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยว อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นร่องหินทรายที่ถูกน้ำกัดเซาะและได้ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะที่คล้ายกลับหินผา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่นี่กลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตรทีเดียว
Nachi Fall, Japan
Nachi Fall น้ำตกที่สูงที่สุด และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่สูงถึง 133 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดได้ว่าสวยมากๆ ในญี่ปุ่น และบริเวณน้ำตกยังมีศาลเจ้า Kumano Nachi Taishai แดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า หนึ่งในมรดกโลก
Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia
Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia
Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก
Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก
Tunnel of Love in Klevan, Ukraine
อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศยูเครน เป็นอุโมงค์รถไฟที่สร้างขึ้นจากต้นไม้อย่างสวยงามตั้งอยู่ในเขตเมืองเคลเว่น (Klevan) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดริฟเน (Rivne region)
Three Natural Bridges ภูผาอัศจรรย์ ณ เมืองอู่หลง China
อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (เทียนเชิงซ่านเฉียว) มรดกโลกทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เมืองอู่หลง นครฉงชิ่ง ประเทศจีน เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดเป็นบ่อหลุมขนาดใหญ่ที่ลึกประมาณ 300-500 เมตร และมีบางส่วนเป็นโพรงทะลุเหมือนกับสะพานทอดข้ามระหว่างภูเขา
The Grand Canyon in Arizona, United States
The Grand Canyon in Arizona, United States
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกก็คือที่นี่ Grand Canyon เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของรัฐอริโซน่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาสิโนชื่อดังอย่าง ลาสเวกัสประมาณ 3-4 ชั่วโมง
แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกก็คือที่นี่ Grand Canyon เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของรัฐอริโซน่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาสิโนชื่อดังอย่าง ลาสเวกัสประมาณ 3-4 ชั่วโมง
แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว
Whitehaven Beach at Whitsunday Island in Australia
Whitehaven Beach at Whitsunday Island in Australia
ความขาวของ หาดไวท์ฮาเว่น ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98% ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี
ความขาวของ หาดไวท์ฮาเว่น ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98% ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี
Trolltunga in Hordaland, Norway
Trolltunga in Hordaland, Norway
Trolltunga มีความหมายว่าลิ้นของโทรลล์ ด้วยความที่เป็นชะง่อนผาที่มีลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขาประมาณ 2,000 ฟุตลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้นั่นเอง หากยอมปืนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวที่คุ้มค่ากับที่ปืนขึ้นมาแน่นอน เพราะวิวของแม่น้ำ Ringedalsvatnet สวยอย่างกับภาพวาด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน
Trolltunga มีความหมายว่าลิ้นของโทรลล์ ด้วยความที่เป็นชะง่อนผาที่มีลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขาประมาณ 2,000 ฟุตลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้นั่นเอง หากยอมปืนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวที่คุ้มค่ากับที่ปืนขึ้นมาแน่นอน เพราะวิวของแม่น้ำ Ringedalsvatnet สวยอย่างกับภาพวาด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน
Victoria Falls bordering Zimbabwe and Zambia in Africa
Victoria Falls bordering Zimbabwe and Zambia in Africa
สระว่ายน้ำของซาตาน
สระว่ายน้ำของซาตาน
Iguazu Fall, Argentina
น้ำตกอีกวาซู เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะจะทำให้คุณรู้สึกทึ่ง กับความแรงของสายน้ำที่ไหลมานานกว่าหนึ่งล้านปี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต สมกับชื่อ “อีกวาซู” ซึ่งมาจากภาษากวารานี (Guarani) ชาวอินเดียนเผ่าดั้งเดิม แปลว่า สายน้ำอันยิ่งใหญ่
Ancient Region of Anatolia in Cappadocia, Turkey
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา เถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา
Tuesday, March 22, 2016
Mount Roraima in Venezuela, Brazil, and Guyana
ภูเขา Roraima สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ เกิดจาดการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อประมาณ 2 พันล้านปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่เป็นชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ คือ บราซิล, กายอานา และเวเนซุเอลา
Mendenhall Ice Caves of Juneau in Alaska, United States
Mendenhall Ice Caves of Juneau in Alaska, United States
Hitachi Seaside Park in Hitachinaka, Ibaraki, Japan
Hitachi Seaside Park หรือ สวน Hitachi Nakakoen เป็นสวนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น มีขนาดกว่า 153 เฮกเตอร์
Tulip fields in the Netherlands
Tulip fields in the Netherlands
ทุ่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้แห่งยุโรป หลายร้อยกี่หลายพันไร่ที่นี่เต็มไปด้วยทิวลิป
ทุ่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้แห่งยุโรป หลายร้อยกี่หลายพันไร่ที่นี่เต็มไปด้วยทิวลิป
The swing at the “End of the World” in Baños, Ecuador
The swing at the “End of the World” in Baños, Ecuador
Zhangye Danxia landform in Gansu, China
Zhangye Danxia landform in Gansu, China
ภูเขาสีรุ้ง หรือ ภูเขาหลากสีในเขตมณฑลกันซู่ ประเทศจีน
ภูเขาสีรุ้ง หรือ ภูเขาหลากสีในเขตมณฑลกันซู่ ประเทศจีน
ปราก, สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech Republic)
ปราก, สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech Republic)
ปราก เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่งดงามของยุโรปกลาง
ปราก เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่งดงามของยุโรปกลาง
แอนติกัว, ประเทศกัวเตมาลา (Antigua, Guatemala)
แอนติกา กัวเตมาลา คือ เมืองที่เต็มไปด้วยโบราณสถานสำคัญมากมาย อีกทั้งโบสถ์อันเก่าแก่ที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุคล่าอาณานิคม
กรุงบัวโนสไอเรส, ประเทศอาร์เจนตินา (Buenos Aires, Argentina)
กรุงบัวโนสไอเรส, ประเทศอาร์เจนตินา (Buenos Aires, Argentina)
มง แซ็ง มิแชล, ประเทศฝรั่งเศส (Mont Saint Michel, France)
มง แซ็ง มิแชล, ประเทศฝรั่งเศส (Mont Saint Michel, France)
ซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย (Sydney, Australia)
เมืองซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย (Australia) เป็นเมืองเอกของแคว้นนิวเซ้าท์เวลล์ (New South Wales) เป็นเมืองท่าหลักของประเทศ เป็นเมืองธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญ และยังเป็นแหล่งการศึกษาที่นักเรียนไทยนิยมไปศึกษาต่อมากที่สุดเมืองหนึ่ง ภาษาที่ใช้คือภาษาอังกฤษ และสกุลเงินที่ใช้คือออสเตรเลีย ดอลลาร์ (Australian Dollar or AUD)
ฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่เที่ยวในซิดนีย์สามารถไปเยือนได้ทั้งปี ทั้งนี้ขอให้ทำความเข้าใจเสียก่อนว่าฤดูกาลในทวีปออสเตรเลียนั้นจะตรงกันข้ามกับทวีปอื่นๆ ในโลก ในช่วงเวลากลางปีตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายนจะเป็นช่วงฤดูหนาว ตามมาด้วยด้วยฤดูใบไม้ผลิราวเดือนตุลาคม ฤดูร้อนในช่วงปลายปีเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์และฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ในราวเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ในช่วงฤดูหนาวสามารถไปเที่ยวแหล่งสกีที่ตั้งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปราว 3-5 ชั่วโมงขับรถได้ (มีภูเขาหิมะอยู่หลายแห่ง)
การเดินทางไปซิดนีย์ เดินทางโดยเที่ยวบินมาที่สนามบินนานาชาติคิงฟอร์ดสมิธ (Kingsford Smith) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าซิดนีย์ แอร์พอร์ต (Sydney Airport)
การเดินทางในซิดนีย์และออกจากซิดนีย์ เมืองนี้มีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ทันสมัย สะดวกสบายและรวดเร็ว มีทั้งบริการรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า (เฉพาะในเขตตัวเมืองด้านในบางจุด) รถราง (เฉพาะเขตท่องเที่ยวบางจุดในเมือง) เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากและแท็กซี่ สำหรับคนที่คิดจะไปยังจุดท่องเที่ยวบริเวณเมืองใกล้เคียงหรือแหล่งท่องเที่ยวชานเมืองซึ่งมีอยู่หลายแห่งนั้น สามารถเช่ารถขับที่ซิดนีย์ได้โดยสะดวก ถนนเมืองนี้ขับง่าย และมีที่จอดทั้งแบบฟรีและต้องจ่ายเงินให้บริการทั่วไป
สถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย (Sydney, Australia)
โรงอุปรากรแห่งนครซิดนีย์ (Sydney Opera House)
แลนด์มาร์คสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ ที่เที่ยวออสเตรเลียยอดนิยม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ฝีมือมนุษย์สร้างของโลก ตั้งอยู่ริมอ่าวและท่าเรือสำคัญของเมือง เป็นสถานที่จัดการแสดงสำคัญๆ ระดับประเทศ ในช่วงเวลากลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับสวยงาม หากอยากจะเดินชมความงามอลังการของการออกแบบตกแต่งด้านใน สามารถซื้อทัวร์พาเที่ยว-พาชมได้ทุกวัน
สวนพฤกษศาสตร์ (Royal Botanic Garden)
สวนสวยขนาดใหญ่ริมอ่าวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงอุปรากรซิดนีย์ เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ประจำเมืองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1816 สวนแห่งนี้มีการจัดตกแต่งพันธุ์ไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่มีการจัดแสดงดอกไม้สวยงาม และในช่วงหน้าร้อนจะมีการจัดงานฉายภาพยนตร์กลางแปลงในยามเย็น โดยจอภาพยนตร์จะตั้งอยู่กลางน้ำ และผู้ชมสามารถกางเสื่อ ปูผ้า ปิกนิกชมวิวและชมภาพยนตร์กลางสวนสวยได้ในคราเดียวกัน
ไชน่าทาวน์ (China Town)
ไชน่าทาวน์เมืองนี้มีขนาดใหญ่และเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญกลางเมือง เป็นแหล่งอาหารนานาชาติชั้นเลิศ โดยเฉพาะอาหารจีนรสชาติดั้งเดิมที่มีให้บริการอยู่ทั่วไปและมีความอร่อยไม่แพ้อาหารจีนที่ฮ่องกงเลย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งร้านค้าหลากหลายมากมาย ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีตลาดนัดสินค้า ตลาดนัดอาหารสด แพดดี้ส์ มาร์เก็ต (Paddy’s Market) ที่นักช้อปปิ้งไม่น่าพลาดเพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าที่ระลึกราคาย่อมเยาที่สามารถต่อรองราคาได้ ที่สำคัญอีกอย่าง คือ ร้านค้า ร้านอาหารในแถบนี้มักจะเปิดให้บริการกันค่อนข้างดึก บางร้านเปิดถึง 4 ทุ่มไปจนถึงเที่ยงคืนเลยก็มี
เดอะ ร็อคส์ (The Rocks)
ที่เที่ยวซิดนีย์ยอดฮิตอีกแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตเดียวกับโรงอุปรากร สามารถเดินเลาะริมอ่าวถึงกันได้ ในบริเวณนี้มีตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆ ตั้งอยู่มากมาย และยังเป็นแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟชั้นเลิศ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีตลาดสินค้างานฝีมือและงานศิลปะชื่อดังประจำเมือง “ตลาดนัดเดอะ ร็อคส์” (The Rocks Market) ใครที่ชอบสินค้าทำมือและของแต่งบ้าน งานศิลปะกิ๊บเก๋ไม่น่าพลาด
ดาร์ลิ่ง ฮาร์เบอร์ (Darling Harbour)
อ่าวที่รักอันสุดแสนจะเป็นที่รักของนักกิน-ดื่มเมืองนี้ เพราะเป็นแหล่งร้านอาหาร ผับ บาร์ริมน้ำเลื่องชื่อ และยังมีแหล่งช้อปปิ้งริมน้ำในฝั่งตรงข้าม เรียกว่าเอาใจนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารนิทรรศการประจำเมือง (Sydney Convention and Exhibition Centre) ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงโฉมใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ถัดมาไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของสวนจีนสวยงาม (Chinese Garden) อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซิดนีย์ (Sydney Aquarium)
ตั้งอยู่ในเขตดาร์ลิง ฮาร์เบอร์ จัดแสดงสัตว์น้ำนานาพันธุ์ มีแทงค์ปลาฉลาม ปลากระเบนราหูยักษ์ และโดมโลกใต้น้ำขนาดใหญ่ที่มีการจำลองแนวปะการังเกรท บาริเออร์ (Great Barrier) แนวปะการังชื่อดังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกมาให้ได้ชมแบบใกล้ๆ อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีการแสดงของแมวน้ำแสนรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ติดอันดับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในอันดับต้นๆ ของโลก
หาดบอนได (Bondi Beach)
เวิ้งชายหาดชื่อดังที่สุดของเมือง ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวที่ทอดตัวยาวขนานถนนชายหาดเลียบขึ้นไปยังหน้าผาริมทะเล หาดแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต แหล่งช้อปปิ้งริมหาดและแหล่งร้านอาหารยอดนิยม ทุกๆ วันอาทิตย์จะมีตลาดนัดขายสินค้ามือสองและสินค้างานฝีมือใกล้ๆ กับชายหาดด้วย
หาดแมนลี่ (Manly Beach)
หาดยอดนิยมอีกแห่งของเมือง วิธีไปเยือนหาดนี้ที่นิยมกันที่สุด คือ การนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากท่าเรือเซอร์คูล่า คีย์ (Circular Quay) ที่อยู่ติดกับโรงอุปรากรซิดนีย์ การลงเรือข้ามฟากนอกจากจะย่นเวลาการเดินทางแล้ว ยังจะได้ชมวิวสวยๆ ของอ่าวซิดนีย์และโรงอุปรากรซิดนีย์ที่ลอยเด่นกลางน้ำได้อีกด้วย ที่หาดแมนลี่นั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งร้านอาหารยอดนิยมหลักๆ อีกแห่งของซิดนีย์ และยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเที่ยวได้ทั้งครอบครัวและครบทุกแนว
ตลาดปลาซิดนีย์ (Sydney Fish Market)
แหล่งอาหารทะเลสดอร่อยขึ้นชื่อของเมือง มีร้านขายปลาและอาหารทะเลมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดประเภทต่างๆ และขอให้ทางร้านปรุงให้ได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการต้ม ปิ้ง ย่าง ซึ่งขอแนะนำว่าให้พกน้ำจิ้มอาหารทะเลติดตัวไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อยแบบไทยๆ ให้แซ่บเต็มพิกัดกันไปเลย ตลาดปลาแห่งนี้สามารถนั่งรถรางมาได้โดยสะดวกจากสถานีรถรางที่ไชน่าทาวน์
สะพานฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge)
สะพานข้ามอ่าวซิดนีย์เชื่อมเมือง 2 ฝั่ง เป็นที่จัดพลุไฟอันเลื่องลือของประเทศ สะพานแห่งนี้มีบริการทัวร์พาชมโครงสร้างสะพานอันยิ่งใหญ่และพาไต่ขึ้นไปยังยอดสูงสุดของสะพานอีกด้วย เรียกว่าเป็นจุดชมวิว 360 องศาที่สวยที่สุดและเสียวที่สุด แต่ทั้งนี้ก็มีผู้กล้าไปร่วมไต่สะพานกันได้ทุกวันและยังเป็นที่จัดงานแต่งงานแบบพิสดารของคู่รักใจกล้าหลายคู่อีกด้วย
บลู เม้าเท่นส์ (Blue Mountains)
ภูเขาหิน 3 ลูกชื่อดังของนิวเซ้าท์เวลล์ ในบริเวณเดียวกันมีถ้ำหินงอกหินย้อยและเหมืองทองเก่า นอกจากนั้นยังมีหมู่บ้านน่ารักๆ ขายสินค้าทำมือและร้านขนมพื้นบ้านมากมาย อยู่ห่างจากซิดนีย์ไปราว 1.5 ชั่วโมง
พอร์ต สตีเฟ่น (*Port Stephen*)
แหล่งชมฝูงปลาโลมาและปลาวาฬ อยู่นอกเมืองขับรถไปราว 3 ชั่วโมง
ช่องน้ำทะเลคียาม่า (*Kiama-Blow hole*)
โขดหินที่มีช่องให้น้ำทะเลลอดผ่านและพุ่งขึ้นมาเสมือนน้ำพุ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตชานเมืองอีกแห่งหนึ่ง
สวนสัตว์ทารองกา (*Taronga Zoo*)
สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมอาณาเขตของเกาะเล็กๆ ในอ่าวซิดนีย์ จัดแสดงพันธุ์สัตว์ต่างๆ จากรอบโลก
ศูนย์อนุรักษ์หมีโคอะล่า (*Koala Park Sanctuary*)
สถานที่ดูแลและรักษาพันธุ์หมีโคอะล่า อยู่ทางเหนือของซิดนีย์
สวนสาธารณะไฮด์พาร์ค (*Hyde Park*)
สวนสาธารณะกลางเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งขนานถนนเส้นหลักของเมือง เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง
จุดชมวิวเมืองอ่าววัตสัน (*Watson Bay*)
อยู่ถัดจากหาดบอนไดไปไม่ไกล เป็นจุดชมวิวเมืองมุมสูง 360 องศาจากริมหน้าผาอ่าววัตสัน มีเส้นทางชมวิวและร้านอาหารบริการ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Gallery of New South Wales)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมืองที่มีความเก่าแก่และสำคัญ ตั้งอยู่ในเขตเดียวกับสวนพฤกษศาสตร์ เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะชื่อดังระดับโลก
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์พาวเวอร์เฮ้าส์ (*Powerhouse Museum*)
จัดแสดงวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีด้านต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตไชน่าทาวน์
โบสถ์เซนต์แมรี่ (*St. Mary’s Cathedral*)
โบสถ์เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดของซิดนีย์ เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาครั้งสำคัญๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสวนสาธารณะกลางเมืองไฮด์พาร์ค (Hyde Park)
โอลิมปิค พาร์ค (Olympic Park)
สถานที่จัดงานโอลิมปิคเมื่อปี 2000 มีหมู่บ้านนักกีฬาและโดมการแข่งขันอันสวยงามยิ่งใหญ่
หอคอยซิดนีย์ (*AMP Tower-Sydney Tower*)
หอคอยที่สูงที่สุดของเมือง มีจุดชมวิวด้านบนสุดและมีร้านอาหารที่หมุนรอบๆ หอคอยเพื่อชมวิวเมืองทุกด้านอีกด้วย
ลาเพรูซ (*La* Perouse)
ชายทะเลฝั่งตะวันออกของเมือง เป็นท่าเรือเก่า มีพิพิธภัณฑ์ จุดชมวิวสวยงามและเป็นแหล่งร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวริมชายหาดอีกแห่ง
สวนสนุกลูน่า พาร์ค (*Luna Park*)
สวนสนุกริมน้ำที่มีสาขาอยู่ที่ทั้งในซิดนีย์และเมลเบิร์น
ฮันเตอร์ วัลเลย์ (Hunter Valley)
แหล่งผลิตไวน์ ไร่ไวน์ โรงงานชีสและโรงงานช็อกโกแลตเลื่องชื่อ อยู่นอกเมืองซิดนีย์ ใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมง
ฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่เที่ยวในซิดนีย์สามารถไปเยือนได้ทั้งปี ทั้งนี้ขอให้ทำความเข้าใจเสียก่อนว่าฤดูกาลในทวีปออสเตรเลียนั้นจะตรงกันข้ามกับทวีปอื่นๆ ในโลก ในช่วงเวลากลางปีตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายนจะเป็นช่วงฤดูหนาว ตามมาด้วยด้วยฤดูใบไม้ผลิราวเดือนตุลาคม ฤดูร้อนในช่วงปลายปีเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์และฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ในราวเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ในช่วงฤดูหนาวสามารถไปเที่ยวแหล่งสกีที่ตั้งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปราว 3-5 ชั่วโมงขับรถได้ (มีภูเขาหิมะอยู่หลายแห่ง)
การเดินทางไปซิดนีย์ เดินทางโดยเที่ยวบินมาที่สนามบินนานาชาติคิงฟอร์ดสมิธ (Kingsford Smith) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าซิดนีย์ แอร์พอร์ต (Sydney Airport)
การเดินทางในซิดนีย์และออกจากซิดนีย์ เมืองนี้มีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ทันสมัย สะดวกสบายและรวดเร็ว มีทั้งบริการรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า (เฉพาะในเขตตัวเมืองด้านในบางจุด) รถราง (เฉพาะเขตท่องเที่ยวบางจุดในเมือง) เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากและแท็กซี่ สำหรับคนที่คิดจะไปยังจุดท่องเที่ยวบริเวณเมืองใกล้เคียงหรือแหล่งท่องเที่ยวชานเมืองซึ่งมีอยู่หลายแห่งนั้น สามารถเช่ารถขับที่ซิดนีย์ได้โดยสะดวก ถนนเมืองนี้ขับง่าย และมีที่จอดทั้งแบบฟรีและต้องจ่ายเงินให้บริการทั่วไป
สถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย (Sydney, Australia)
โรงอุปรากรแห่งนครซิดนีย์ (Sydney Opera House)
แลนด์มาร์คสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ ที่เที่ยวออสเตรเลียยอดนิยม และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ฝีมือมนุษย์สร้างของโลก ตั้งอยู่ริมอ่าวและท่าเรือสำคัญของเมือง เป็นสถานที่จัดการแสดงสำคัญๆ ระดับประเทศ ในช่วงเวลากลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับสวยงาม หากอยากจะเดินชมความงามอลังการของการออกแบบตกแต่งด้านใน สามารถซื้อทัวร์พาเที่ยว-พาชมได้ทุกวัน
สวนพฤกษศาสตร์ (Royal Botanic Garden)
สวนสวยขนาดใหญ่ริมอ่าวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงอุปรากรซิดนีย์ เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ประจำเมืองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1816 สวนแห่งนี้มีการจัดตกแต่งพันธุ์ไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่มีการจัดแสดงดอกไม้สวยงาม และในช่วงหน้าร้อนจะมีการจัดงานฉายภาพยนตร์กลางแปลงในยามเย็น โดยจอภาพยนตร์จะตั้งอยู่กลางน้ำ และผู้ชมสามารถกางเสื่อ ปูผ้า ปิกนิกชมวิวและชมภาพยนตร์กลางสวนสวยได้ในคราเดียวกัน
ไชน่าทาวน์ (China Town)
ไชน่าทาวน์เมืองนี้มีขนาดใหญ่และเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญกลางเมือง เป็นแหล่งอาหารนานาชาติชั้นเลิศ โดยเฉพาะอาหารจีนรสชาติดั้งเดิมที่มีให้บริการอยู่ทั่วไปและมีความอร่อยไม่แพ้อาหารจีนที่ฮ่องกงเลย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งร้านค้าหลากหลายมากมาย ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีตลาดนัดสินค้า ตลาดนัดอาหารสด แพดดี้ส์ มาร์เก็ต (Paddy’s Market) ที่นักช้อปปิ้งไม่น่าพลาดเพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าที่ระลึกราคาย่อมเยาที่สามารถต่อรองราคาได้ ที่สำคัญอีกอย่าง คือ ร้านค้า ร้านอาหารในแถบนี้มักจะเปิดให้บริการกันค่อนข้างดึก บางร้านเปิดถึง 4 ทุ่มไปจนถึงเที่ยงคืนเลยก็มี
เดอะ ร็อคส์ (The Rocks)
ที่เที่ยวซิดนีย์ยอดฮิตอีกแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตเดียวกับโรงอุปรากร สามารถเดินเลาะริมอ่าวถึงกันได้ ในบริเวณนี้มีตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆ ตั้งอยู่มากมาย และยังเป็นแหล่งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟชั้นเลิศ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีตลาดสินค้างานฝีมือและงานศิลปะชื่อดังประจำเมือง “ตลาดนัดเดอะ ร็อคส์” (The Rocks Market) ใครที่ชอบสินค้าทำมือและของแต่งบ้าน งานศิลปะกิ๊บเก๋ไม่น่าพลาด
ดาร์ลิ่ง ฮาร์เบอร์ (Darling Harbour)
อ่าวที่รักอันสุดแสนจะเป็นที่รักของนักกิน-ดื่มเมืองนี้ เพราะเป็นแหล่งร้านอาหาร ผับ บาร์ริมน้ำเลื่องชื่อ และยังมีแหล่งช้อปปิ้งริมน้ำในฝั่งตรงข้าม เรียกว่าเอาใจนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารนิทรรศการประจำเมือง (Sydney Convention and Exhibition Centre) ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงโฉมใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ถัดมาไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของสวนจีนสวยงาม (Chinese Garden) อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซิดนีย์ (Sydney Aquarium)
ตั้งอยู่ในเขตดาร์ลิง ฮาร์เบอร์ จัดแสดงสัตว์น้ำนานาพันธุ์ มีแทงค์ปลาฉลาม ปลากระเบนราหูยักษ์ และโดมโลกใต้น้ำขนาดใหญ่ที่มีการจำลองแนวปะการังเกรท บาริเออร์ (Great Barrier) แนวปะการังชื่อดังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกมาให้ได้ชมแบบใกล้ๆ อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีการแสดงของแมวน้ำแสนรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ติดอันดับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในอันดับต้นๆ ของโลก
หาดบอนได (Bondi Beach)
เวิ้งชายหาดชื่อดังที่สุดของเมือง ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวที่ทอดตัวยาวขนานถนนชายหาดเลียบขึ้นไปยังหน้าผาริมทะเล หาดแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต แหล่งช้อปปิ้งริมหาดและแหล่งร้านอาหารยอดนิยม ทุกๆ วันอาทิตย์จะมีตลาดนัดขายสินค้ามือสองและสินค้างานฝีมือใกล้ๆ กับชายหาดด้วย
หาดแมนลี่ (Manly Beach)
หาดยอดนิยมอีกแห่งของเมือง วิธีไปเยือนหาดนี้ที่นิยมกันที่สุด คือ การนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากท่าเรือเซอร์คูล่า คีย์ (Circular Quay) ที่อยู่ติดกับโรงอุปรากรซิดนีย์ การลงเรือข้ามฟากนอกจากจะย่นเวลาการเดินทางแล้ว ยังจะได้ชมวิวสวยๆ ของอ่าวซิดนีย์และโรงอุปรากรซิดนีย์ที่ลอยเด่นกลางน้ำได้อีกด้วย ที่หาดแมนลี่นั้นเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งร้านอาหารยอดนิยมหลักๆ อีกแห่งของซิดนีย์ และยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเที่ยวได้ทั้งครอบครัวและครบทุกแนว
ตลาดปลาซิดนีย์ (Sydney Fish Market)
แหล่งอาหารทะเลสดอร่อยขึ้นชื่อของเมือง มีร้านขายปลาและอาหารทะเลมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดประเภทต่างๆ และขอให้ทางร้านปรุงให้ได้ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการต้ม ปิ้ง ย่าง ซึ่งขอแนะนำว่าให้พกน้ำจิ้มอาหารทะเลติดตัวไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อยแบบไทยๆ ให้แซ่บเต็มพิกัดกันไปเลย ตลาดปลาแห่งนี้สามารถนั่งรถรางมาได้โดยสะดวกจากสถานีรถรางที่ไชน่าทาวน์
สะพานฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge)
สะพานข้ามอ่าวซิดนีย์เชื่อมเมือง 2 ฝั่ง เป็นที่จัดพลุไฟอันเลื่องลือของประเทศ สะพานแห่งนี้มีบริการทัวร์พาชมโครงสร้างสะพานอันยิ่งใหญ่และพาไต่ขึ้นไปยังยอดสูงสุดของสะพานอีกด้วย เรียกว่าเป็นจุดชมวิว 360 องศาที่สวยที่สุดและเสียวที่สุด แต่ทั้งนี้ก็มีผู้กล้าไปร่วมไต่สะพานกันได้ทุกวันและยังเป็นที่จัดงานแต่งงานแบบพิสดารของคู่รักใจกล้าหลายคู่อีกด้วย
บลู เม้าเท่นส์ (Blue Mountains)
ภูเขาหิน 3 ลูกชื่อดังของนิวเซ้าท์เวลล์ ในบริเวณเดียวกันมีถ้ำหินงอกหินย้อยและเหมืองทองเก่า นอกจากนั้นยังมีหมู่บ้านน่ารักๆ ขายสินค้าทำมือและร้านขนมพื้นบ้านมากมาย อยู่ห่างจากซิดนีย์ไปราว 1.5 ชั่วโมง
พอร์ต สตีเฟ่น (*Port Stephen*)
แหล่งชมฝูงปลาโลมาและปลาวาฬ อยู่นอกเมืองขับรถไปราว 3 ชั่วโมง
ช่องน้ำทะเลคียาม่า (*Kiama-Blow hole*)
โขดหินที่มีช่องให้น้ำทะเลลอดผ่านและพุ่งขึ้นมาเสมือนน้ำพุ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตชานเมืองอีกแห่งหนึ่ง
สวนสัตว์ทารองกา (*Taronga Zoo*)
สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมอาณาเขตของเกาะเล็กๆ ในอ่าวซิดนีย์ จัดแสดงพันธุ์สัตว์ต่างๆ จากรอบโลก
ศูนย์อนุรักษ์หมีโคอะล่า (*Koala Park Sanctuary*)
สถานที่ดูแลและรักษาพันธุ์หมีโคอะล่า อยู่ทางเหนือของซิดนีย์
สวนสาธารณะไฮด์พาร์ค (*Hyde Park*)
สวนสาธารณะกลางเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งขนานถนนเส้นหลักของเมือง เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง
จุดชมวิวเมืองอ่าววัตสัน (*Watson Bay*)
อยู่ถัดจากหาดบอนไดไปไม่ไกล เป็นจุดชมวิวเมืองมุมสูง 360 องศาจากริมหน้าผาอ่าววัตสัน มีเส้นทางชมวิวและร้านอาหารบริการ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Gallery of New South Wales)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมืองที่มีความเก่าแก่และสำคัญ ตั้งอยู่ในเขตเดียวกับสวนพฤกษศาสตร์ เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะชื่อดังระดับโลก
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์พาวเวอร์เฮ้าส์ (*Powerhouse Museum*)
จัดแสดงวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีด้านต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตไชน่าทาวน์
โบสถ์เซนต์แมรี่ (*St. Mary’s Cathedral*)
โบสถ์เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดของซิดนีย์ เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาครั้งสำคัญๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับสวนสาธารณะกลางเมืองไฮด์พาร์ค (Hyde Park)
โอลิมปิค พาร์ค (Olympic Park)
สถานที่จัดงานโอลิมปิคเมื่อปี 2000 มีหมู่บ้านนักกีฬาและโดมการแข่งขันอันสวยงามยิ่งใหญ่
หอคอยซิดนีย์ (*AMP Tower-Sydney Tower*)
หอคอยที่สูงที่สุดของเมือง มีจุดชมวิวด้านบนสุดและมีร้านอาหารที่หมุนรอบๆ หอคอยเพื่อชมวิวเมืองทุกด้านอีกด้วย
ลาเพรูซ (*La* Perouse)
ชายทะเลฝั่งตะวันออกของเมือง เป็นท่าเรือเก่า มีพิพิธภัณฑ์ จุดชมวิวสวยงามและเป็นแหล่งร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวริมชายหาดอีกแห่ง
สวนสนุกลูน่า พาร์ค (*Luna Park*)
สวนสนุกริมน้ำที่มีสาขาอยู่ที่ทั้งในซิดนีย์และเมลเบิร์น
ฮันเตอร์ วัลเลย์ (Hunter Valley)
แหล่งผลิตไวน์ ไร่ไวน์ โรงงานชีสและโรงงานช็อกโกแลตเลื่องชื่อ อยู่นอกเมืองซิดนีย์ ใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมง
ซามาร์คันด์, ประเทศอุซเบกิสถาน (Samarkand, Uzbekistan)
ซามาร์คันด์, ประเทศอุซเบกิสถาน (Samarkand, Uzbekistan)
เม็กซิโก ซิตี้, ประเทศเม็กซิโก (Mexico City, Mexico)
เม็กซิโก ซิตี้, ประเทศเม็กซิโก (Mexico City, Mexico)
แซนซิบาร์, ประเทศทานซาเนีย (Zanzibar, Tanzania)
แซนซิบาร์, ประเทศทานซาเนีย (Zanzibar, Tanzania)
เมืองโบราณในแซนซิบาร์เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของทวีปแอฟริกา และมีชื่อเสียงในเรื่องหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลใส
เมืองโบราณในแซนซิบาร์เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของทวีปแอฟริกา และมีชื่อเสียงในเรื่องหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลใส
คาร์ทาเกน่า, ประเทศโคลัมเบีย (Cartagena, Colombia)
คาร์ทาเกน่า, ประเทศโคลัมเบีย (Cartagena, Colombia)
กุสโก, ประเทศเปรู (Cusco, Peru)
กุสโก, ประเทศเปรู (Cusco, Peru)
กุสโก คือ ดินแดนที่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอนดีส ส่งผลให้กุสโกเป็นเมืองที่มีวิวอันสวยงาม
กุสโก คือ ดินแดนที่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอนดีส ส่งผลให้กุสโกเป็นเมืองที่มีวิวอันสวยงาม
ลียง, ประเทศฝรั่งเศส (Lyon, France)
ลียง, ประเทศฝรั่งเศส (Lyon, France)
เป็นเมืองอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโรน และเมืองหลวงของแคว้นโรนาลป์ ตั้งอยู่ระหว่างปารีสกับมาร์แซย์ โดยอยู่ห่างจากปารีส 470 กิโลเมตร, ห่างจากมาร์แซย์ 320 กิโลเมตร, ห่างจากเจนีวา 160 กิโลเมตร, ห่างจากตูริน 280 กิโลเมตร และห่างจากมิลาน 450 กิโลเมตร
เป็นเมืองอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโรน และเมืองหลวงของแคว้นโรนาลป์ ตั้งอยู่ระหว่างปารีสกับมาร์แซย์ โดยอยู่ห่างจากปารีส 470 กิโลเมตร, ห่างจากมาร์แซย์ 320 กิโลเมตร, ห่างจากเจนีวา 160 กิโลเมตร, ห่างจากตูริน 280 กิโลเมตร และห่างจากมิลาน 450 กิโลเมตร
A city of east-central France at the confluence of the Rhone and Saône Rivers north of Marseille. Founded in 43 bc as a Roman colony, it was the principal city of Gaul and an important religious center after the introduction of Christianity. Its silk industry dates to the 1400s.
อัมเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands)
อัมเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands)
อัมเตอร์ดัม คือ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมและผู้คนที่เป็นมิตรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้อัมเตอร์ดัมน่าอยู่ นอกจากนี้ ยังมีย่านท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ย่าน Red Light และพิพิธภัณฑ์ Van Gogh Museum
อัมเตอร์ดัม คือ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมและผู้คนที่เป็นมิตรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้อัมเตอร์ดัมน่าอยู่ นอกจากนี้ ยังมีย่านท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ย่าน Red Light และพิพิธภัณฑ์ Van Gogh Museum
นครรัฐวาติกัน (Vatican City)
นครรัฐวาติกัน (Vatican City)
นครรัฐวาติกัน ประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยแยกตัวจากอิตาลีมาปกครองตนเองเมื่อปี ค.ศ. 1929 และแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ทุกตารางนิ้วนั้นเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญ อย่างพิพิธภัณฑ์และมหาวิหาร
นครรัฐวาติกัน ประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยแยกตัวจากอิตาลีมาปกครองตนเองเมื่อปี ค.ศ. 1929 และแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ทุกตารางนิ้วนั้นเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญ อย่างพิพิธภัณฑ์และมหาวิหาร
กรุงเยรูซาเล็ม, ประเทศอิสราเอล (Jerusalem, Israel)
กรุงเยรูซาเล็ม, ประเทศอิสราเอล (Jerusalem, Israel)
ฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี (Florence, Italy)
ฟลอเรนซ์ คือ อีกหนึ่งเมืองที่ควรไปเยือนสักครั้งหากมาเที่ยวอิตาลี แวะเวียนมาชมกับสถานที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งศิลปะของโลก
นครเปตรา, ประเทศจอร์แดน (Petra, Jordan)
นครเปตรา ถือเป็นเมืองแห่งโบราณสถานของโลกเลยก็ว่าได้ โดยคุณจะได้พบกับอาคารที่แกะสลักด้วยหิน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซีกับทะเลอัคบา
ริโอ เดอ จาเนโร, ประเทศบราซิล (Rio de Janeiro, Brazil)
ริโอ เดอ จาเนโร โด่งดังเรื่องเทศกาลและคาร์นิวัล ซึ่งถือเป็นสีสันที่ทำให้บราซิลเป็นประเทศที่คึกคักอยู่เสมอ
ลาซา, ประเทศจีน (Lhasa, China)
เมืองลาซา ถือเป็นศูนย์กลางด้านพระพุทธศาสนาของทิเบต ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับมนตร์ขลังของสถาปัตยกรรมอันสวยงามบนยอดเขา ปลดปล่อยความคิด ให้จิตใจได้พักสงบอย่างแท้จริง
เซบียา, ประเทศสเปน (Seville, Spain)
เซบียา, ประเทศสเปน (Seville, Spain)
ดื่มด่ำไปกับปราสาทที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแขกมัวร์ พร้อมชิมอาหารยอดฮิต อย่าง ทาปาส เดินเลาะเลียบเพลิน ๆ
ดื่มด่ำไปกับปราสาทที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแขกมัวร์ พร้อมชิมอาหารยอดฮิต อย่าง ทาปาส เดินเลาะเลียบเพลิน ๆ
เวนิส, ประเทศอิตาลี (Venice, Italy)
เวนิส, ประเทศอิตาลี (Venice, Italy)
เวนิส คือ เมืองอันดับต้น ๆ ของคู่รักนักเดินทางที่ใฝ่ฝันอยากจะมาล่องเรือในคลองสีฟ้าใส พร้อมชมสถาปัตยกรรมและบ้านเรือนของผู้คนริมน้ำในเวนิส
เวนิส คือ เมืองอันดับต้น ๆ ของคู่รักนักเดินทางที่ใฝ่ฝันอยากจะมาล่องเรือในคลองสีฟ้าใส พร้อมชมสถาปัตยกรรมและบ้านเรือนของผู้คนริมน้ำในเวนิส
Monday, March 21, 2016
ไชน่าทาวน์ โฮจิมินห์ (China Town Ho Chi Minh) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ไชน่าทาวน์ โฮจิมินห์ (China Town Ho Chi Minh)
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ย่านชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนที่ยังคงมีบ้านเรือนและส่งปลูกสร้างสวยๆ ในสมัยยุคอาณานิคมฝรั่งเศส มีร้านขายยาสมุนไพร อาหารแห้ง ผลไม้แห้ง และขนมมากมาย
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ย่านชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนที่ยังคงมีบ้านเรือนและส่งปลูกสร้างสวยๆ ในสมัยยุคอาณานิคมฝรั่งเศส มีร้านขายยาสมุนไพร อาหารแห้ง ผลไม้แห้ง และขนมมากมาย
เจดีย์ซาลอย (Xa Loi Pagoda) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
เจดีย์ซาลอย (Xa Loi Pagoda) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
เจดีย์เจ็ดชั้นที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในเวียดนามใต้ ในปี พ.ศ. 2506 มีเหตุการณ์ที่พระสงฆ์และแม่ชีรวมตัวกันประท้วงรัฐบาลเกิดขึ้นที่นี่
เจดีย์เจ็ดชั้นที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในเวียดนามใต้ ในปี พ.ศ. 2506 มีเหตุการณ์ที่พระสงฆ์และแม่ชีรวมตัวกันประท้วงรัฐบาลเกิดขึ้นที่นี่
วัดเทียนหาว (Thien Hau Temple)
วัดเทียนหาว (Thien Hau Temple) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
วัดจีนเก่าแก่ที่อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่แห่งท้องทะเล ภายในวัดมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าจีนอีกมากมาย
วัดจีนเก่าแก่ที่อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่แห่งท้องทะเล ภายในวัดมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าจีนอีกมากมาย
พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum)
พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อาคารสองชั้นที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวส่วนตัวต่างๆ ของโฮจิมินห์ บิดาแห่งประเทศเวียดนามยุคใหม่ ตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่ในวัยหนุ่มไปจนถึงการต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพกับชาติตะวันตก
อาคารสองชั้นที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวส่วนตัวต่างๆ ของโฮจิมินห์ บิดาแห่งประเทศเวียดนามยุคใหม่ ตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่ในวัยหนุ่มไปจนถึงการต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพกับชาติตะวันตก
อาคารสองชั้นที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวส่วนตัวต่างๆ ของโฮจิมินห์ บิดาแห่งประเทศเวียดนามยุคใหม่ ตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่ในวัยหนุ่มไปจนถึงการต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพกับชาติตะวันตก
อาคารสองชั้นที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวส่วนตัวต่างๆ ของโฮจิมินห์ บิดาแห่งประเทศเวียดนามยุคใหม่ ตั้งแต่สมัยที่ท่านอยู่ในวัยหนุ่มไปจนถึงการต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพกับชาติตะวันตก
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนาม (Museum of Vietnamese History)
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนาม (Museum of Vietnamese History)
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อาคารเก่าแก่ทรงยุโรปที่ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณตั้งแต่สมัยยุคหิน ยุคสำริด อารยธรรมฟูนัน จาม และเขมร รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อาคารเก่าแก่ทรงยุโรปที่ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณตั้งแต่สมัยยุคหิน ยุคสำริด อารยธรรมฟูนัน จาม และเขมร รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ
วัดกาวได๋ (Cao Dai Temple) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
วัดกาวได๋ (Cao Dai Temple) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
หรือที่เรียกว่าวัดสันตะศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ที่เมืองเตยนินห์ (Tay Ninh Holy See Temple) ห่างจากอุโมงค์กู๋จีขึ้นไปทางเหนือประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร เป็นวัดของลัทธิกาวได๋ที่มีการรวมความเชื่อทางศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และศาสนาคริสต์เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีสัญลักษณ์ทางศาสนาคือพระเนตรซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า (The Left Eye of God) จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมทางศาสนาต่างๆ เกิดเป็นผลงานศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์สวยงามแปลกตา
หรือที่เรียกว่าวัดสันตะศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ที่เมืองเตยนินห์ (Tay Ninh Holy See Temple) ห่างจากอุโมงค์กู๋จีขึ้นไปทางเหนือประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร เป็นวัดของลัทธิกาวได๋ที่มีการรวมความเชื่อทางศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และศาสนาคริสต์เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีสัญลักษณ์ทางศาสนาคือพระเนตรซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า (The Left Eye of God) จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมทางศาสนาต่างๆ เกิดเป็นผลงานศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์สวยงามแปลกตา
อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnel) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi Tunnel)
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการสู้รบของกองทัพเวียดกงในอดีต ปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอันซีนที่แสดงให้เห็นถึงความทรหดอดทนและความทุ่มเทของชาวเวียดนามในการต่อสู้กับกองทัพต่างชาติ จากทางเข้าที่แคบและอุดอู้ลงไปเป็นทางสลับซับซ้อนแต่ภายในมีห้องต่างๆ ที่ใช้ในสมัยสงคราม รอบบริเวณมีจัดแสดงกับดักสงครามแบบต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองใต้ดินที่มีความอัศจรรย์และต้องไปชมเมื่อมาถึงที่นี่
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการสู้รบของกองทัพเวียดกงในอดีต ปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอันซีนที่แสดงให้เห็นถึงความทรหดอดทนและความทุ่มเทของชาวเวียดนามในการต่อสู้กับกองทัพต่างชาติ จากทางเข้าที่แคบและอุดอู้ลงไปเป็นทางสลับซับซ้อนแต่ภายในมีห้องต่างๆ ที่ใช้ในสมัยสงคราม รอบบริเวณมีจัดแสดงกับดักสงครามแบบต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองใต้ดินที่มีความอัศจรรย์และต้องไปชมเมื่อมาถึงที่นี่
ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market)
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ห่างมาไม่ไกลจากทำเนียบอิสรภาพ เป็นตลาดที่คึกคักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น สร้างขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วบนพื้นที่ประมาณหนึ่งตารางกิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดแห่งนี้ ด้านในขายสินค้าหลายอย่างทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ของฝาก ของที่ระลึก อาหารสด อาหารแห้ง ขนม ดอกไม้ ส่วนราคาอยู่ที่ความสามารถในการต่อรองและความพึงพอใจของคนซื้อ แต่ก็อย่ามัวช้อปสนุกจนลืมระมัดระวังกระเป๋าสตางค์ด้วยนะ
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ห่างมาไม่ไกลจากทำเนียบอิสรภาพ เป็นตลาดที่คึกคักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น สร้างขึ้นเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วบนพื้นที่ประมาณหนึ่งตารางกิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดแห่งนี้ ด้านในขายสินค้าหลายอย่างทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ของฝาก ของที่ระลึก อาหารสด อาหารแห้ง ขนม ดอกไม้ ส่วนราคาอยู่ที่ความสามารถในการต่อรองและความพึงพอใจของคนซื้อ แต่ก็อย่ามัวช้อปสนุกจนลืมระมัดระวังกระเป๋าสตางค์ด้วยนะ
โรงละครหุ่นกระบอกน้ำมังกรทอง (The Golden Dragon Water Puppet Theater) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
โรงละครหุ่นกระบอกน้ำมังกรทอง (The Golden Dragon Water Puppet Theater)
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ถ้ามาเที่ยวเวียดนามแล้วไม่ได้มาดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำต้องบอกว่าคุณมาไม่ถึงเวียดนาม เพราะการแสดงหุ่นกระบอกน้ำถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศเวียดนามที่ว่ากันว่ามีกำเนิดมาจากหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำของเวียดนามทางตอนเหนือเมื่อเกือบพันปีที่แล้ว การแสดงหุ่นกระบอกน้ำจะแสดงในเวทีสระน้ำเล็กๆ ที่ลึกประมาณเอวโดยมีผู้บังคับหุ่นกระบอกแอบอยู่ด้านหลังฉาก เมื่อมาถึงโฮจิมินห์แล้วต้องมาดูหุ่นกระบอกน้ำน่ารักๆ เรื่องราวสนุกๆ ที่มีเทคนิคการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจประกอบดนตรีพื้นเมืองเวียดนามแบบเล่นกันสดๆ นอกจากนี้โรงละครหุ่นกระบอกน้ำมังกรทองตั้งอยู่แค่ด้านหลังของทำเนียบอิสรภาพ แพลนมาเที่ยวที่นั่นแล้วตกค่ำก็มาชมละครหุ่นได้เลย
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ถ้ามาเที่ยวเวียดนามแล้วไม่ได้มาดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำต้องบอกว่าคุณมาไม่ถึงเวียดนาม เพราะการแสดงหุ่นกระบอกน้ำถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศเวียดนามที่ว่ากันว่ามีกำเนิดมาจากหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำของเวียดนามทางตอนเหนือเมื่อเกือบพันปีที่แล้ว การแสดงหุ่นกระบอกน้ำจะแสดงในเวทีสระน้ำเล็กๆ ที่ลึกประมาณเอวโดยมีผู้บังคับหุ่นกระบอกแอบอยู่ด้านหลังฉาก เมื่อมาถึงโฮจิมินห์แล้วต้องมาดูหุ่นกระบอกน้ำน่ารักๆ เรื่องราวสนุกๆ ที่มีเทคนิคการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจประกอบดนตรีพื้นเมืองเวียดนามแบบเล่นกันสดๆ นอกจากนี้โรงละครหุ่นกระบอกน้ำมังกรทองตั้งอยู่แค่ด้านหลังของทำเนียบอิสรภาพ แพลนมาเที่ยวที่นั่นแล้วตกค่ำก็มาชมละครหุ่นได้เลย
พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ด้านข้างใกล้ๆ ทำเนียบอิสรภาพ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสงครามเวียดนามโดยเฉพาะ มีการจัดแสดงอาวุธที่ใช้ในสมัยสงครามที่มีทั้งปืน กระสุน ระเบิด รถถัง เครื่องบิน เครื่องจองจำ เครื่องทรมาน เครื่องประหาร และคุกจำลอง แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือภาพถ่ายแสดงเรื่องราวของสภาวะสงครามในสมัยนั้น ซึ่งแต่ละภาพล้วนสื่อให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามรวมไปถึงสะท้อนให้เห็นความโศกเศร้าทรมานและความหดหู่ของผู้รับเคราะห์ได้อย่างถึงอารมณ์ มีหลายๆ ภาพเป็นภาพในตำนานที่โด่งดังมีคนรู้จักไปทั่วโลก
อยู่ด้านข้างใกล้ๆ ทำเนียบอิสรภาพ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสงครามเวียดนามโดยเฉพาะ มีการจัดแสดงอาวุธที่ใช้ในสมัยสงครามที่มีทั้งปืน กระสุน ระเบิด รถถัง เครื่องบิน เครื่องจองจำ เครื่องทรมาน เครื่องประหาร และคุกจำลอง แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือภาพถ่ายแสดงเรื่องราวของสภาวะสงครามในสมัยนั้น ซึ่งแต่ละภาพล้วนสื่อให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามรวมไปถึงสะท้อนให้เห็นความโศกเศร้าทรมานและความหดหู่ของผู้รับเคราะห์ได้อย่างถึงอารมณ์ มีหลายๆ ภาพเป็นภาพในตำนานที่โด่งดังมีคนรู้จักไปทั่วโลก
ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
เรียกอีกชื่อว่าทำเนียบการรวมชาติ (Reunification Palace) แต่เดิมเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมัยสงคราม ภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน ห้องรับรองต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์การสื่อสารในสมัยสงครามที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ทำเนียบแห่งนี้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การรวมชาติของเวียดนามเพราะเป็นจุดสุดท้ายของการยุติสงครามเวียดนามเหนือ-ใต้เมื่อรถถังของฝ่ายเวียดนามเหนือบุกเข้ามาในทำเนียบแห่งนี้และโค่นอำนาจของรัฐบาลเวียดนามใต้ได้สำเร็จ
เรียกอีกชื่อว่าทำเนียบการรวมชาติ (Reunification Palace) แต่เดิมเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ ซึ่งปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมัยสงคราม ภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน ห้องรับรองต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์การสื่อสารในสมัยสงครามที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ทำเนียบแห่งนี้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์การรวมชาติของเวียดนามเพราะเป็นจุดสุดท้ายของการยุติสงครามเวียดนามเหนือ-ใต้เมื่อรถถังของฝ่ายเวียดนามเหนือบุกเข้ามาในทำเนียบแห่งนี้และโค่นอำนาจของรัฐบาลเวียดนามใต้ได้สำเร็จ
ศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อยู่ใกล้โรงละครโอเปร่า เป็นตึกสีเหลืองครีมสวยงามตามสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปปั้นอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ที่คนชอบไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญและเป็นย่านการค้าการท่องเที่ยวของเมืองเพราะมีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆ อยู่รอบๆ เช่น วินคอมเซ็นเตอร์ (Vincom Center) ยูเนี่ยนสแควร์ (Union Square) ไซ่ง่อนสแควร์ (Saigon Square) ไซ่ง่อนเซ็นเตอร์ (Saigon Center) ลัคกี้พลาซ่า (Lucky Plaza)
อยู่ใกล้โรงละครโอเปร่า เป็นตึกสีเหลืองครีมสวยงามตามสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปปั้นอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ที่คนชอบไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญและเป็นย่านการค้าการท่องเที่ยวของเมืองเพราะมีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆ อยู่รอบๆ เช่น วินคอมเซ็นเตอร์ (Vincom Center) ยูเนี่ยนสแควร์ (Union Square) ไซ่ง่อนสแควร์ (Saigon Square) ไซ่ง่อนเซ็นเตอร์ (Saigon Center) ลัคกี้พลาซ่า (Lucky Plaza)
โรงละครโอเปร่า (Saigon Opera House) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
โรงละครโอเปร่า (Saigon Opera House) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ถัดมาจากอาคารไปรษณีย์กลางไม่ไกลนักจะเป็นที่ตั้งของโรงละครเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีสวยงามแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส โรงละครแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ (Municipal Theatre of Ho Chi Minh City) ปัจจุบันยังคงใช้เป็นสถานที่สำหรับชมการแสดงและคอนเสิร์ตต่างๆ ที่นี่จะมีลานน้ำพุที่เป็นจุดพักผ่อนสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว และยังจุดถ่ายรูปโรงละครที่สวยงามอีกด้วย
ถัดมาจากอาคารไปรษณีย์กลางไม่ไกลนักจะเป็นที่ตั้งของโรงละครเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีสวยงามแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส โรงละครแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ (Municipal Theatre of Ho Chi Minh City) ปัจจุบันยังคงใช้เป็นสถานที่สำหรับชมการแสดงและคอนเสิร์ตต่างๆ ที่นี่จะมีลานน้ำพุที่เป็นจุดพักผ่อนสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว และยังจุดถ่ายรูปโรงละครที่สวยงามอีกด้วย
อาคารไปรษณีย์กลาง (Saigon Post Office) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
อาคารไปรษณีย์กลาง (Saigon Post Office) เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
ตั้งอยู่ใกล้ๆ มหาวิหารนอร์เธอดาม เป็นอาคารไปรษณีย์เก่าแก่อายุร้อยกว่าปีเช่นกัน และถือได้ว่าเป็นศูนย์ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตัวอาคารมีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสที่มีความโออ่าและอ่อนช้อยสวยงาม ภายในมีการประดับกระจกสี ภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ ที่นี่ยังคงเปิดให้บริการส่งไปรษณีย์ตามปกติรวมไปถึงมีบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแสตมป์ชุดสะสม โปสการ์ดและของที่ระลึกขายให้นักท่องเที่ยวด้วย
ตั้งอยู่ใกล้ๆ มหาวิหารนอร์เธอดาม เป็นอาคารไปรษณีย์เก่าแก่อายุร้อยกว่าปีเช่นกัน และถือได้ว่าเป็นศูนย์ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตัวอาคารมีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสที่มีความโออ่าและอ่อนช้อยสวยงาม ภายในมีการประดับกระจกสี ภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ ที่นี่ยังคงเปิดให้บริการส่งไปรษณีย์ตามปกติรวมไปถึงมีบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแสตมป์ชุดสะสม โปสการ์ดและของที่ระลึกขายให้นักท่องเที่ยวด้วย
มหาวิหารนอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral) โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
มหาวิหารนอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral) โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี สร้างด้วยอิฐแดงในปี พ.ศ. 2420 ตามแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่สวยงาม แต่เดิมเรียกโบสถ์แห่งนี้ว่าโบสถ์ไซ่ง่อน (Saigon Church) ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโฮจิมินห์ที่มีชื่อเสียง ตัวอาคารของมหาวิหารไม่มีการประดับกระจกสีเพราะได้รับความเสียหายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดเด่นของที่นี่คือมีหอคอยคู่ที่สูงดูเด่นเป็นสง่า ส่วนด้านหน้าวิหารมีรูปปั้นพระแม่มารีสีขาวที่ทำจากหินอ่อนตั้งอยู่ และที่นี่ยังคงมีการประกอบพิธีทางศาสนาทุกวันอาทิตย์ด้วย
โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี สร้างด้วยอิฐแดงในปี พ.ศ. 2420 ตามแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่สวยงาม แต่เดิมเรียกโบสถ์แห่งนี้ว่าโบสถ์ไซ่ง่อน (Saigon Church) ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโฮจิมินห์ที่มีชื่อเสียง ตัวอาคารของมหาวิหารไม่มีการประดับกระจกสีเพราะได้รับความเสียหายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดเด่นของที่นี่คือมีหอคอยคู่ที่สูงดูเด่นเป็นสง่า ส่วนด้านหน้าวิหารมีรูปปั้นพระแม่มารีสีขาวที่ทำจากหินอ่อนตั้งอยู่ และที่นี่ยังคงมีการประกอบพิธีทางศาสนาทุกวันอาทิตย์ด้วย
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม
เมืองโฮจิมินส์ (Ho Chi Minh City) ประเทศเวียดนาม หรือชื่อเดิมที่คนไทยเรียกว่า “ไซ่ง่อน” (Saigon) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางเวียดนามตอนใต้และเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามใต้ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ต่อมาภายหลังจากการรวมประเทศจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโฮจิมินห์ตามชื่อของผู้นำสันนิบาตเพื่อเอกราชเวียดนาม ประชากรส่วนใหญ่ในเมืองโฮจิมินห์เป็นชาวเวียดนามรวมไปถึงชาวเวียดนามเชื้อสายจีน ภาษาหลักที่ใช้คือภาษาเวียดนาม แต่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษ จีน และไทยได้ สกุลเงินหลักที่ใช้คือเงิน “ด่อง” หรือ “ด่ง” (Vietnam Dong - VND) และบางสถานที่อย่างเช่นแหล่งช้อปปิ้งก็รับเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินไทยด้วย
การเตรียมตัวเดินทาง
ฤดูกาลและสภาพอากาศ โฮจิมินส์เป็นเมืองที่มีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปีและมีแค่สองฤดูกาลคือฤดูแล้งและฤดูฝน สำหรับฤดูแล้งจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยช่วงธันวาคมถึงมกราคมจะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุดและเป็นช่วงไฮซีซั่น ส่วนเมษายนจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด สำหรับฤดูฝนจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนซึ่งค่อนข้างมีฝนตกชุก
การเดินทางไปโฮจิมินห์ เดินทางสะดวกสบายจากกรุงเทพด้วยเที่ยวบินตรงไปโฮจิมินห์โดยลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิต (SGN) ใช้เวลาแค่เพียงชั่วโมงกว่าๆ และยังมีหลากหลายสายการบินให้เลือกด้วย ถ้าจองล่วงหน้าหรือรอจังหวะโปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษก็จะได้ตั๋วไปกลับราคาโดนๆ ในแบบที่คุณยังต้องแปลกใจว่าทำไมตั๋วบินไปต่างประเทศราคาถูกจัง
การเดินทางในโฮจิมินห์ จากสนามบินเข้ามายังตัวเมืองโฮจิมินห์มีบริการรถบัสรับส่งสนามบินซึ่งออกทุกๆ 15 นาทีและให้บริการถึง 6 โมงเย็น นอกจากนี้ก็ยังมีรถรับส่งของทางโรงแรมและรถแท็กซี่ด้วย (การเดินทางด้วยรถบัสจะค่อนข้างประหยัดและปลอดภัยกว่าการใช้บริการแท็กซี่ทั่วไป) ส่วนการเดินทางในตัวเมืองโฮจิมินห์มีทั้งรถบัสประจำทาง แท็กซี่ รถสามล้อ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะเช่าจักรยานขี่เที่ยวเองก็ยังได้
การเตรียมตัวเดินทาง
ฤดูกาลและสภาพอากาศ โฮจิมินส์เป็นเมืองที่มีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปีและมีแค่สองฤดูกาลคือฤดูแล้งและฤดูฝน สำหรับฤดูแล้งจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยช่วงธันวาคมถึงมกราคมจะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุดและเป็นช่วงไฮซีซั่น ส่วนเมษายนจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด สำหรับฤดูฝนจะอยู่ในช่วงพฤษภาคมถึงพฤศจิกายนซึ่งค่อนข้างมีฝนตกชุก
การเดินทางไปโฮจิมินห์ เดินทางสะดวกสบายจากกรุงเทพด้วยเที่ยวบินตรงไปโฮจิมินห์โดยลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิต (SGN) ใช้เวลาแค่เพียงชั่วโมงกว่าๆ และยังมีหลากหลายสายการบินให้เลือกด้วย ถ้าจองล่วงหน้าหรือรอจังหวะโปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษก็จะได้ตั๋วไปกลับราคาโดนๆ ในแบบที่คุณยังต้องแปลกใจว่าทำไมตั๋วบินไปต่างประเทศราคาถูกจัง
การเดินทางในโฮจิมินห์ จากสนามบินเข้ามายังตัวเมืองโฮจิมินห์มีบริการรถบัสรับส่งสนามบินซึ่งออกทุกๆ 15 นาทีและให้บริการถึง 6 โมงเย็น นอกจากนี้ก็ยังมีรถรับส่งของทางโรงแรมและรถแท็กซี่ด้วย (การเดินทางด้วยรถบัสจะค่อนข้างประหยัดและปลอดภัยกว่าการใช้บริการแท็กซี่ทั่วไป) ส่วนการเดินทางในตัวเมืองโฮจิมินห์มีทั้งรถบัสประจำทาง แท็กซี่ รถสามล้อ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือจะเช่าจักรยานขี่เที่ยวเองก็ยังได้
หลีเป๊ะ สตูล
หลีเป๊ะ สตูล
เดสติเนชั่นเส้นนี้ขึ้นชื่อในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาว่าทะเลสวย น้ำใส ทรายขาว มีธรรมชาติสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ เป็นที่ฮันนีมูนและที่จัดงานแต่งงานริมหาดยอดฮิตและสุดฮิป และมีที่พักให้เลือกหลายแบบตามกำลังทรัพย์ รวมทั้งการเดินทางไปเที่ยวหลีเป๊ะในปัจจุบันก็มีความสะดวกมากกว่าแต่ก่อนอยู่มาก
เดสติเนชั่นเส้นนี้ขึ้นชื่อในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาว่าทะเลสวย น้ำใส ทรายขาว มีธรรมชาติสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ เป็นที่ฮันนีมูนและที่จัดงานแต่งงานริมหาดยอดฮิตและสุดฮิป และมีที่พักให้เลือกหลายแบบตามกำลังทรัพย์ รวมทั้งการเดินทางไปเที่ยวหลีเป๊ะในปัจจุบันก็มีความสะดวกมากกว่าแต่ก่อนอยู่มาก
โลกใต้ทะเลชุมพร
ทะเลชุมพร
โลกใต้ทะเลชุมพร
ทะเลชุมพรถือว่ามีความสวยงามสมบูรณ์และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก มีจุดด้ำน้ำชมปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาทะเลหลากสีสันมากมาย มากไปกว่านั้นก็ยังมีหาดทราย ชายทะเลสวยๆ และมีเกาะเล็กเกาะน้อยให้เที่ยวชมหลายแห่งแบบที่คุณไม่ต้องเฮโลไปกระจุกเที่ยวกันที่เดียว เพราะจะสวีททั้งทีก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวเสียหน่อย เส้นทางนี้บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับคู่รักนักลุยและรักทะเลเป็นอย่างมาก
โลกใต้ทะเลชุมพร
ทะเลชุมพรถือว่ามีความสวยงามสมบูรณ์และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก มีจุดด้ำน้ำชมปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาทะเลหลากสีสันมากมาย มากไปกว่านั้นก็ยังมีหาดทราย ชายทะเลสวยๆ และมีเกาะเล็กเกาะน้อยให้เที่ยวชมหลายแห่งแบบที่คุณไม่ต้องเฮโลไปกระจุกเที่ยวกันที่เดียว เพราะจะสวีททั้งทีก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวเสียหน่อย เส้นทางนี้บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับคู่รักนักลุยและรักทะเลเป็นอย่างมาก
บ้านแพริมน้ำที่แม่น้ำแควใหญ่ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
แม่น้ำแควใหญ่ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
บ้านแพริมน้ำที่แม่น้ำแควใหญ่ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
เส้นทางท่องเที่ยวแห่งรักเส้นนี้กำลังมาแรงในปีล่าสุด ขึ้นชื่อเรื่องที่พักแพริมน้ำสุดโรแมนติก เป็นที่เที่ยวที่มีความสงบและธรรมชาติสวยงาม การเดินทางไป-มาก็แสนสะดวก แถมยังมีที่เที่ยวธรรมชาติให้ได้ไปเที่ยวชมหลายแห่ง
บ้านแพริมน้ำที่แม่น้ำแควใหญ่ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี
เส้นทางท่องเที่ยวแห่งรักเส้นนี้กำลังมาแรงในปีล่าสุด ขึ้นชื่อเรื่องที่พักแพริมน้ำสุดโรแมนติก เป็นที่เที่ยวที่มีความสงบและธรรมชาติสวยงาม การเดินทางไป-มาก็แสนสะดวก แถมยังมีที่เที่ยวธรรมชาติให้ได้ไปเที่ยวชมหลายแห่ง
สวนผึ้ง ราชบุรี
สวนผึ้ง ราชบุรี
วิวภูเขาที่สวนผึ้ง ราชบุรี
อีกสถานที่โรแมนติกในไทยและแหล่งฮันนีมูนยอดนิยมเพราะมีรีสอร์ทสวยเก๋หลายตีมหลายแบบ โอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยๆ มีที่เที่ยว ที่กินและกิจกรรมให้ทำมากมาย แถมการเดินทางไปเที่ยวก็แสนสะดวก เรียกได้ว่าเป็นแพ็คเกจการพักผ่อนที่ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องวางแผนนาน แค่เลือกที่พักที่ชอบ คุณและคนรักก็แพ็คกระเป๋าไปกันได้เลย
วิวภูเขาที่สวนผึ้ง ราชบุรี
อีกสถานที่โรแมนติกในไทยและแหล่งฮันนีมูนยอดนิยมเพราะมีรีสอร์ทสวยเก๋หลายตีมหลายแบบ โอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยๆ มีที่เที่ยว ที่กินและกิจกรรมให้ทำมากมาย แถมการเดินทางไปเที่ยวก็แสนสะดวก เรียกได้ว่าเป็นแพ็คเกจการพักผ่อนที่ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องวางแผนนาน แค่เลือกที่พักที่ชอบ คุณและคนรักก็แพ็คกระเป๋าไปกันได้เลย
เกาะช้าง ตราด
เกาะช้าง ตราด
พระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะช้าง ตราด
เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ เกาะแห่งทะเลตะวันออกชื่อดังที่การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายและมีที่พักมากมาย และยังเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ลับฟ้าสุดโรแมนติก มีทรายขาว น้ำใส วิวสวยจับใจและ มีแนวปะการังใต้น้ำที่ยังสมบูรณ์สวยงาม เกาะช้างจึงเป็นอีกหนึ่งเดสติเนชั่นที่เหมาะสำหรับคู่รักนักดำน้ำและคนรักทะเล
พระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะช้าง ตราด
เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ เกาะแห่งทะเลตะวันออกชื่อดังที่การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายและมีที่พักมากมาย และยังเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ลับฟ้าสุดโรแมนติก มีทรายขาว น้ำใส วิวสวยจับใจและ มีแนวปะการังใต้น้ำที่ยังสมบูรณ์สวยงาม เกาะช้างจึงเป็นอีกหนึ่งเดสติเนชั่นที่เหมาะสำหรับคู่รักนักดำน้ำและคนรักทะเล
เกาะพยาม ระนอง
เกาะพยาม ระนอง
เกาะสวยอีกเกาะของทะเลอันดามัน เกาะพยามขึ้นชื่อว่ามีน้ำทะเลใสสะอาด เป็นเขตท่องเที่ยวที่สงบ มีความเป็นส่วนตัว มีแนวปะการังสวยงาม มีจุดชมนกหลากพันธุ์ โดยเฉพาะนกเงือกที่หาดูได้ยากในธรรมชาติ ที่สำคัญมีจุดชมอาทิตย์อัสดงอันสุดแสนจะโรแมนติก แถมค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไปเกาะนี้ก็ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับเกาะดังอื่นๆ ในแถบนี้ ออฟชั่นนี้รับรองว่าคู่รักนักอนุรักษ์ธรรมชาติและคนรักทะเล จะไม่ผิดหวังแน่นอน
เกาะสวยอีกเกาะของทะเลอันดามัน เกาะพยามขึ้นชื่อว่ามีน้ำทะเลใสสะอาด เป็นเขตท่องเที่ยวที่สงบ มีความเป็นส่วนตัว มีแนวปะการังสวยงาม มีจุดชมนกหลากพันธุ์ โดยเฉพาะนกเงือกที่หาดูได้ยากในธรรมชาติ ที่สำคัญมีจุดชมอาทิตย์อัสดงอันสุดแสนจะโรแมนติก แถมค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไปเกาะนี้ก็ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับเกาะดังอื่นๆ ในแถบนี้ ออฟชั่นนี้รับรองว่าคู่รักนักอนุรักษ์ธรรมชาติและคนรักทะเล จะไม่ผิดหวังแน่นอน
ถนนเลียบทะเล ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี
ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี
ถนนเลียบทะเล ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี
ทริปขับรถกินลมชมวิวที่มาวินอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถนนเลียบชายเขาและเวิ้งทะเลกว่า 111 กิโลเมตรเส้นนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นถนนที่โรแมนติกที่สุดของบ้านเรา แถมตลอดเส้นทางนั้นก็มีจุดแวะพักถ่ายรูปและแหล่งท่องเที่ยวอยู่ตลอดทาง หากคุณยังนึกไม่ออกว่าวันหยุดนี้จะพาหวานใจไปไหนดี ตัวเลือกเส้นทางนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ต้องแพ็คกระเป๋าให้ยุ่งยาก แต่เป็นทริปขับรถชิลๆ ที่จะได้รีแล็กซ์และใช้เวลาคุณภาพดีๆ กับคนรักของคุณ
ถนนเลียบทะเล ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จันทบุรี
ทริปขับรถกินลมชมวิวที่มาวินอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถนนเลียบชายเขาและเวิ้งทะเลกว่า 111 กิโลเมตรเส้นนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นถนนที่โรแมนติกที่สุดของบ้านเรา แถมตลอดเส้นทางนั้นก็มีจุดแวะพักถ่ายรูปและแหล่งท่องเที่ยวอยู่ตลอดทาง หากคุณยังนึกไม่ออกว่าวันหยุดนี้จะพาหวานใจไปไหนดี ตัวเลือกเส้นทางนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ต้องแพ็คกระเป๋าให้ยุ่งยาก แต่เป็นทริปขับรถชิลๆ ที่จะได้รีแล็กซ์และใช้เวลาคุณภาพดีๆ กับคนรักของคุณ
วังน้ำเขียว นครราชสีมา
วังน้ำเขียว นครราชสีมา
สวนดอกไม้วังน้ำเขียว
เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวฉายา “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพราะในเขตวังน้ำเขียวนั้นมีอากาศเย็นตลอดปีและค่อนข้างหนาวในช่วงฤดูหนาว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าในบริเวณวังน้ำเขียวนั้นมีแปลงดอกไม้เมืองหนาวมากมาย ไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้มาดูดอกไม้สวยๆ แล้ว คุณก็ยังสามารถจูงมือคนรักไปชมวิวสุดโรแมนติกกันได้ที่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงและจุดชมวิวที่มีอยู่หลายแห่ง ส่วนเรื่องที่พักนี่หายห่วงได้เลย เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักนักลุยหรือคู่รักฉบับพรีเมี่ยม ที่พักในแถบนี้มีครบทุกแนวความต้องการอันหลากหลายของคุณๆ แน่นอน
สวนดอกไม้วังน้ำเขียว
เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวฉายา “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เพราะในเขตวังน้ำเขียวนั้นมีอากาศเย็นตลอดปีและค่อนข้างหนาวในช่วงฤดูหนาว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าในบริเวณวังน้ำเขียวนั้นมีแปลงดอกไม้เมืองหนาวมากมาย ไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้มาดูดอกไม้สวยๆ แล้ว คุณก็ยังสามารถจูงมือคนรักไปชมวิวสุดโรแมนติกกันได้ที่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงและจุดชมวิวที่มีอยู่หลายแห่ง ส่วนเรื่องที่พักนี่หายห่วงได้เลย เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักนักลุยหรือคู่รักฉบับพรีเมี่ยม ที่พักในแถบนี้มีครบทุกแนวความต้องการอันหลากหลายของคุณๆ แน่นอน
เขาค้อ เพชรบูรณ์
หมอกยามเช้าที่เขาค้อ เพชรบูรณ์
จุดชมทะเลหมอกขึ้นชื่อจนกลายเป็นสร้อยคำนิยมเรื่อยมาว่า “เขาค้อทะเลหมอก” โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะเกิดหมอกหนาสุด แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาค้อจะมีดีแค่ทะเลหมอก ในทางตรงกันข้าม เขาค้อเที่ยวได้ตลอดปี มีที่พักและที่เที่ยวหลายแห่งทั้งในบริเวณเขาค้อและภูเขาใกล้เคียง แถมรีสอร์ทที่พักแนวฮันนีมูนก็มีอยู่มาก ด้วยเหตุที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ผนวกกับธรรมชาติสวยงามคล้ายเมืองในหุบเขาแถบยุโรป เขาค้อจึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมของคู่รักชาวไทยเสมอมา
จุดชมทะเลหมอกขึ้นชื่อจนกลายเป็นสร้อยคำนิยมเรื่อยมาว่า “เขาค้อทะเลหมอก” โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะเกิดหมอกหนาสุด แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาค้อจะมีดีแค่ทะเลหมอก ในทางตรงกันข้าม เขาค้อเที่ยวได้ตลอดปี มีที่พักและที่เที่ยวหลายแห่งทั้งในบริเวณเขาค้อและภูเขาใกล้เคียง แถมรีสอร์ทที่พักแนวฮันนีมูนก็มีอยู่มาก ด้วยเหตุที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ผนวกกับธรรมชาติสวยงามคล้ายเมืองในหุบเขาแถบยุโรป เขาค้อจึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมของคู่รักชาวไทยเสมอมา
ปาย-ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
ปาย-ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน หมอกยามเช้า กางเต็นท์ริมน้ำ ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
เมืองในหมอกแดนเหนือที่ไม่เคยตกชาร์ตสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของไทย เพราะเมืองในหมอกเมืองนี้มีธรรมชาติสวยงามและบรรยากาศเย็นสบายตลอดปี อีกทั้งในปัจจุบันก็เดินทางไปเที่ยวได้อย่างสะดวกและมีที่พักให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าคุณอยากไปนอนกกไออุ่นกันในเต็นท์ริมน้ำ หรือจะไปฮันนีมูนหวานๆ ในรีสอร์ทแสนสวย แถมยังมีกิจกรรมให้ได้ทำร่วมกับคนรักหลายอย่าง เช่น เดิมชมธรรมชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา หรือจะแค่ชิลเอ้าท์จิบกาแฟชมสายหมอกยามเช้าก็โรแมนติกใช่ย่อยนะ
เมืองในหมอกแดนเหนือที่ไม่เคยตกชาร์ตสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกของไทย เพราะเมืองในหมอกเมืองนี้มีธรรมชาติสวยงามและบรรยากาศเย็นสบายตลอดปี อีกทั้งในปัจจุบันก็เดินทางไปเที่ยวได้อย่างสะดวกและมีที่พักให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าคุณอยากไปนอนกกไออุ่นกันในเต็นท์ริมน้ำ หรือจะไปฮันนีมูนหวานๆ ในรีสอร์ทแสนสวย แถมยังมีกิจกรรมให้ได้ทำร่วมกับคนรักหลายอย่าง เช่น เดิมชมธรรมชาติ เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา หรือจะแค่ชิลเอ้าท์จิบกาแฟชมสายหมอกยามเช้าก็โรแมนติกใช่ย่อยนะ
ทิปส์การเตรียมตัวไปสนามบิน แบบไม่ต้องห่วงตกเครื่อง
เช็คเอกสารอีกครั้งวันก่อนบิน
เอกสารสำคัญ 4 อย่าง คือ ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต กระเป๋าสตางค์ เงินสดในสกุลต่างชาติ และเงินบาทติดกระเป๋า เมื่อตรวจเช็คแล้ว ควรวางรวมไว้ด้วยกัน ในกระเป๋าถือที่จะเอาไปด้วย
แลกเงินให้เสร็จสรรพก่อนวันเดินทาง
อย่าคาดหวังกับน้ำบ่อหน้า เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่า คิวแลกเงิน ณ สนามบินนั้นจะยาวแค่ไหน และค่าเงินจะขึ้น-ลงมากอีกเท่าใด และสำคัญที่สุด คือ หากเกิดเหตุการณ์ติดขัดใดๆ ก็ตามในช่วงเช็คอินหรือก่อนขึ้นเครื่อง คุณก็ยังอุ่นใจได้ว่า มีเงินค่าอาหารและค่ารถแน่นอน ยามไปถึงจุดหมายการเดินทาง
เผื่อเวลามาก่อนสัก 2 ชั่วโมง
เป็นหลักสากลที่พึงกระทำ สำหรับการเดินทาง คือ การมาก่อนเวลาสัก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะสนามบินนี้นั้นกว้างใหญ่มาก หากคุณดูป้ายผิด ไปผิดประตูทางออก คุณก็ยังมีเวลาเดินหาประตูที่ถูกต้อง และหากคุณเดินทางโดยใช้บริการของสนามบินดอนเมือง ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะหากคุณมีเรื่องติดขัดใดๆ คุณก็ยังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
สแกนพาสปอร์ต สนามบินกรุงเทพฯ ประเทศไทย
เช็คอินล่วงหน้า
เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิวนาน คุณสามารถเช็คอินออนไลน์ เช็คอินผ่านแอพลิเคชั่นมือถือ (Mobile Phone Application) หรือเช็คอินผ่านบูธบริการของสายการบินในห้างสรรพสินค้า ซึ่งบริการนี้ มีทั้งสายการบินชั้นนำและสายการบินต้นทุนต่ำ และหากคุณจำเป็นต้องไปเช็คอินที่สนามบิน สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนใดเลย คือ รีบไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน อย่าห่วงลาเพื่อนหรืออัพเดทสเตตัส
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเช็คอินใน 5 วิธีเช็คอินเพื่อฝ่าแถวคิวที่สนามบิน
รีบกรอกแบบฟอร์มหรือเอกสารที่จำเป็น
เมื่อได้รับเอกสารใดมา ไม่ว่าจะเป็นใบของศุลกากรหรือตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) ขอให้รีบกรอกให้เสร็จ อย่าคิดว่าเดี๋ยวค่อยทำ เพราะคุณอาจลืมและต้องมาลนลานยืนกรอก ในขณะที่ต้องวิ่งหาต่อแถวคิวที่สั้นที่สุด
สแกนพาสปอร์ตแทนเข้าคิวที่กองตรวจคนเข้าเมือง
สำหรับผู้ที่จะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวที่ต.ม.เพื่อทำยื่นหนังสือเดินทางและเอกสารสำหรับเดินทางขาออกที่เคานท์เตอร์ต.ม.อีกต่อไป เพราะใกล้ๆ กับเคานท์เตอร์ต.ม. คุณสามารถใช้เครื่องสแกนพาสปอร์ตและยื่นเอกสารดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ที่เครื่องสแกนได้ วิธีนี้เร็วกว่าการเข้าคิวติดต่อเจ้าหน้าที่ต.ม.แบบเดิมๆ ไม่แน่ ในอนาคต สนามบินนานาชาติอย่างสนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต และสนามบินเชียงใหม่อาจมีเครื่องและบริการนี้ด้วยก็ได้
ดูเวลาบอร์ดดิ้งไทม์ (Boarding Time) และเบอร์เกท-ประตูทางขึ้นเครื่องบิน (Gate/Terminal Number)
ควรตั้งเวลา ไว้ในโทรศัพท์มือถือหรือนาฬิกาข้อมือ เพื่อเตือนล่วงหน้าสัก 30 นาที ในกรณีขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ 15 นาทีในกรณีสนามบินดอนเมือง หากไปผิดประตูทางออก หรือหลงลืมอะไร ก็ยังมีเวลาไปให้ทันประตูเครื่องปิด
เตรียมกระเป๋าหรือถุงผ้าแบบพับได้ ชนิดน้ำหนักเบาติดตัวไปด้วย
ในกรณีที่คุณวางแผนจะช้อปปิ้งประมาณหนึ่งในสนามบิน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ห่วงหน้าพะวงหลัง กับข้าวของพะรุงพะรังหลายถุงที่เพิ่งซื้อ ใส่รวมกันในถุงผ้าใบนี้เลย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
เปิดห้องพักในโรงแรมที่ใกล้สนามบิน
ถ้าคุณมั่นใจว่า โอกาสตกเครื่องมีสูง เนื่องด้วยเวลาเครื่องบินออกเป็นเวลารุ่งสาง ช่วงรถติดหนัก หรือเวลาใดๆ ที่คุณไม่มั่นใจ และเป็นเที่ยวบินสำคัญมาก ขอแนะนำให้เปิดห้องพัก และนอนค้างคืนโรงแรมที่ใกล้ๆ สนามบินก่อนวันบิน เพื่อความสบายใจ
เอกสารสำคัญ 4 อย่าง คือ ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต กระเป๋าสตางค์ เงินสดในสกุลต่างชาติ และเงินบาทติดกระเป๋า เมื่อตรวจเช็คแล้ว ควรวางรวมไว้ด้วยกัน ในกระเป๋าถือที่จะเอาไปด้วย
แลกเงินให้เสร็จสรรพก่อนวันเดินทาง
อย่าคาดหวังกับน้ำบ่อหน้า เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่า คิวแลกเงิน ณ สนามบินนั้นจะยาวแค่ไหน และค่าเงินจะขึ้น-ลงมากอีกเท่าใด และสำคัญที่สุด คือ หากเกิดเหตุการณ์ติดขัดใดๆ ก็ตามในช่วงเช็คอินหรือก่อนขึ้นเครื่อง คุณก็ยังอุ่นใจได้ว่า มีเงินค่าอาหารและค่ารถแน่นอน ยามไปถึงจุดหมายการเดินทาง
เผื่อเวลามาก่อนสัก 2 ชั่วโมง
เป็นหลักสากลที่พึงกระทำ สำหรับการเดินทาง คือ การมาก่อนเวลาสัก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะสนามบินนี้นั้นกว้างใหญ่มาก หากคุณดูป้ายผิด ไปผิดประตูทางออก คุณก็ยังมีเวลาเดินหาประตูที่ถูกต้อง และหากคุณเดินทางโดยใช้บริการของสนามบินดอนเมือง ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะหากคุณมีเรื่องติดขัดใดๆ คุณก็ยังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
สแกนพาสปอร์ต สนามบินกรุงเทพฯ ประเทศไทย
เช็คอินล่วงหน้า
เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิวนาน คุณสามารถเช็คอินออนไลน์ เช็คอินผ่านแอพลิเคชั่นมือถือ (Mobile Phone Application) หรือเช็คอินผ่านบูธบริการของสายการบินในห้างสรรพสินค้า ซึ่งบริการนี้ มีทั้งสายการบินชั้นนำและสายการบินต้นทุนต่ำ และหากคุณจำเป็นต้องไปเช็คอินที่สนามบิน สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนใดเลย คือ รีบไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน อย่าห่วงลาเพื่อนหรืออัพเดทสเตตัส
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเช็คอินใน 5 วิธีเช็คอินเพื่อฝ่าแถวคิวที่สนามบิน
รีบกรอกแบบฟอร์มหรือเอกสารที่จำเป็น
เมื่อได้รับเอกสารใดมา ไม่ว่าจะเป็นใบของศุลกากรหรือตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) ขอให้รีบกรอกให้เสร็จ อย่าคิดว่าเดี๋ยวค่อยทำ เพราะคุณอาจลืมและต้องมาลนลานยืนกรอก ในขณะที่ต้องวิ่งหาต่อแถวคิวที่สั้นที่สุด
สแกนพาสปอร์ตแทนเข้าคิวที่กองตรวจคนเข้าเมือง
สำหรับผู้ที่จะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่จำเป็นต้องเข้าคิวที่ต.ม.เพื่อทำยื่นหนังสือเดินทางและเอกสารสำหรับเดินทางขาออกที่เคานท์เตอร์ต.ม.อีกต่อไป เพราะใกล้ๆ กับเคานท์เตอร์ต.ม. คุณสามารถใช้เครื่องสแกนพาสปอร์ตและยื่นเอกสารดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ที่เครื่องสแกนได้ วิธีนี้เร็วกว่าการเข้าคิวติดต่อเจ้าหน้าที่ต.ม.แบบเดิมๆ ไม่แน่ ในอนาคต สนามบินนานาชาติอย่างสนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต และสนามบินเชียงใหม่อาจมีเครื่องและบริการนี้ด้วยก็ได้
ดูเวลาบอร์ดดิ้งไทม์ (Boarding Time) และเบอร์เกท-ประตูทางขึ้นเครื่องบิน (Gate/Terminal Number)
ควรตั้งเวลา ไว้ในโทรศัพท์มือถือหรือนาฬิกาข้อมือ เพื่อเตือนล่วงหน้าสัก 30 นาที ในกรณีขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ 15 นาทีในกรณีสนามบินดอนเมือง หากไปผิดประตูทางออก หรือหลงลืมอะไร ก็ยังมีเวลาไปให้ทันประตูเครื่องปิด
เตรียมกระเป๋าหรือถุงผ้าแบบพับได้ ชนิดน้ำหนักเบาติดตัวไปด้วย
ในกรณีที่คุณวางแผนจะช้อปปิ้งประมาณหนึ่งในสนามบิน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ห่วงหน้าพะวงหลัง กับข้าวของพะรุงพะรังหลายถุงที่เพิ่งซื้อ ใส่รวมกันในถุงผ้าใบนี้เลย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
เปิดห้องพักในโรงแรมที่ใกล้สนามบิน
ถ้าคุณมั่นใจว่า โอกาสตกเครื่องมีสูง เนื่องด้วยเวลาเครื่องบินออกเป็นเวลารุ่งสาง ช่วงรถติดหนัก หรือเวลาใดๆ ที่คุณไม่มั่นใจ และเป็นเที่ยวบินสำคัญมาก ขอแนะนำให้เปิดห้องพัก และนอนค้างคืนโรงแรมที่ใกล้ๆ สนามบินก่อนวันบิน เพื่อความสบายใจ
ถนนโรดีโอ (*Rodeo Street) เขตอัปกูจองดง-กังนัม (*Apgujeong dong-Gangnam)
ถนนโรดีโอ (*Rodeo Street) เขตอัปกูจองดง-กังนัม (*Apgujeong dong-Gangnam)
ที่ตั้ง เขตอัปกูจองดง (Apgujeon-dong) กังนัม-กุ (Gangnam-gu)
ถนนเส้นนี้อยู่ไม่ไกลจากเขตเมียงดงและถึงกับได้รีวิวจากการท่องเที่ยวเกาหลีว่าเป็น “อภิหาถนนแฟชั่นหรู” (Seoul’s Luxury Fashion Macca) ของประเทศ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกและสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำของเกาหลี สนนราคาการจับจ่ายบนถนนเส้นนี้ไม่ถูก แต่ก็ถือว่าล้ำ นำสมัยและหรูหรา ไม่แพ้การไปช้อปปิ้งในเมืองใหญ่ในแถบยุโรปหรืออเมริกาเลยทีเดียว
ที่ตั้ง เขตอัปกูจองดง (Apgujeon-dong) กังนัม-กุ (Gangnam-gu)
ถนนเส้นนี้อยู่ไม่ไกลจากเขตเมียงดงและถึงกับได้รีวิวจากการท่องเที่ยวเกาหลีว่าเป็น “อภิหาถนนแฟชั่นหรู” (Seoul’s Luxury Fashion Macca) ของประเทศ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกและสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำของเกาหลี สนนราคาการจับจ่ายบนถนนเส้นนี้ไม่ถูก แต่ก็ถือว่าล้ำ นำสมัยและหรูหรา ไม่แพ้การไปช้อปปิ้งในเมืองใหญ่ในแถบยุโรปหรืออเมริกาเลยทีเดียว
สวนสนุกล็อตเต้ เวิลด์ (Lotte World)
สวนสนุกล็อตเต้ เวิลด์ (Lotte World) ที่ตั้ง 240 โอลิมปิก-โร (Olympic-ro) ซงปา-กุ (Songpa-gu)
เป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีส่วนของสวนสนุกกลางแจ้งที่เรียกกันว่า “เกาะมายากล” (Magic Island) ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยสารพัดเครื่องเล่นด้วยตีมของสวนสนุกในจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นหอคอย เรือไวกิ้ง รถรางไฟฟ้า ม้าหมุน สนามเด็กเล่นในเทพนิยาย รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ นอกจากนั้นในตัวอาคารเดียวกันของสวนสนุกก็ยังมีส่วนของโรงแรม โรงหนัง ร้านค้า และร้านขายอาหารมากมาย
เป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีส่วนของสวนสนุกกลางแจ้งที่เรียกกันว่า “เกาะมายากล” (Magic Island) ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยสารพัดเครื่องเล่นด้วยตีมของสวนสนุกในจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นหอคอย เรือไวกิ้ง รถรางไฟฟ้า ม้าหมุน สนามเด็กเล่นในเทพนิยาย รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ นอกจากนั้นในตัวอาคารเดียวกันของสวนสนุกก็ยังมีส่วนของโรงแรม โรงหนัง ร้านค้า และร้านขายอาหารมากมาย
ตลาดนัมเดมุน (Namdaemun Market)
ตลาดนัมเดมุน (Namdaemun Market) ที่ตั้ง 21 นัมเดมุนซิจัง (Namdaemunsijang) 4-กิล (4-gil) จัง-กุ (Jung-gu)
เป็นตลาดขายส่งขนาดใหญ่คล้ายๆ สำเพ็งบ้านเรา เป็นแหล่งค้าส่งของประเทศที่มีร้านค้าสารพัดประเภทกว่าพันร้าน และหากคุณเป็นนักต่อสินค้าตัวยง ขอให้รู้กันไว้ก่อนว่าตลาดค้าส่งแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า “เป็นแหล่งปราบเซียนนักต่อรองสินค้าระดับพระกาฬ”
เป็นตลาดขายส่งขนาดใหญ่คล้ายๆ สำเพ็งบ้านเรา เป็นแหล่งค้าส่งของประเทศที่มีร้านค้าสารพัดประเภทกว่าพันร้าน และหากคุณเป็นนักต่อสินค้าตัวยง ขอให้รู้กันไว้ก่อนว่าตลาดค้าส่งแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า “เป็นแหล่งปราบเซียนนักต่อรองสินค้าระดับพระกาฬ”
เขตเมียงดง (Myeong dong)
เขตเมียงดง (Myeong dong) ที่ตั้ง จัง-กุ (Jung-gu)
สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีอันดับต้นๆ หลักที่นักช้อปฯ ห้ามพลาด คนไทยมักเรียกกันติดปากว่า “ตลาดเมียงดง” เพราะเป็นแหล่งร้านค้าชั้นนำของกรุงโซล ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ และร้านค้าแผงลอยรายรอบ เน้นขายสินค้าแบรนด์เนมในประเทศเป็นหลัก ถือว่าเป็นถนนแฟชั่นของเกาหลี และยังอุดมไปด้วยร้านอาหาร ร้านคาเฟ่มากมาย ตลาดเมียงดงแห่งนี้เป็นที่นิยมถึงขั้นมีการทำสถิติขึ้นมาว่า ทุกๆ วันจะมีนักช้อปปิ้งมาแวะเวียนมากว่า 1 ล้านคน
สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีอันดับต้นๆ หลักที่นักช้อปฯ ห้ามพลาด คนไทยมักเรียกกันติดปากว่า “ตลาดเมียงดง” เพราะเป็นแหล่งร้านค้าชั้นนำของกรุงโซล ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ และร้านค้าแผงลอยรายรอบ เน้นขายสินค้าแบรนด์เนมในประเทศเป็นหลัก ถือว่าเป็นถนนแฟชั่นของเกาหลี และยังอุดมไปด้วยร้านอาหาร ร้านคาเฟ่มากมาย ตลาดเมียงดงแห่งนี้เป็นที่นิยมถึงขั้นมีการทำสถิติขึ้นมาว่า ทุกๆ วันจะมีนักช้อปปิ้งมาแวะเวียนมากว่า 1 ล้านคน
ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)
ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District) ที่ตั้ง จงโน-กุ (Jongno-gu)
แหล่งขายของเก่าขึ้นชื่อและที่เที่ยวโซลยอดฮิตอีกแห่ง เป็นถนนแอนติค (Antique) ที่มีทั้งร้านรวงแบบเดิม เช่น โรงน้ำชา ร้านอาหาร และร้านขายของ โดยอาคารในแถบนี้ยังมีการตกแต่งและอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบเกาหลีโบราณ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟ ร้านขนม แกลอรี่แบบร่วมสมัยหลายแห่งอีกด้วย จัดว่าเป็นแหล่งฮิปสเตอร์ของเมืองที่คนรักศิลปะและคนรักของเก่าไม่ควรพลาด
แหล่งขายของเก่าขึ้นชื่อและที่เที่ยวโซลยอดฮิตอีกแห่ง เป็นถนนแอนติค (Antique) ที่มีทั้งร้านรวงแบบเดิม เช่น โรงน้ำชา ร้านอาหาร และร้านขายของ โดยอาคารในแถบนี้ยังมีการตกแต่งและอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบเกาหลีโบราณ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟ ร้านขนม แกลอรี่แบบร่วมสมัยหลายแห่งอีกด้วย จัดว่าเป็นแหล่งฮิปสเตอร์ของเมืองที่คนรักศิลปะและคนรักของเก่าไม่ควรพลาด
หมู่บ้านบุกชอนฮานก (Bukchon Hanok Village)
หมู่บ้านบุกชอนฮานก (Bukchon Hanok Village) ที่ตั้ง กยี-ดอง (Gye-dong) จงโน-กุ (Jongno-gu)
หมู่บ้านเกาหลีโบราณอันโด่งดังในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นที่อยู่ของขุนนางเก่าระดับสูง ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางดกกุง (Changdeokgung Palace) สภาพอาคารบ้านเรือนยังคงเป็นแบบเก่าที่อนุรักษ์ไว้ ในละแวกใกล้ๆ กันนั้นมีพิพิธภัณฑ์งานศิลปะของไก่แห่งกรุงโซล (Soul Museum of Chicken Art)
หมู่บ้านเกาหลีโบราณอันโด่งดังในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นที่อยู่ของขุนนางเก่าระดับสูง ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางดกกุง (Changdeokgung Palace) สภาพอาคารบ้านเรือนยังคงเป็นแบบเก่าที่อนุรักษ์ไว้ ในละแวกใกล้ๆ กันนั้นมีพิพิธภัณฑ์งานศิลปะของไก่แห่งกรุงโซล (Soul Museum of Chicken Art)
โซล (Seoul) เป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้
โซล (Seoul) เป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย มีทั้งตลาดค้าส่ง แหล่งสินค้าแบรนด์เนมและแหล่งแฟชั่นสไตล์เกาหลีที่เป็นที่นิยมของแฟชั่นนิสต้าเมืองไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นโซลยังมีที่เที่ยวแนวฮิป ถนนศิลปะและวัฒนธรรม สถานที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์ สวนสนุกและแหล่งอาหารชั้นเลิศมากมาย อีกทั้งยังเป็นที่เที่ยวชมดอกไม้บานฤดูใบไม้ผลิ ที่ชมใบไม้แดง และที่เล่นหิมะยอดนิยม ภาษาที่ใช้ในโซล คือ ภาษาเกาหลี และหน่วยเงินที่ใช้ คือ เงินวอนเกาหลีใต้ (Won or KRW)
ฤดูกาลและสภาพอากาศ โซลมี 4 ฤดู โดยฤดูใบไม้ผลิ (ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) เป็นช่วงชมดอกไม้บาน ฤดูร้อน (ระหว่างปลายเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน) ก็จะเป็นช่วงที่มีเทศกาลหน้าร้อนหลายงาน อีกทั้งยังเป็นช่วงลดราคาสินค้ากลางปีอีกด้วย ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน) จะเป็นช่วงชมใบไม้แดง และฤดูหนาว (ระหว่างเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์) ก็เป็นช่วงเล่นสกี เล่นหิมะ และงานปีใหม่ แต่ทั้งนี้โซลก็สามารถเที่ยวได้ตลอด เพราะนอกจากจะมาชมธรรมชาติสวยงามในแต่ละช่วงของปีแล้ว โซลยังมีแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำระดับโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และยังมีสวนสนุกอันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคุณหนูๆ อีกด้วย เรียกได้ว่ามาเที่ยวโซลกันได้ทั้งครอบครัวในทุกฤดูกาลเลยทีเดียว
การเดินทางไปโซล มีบริการเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินต่อไปยังโซลหลายเที่ยวบินต่อวันจากหลายสายการบิน ชั่วโมงบินตรงโดยประมาณอยู่ที่ราว 5 ชั่วโมงเศษๆ
การเดินทางในโซล การเดินทางภายในโซลและเมืองใกล้เคียงค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีบริการทั้งรถโดยสารประจำทางตมโซนต่างๆ รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (MRT) รถไฟใต้ดิน (Subway) รถแท็กซี่ และรถไฟด่วนหัวจรวดแบบข้ามเมือง หรือถ้าคุณคิดจะเช่ารถขับก็สามารถทำได้ ทั้งนี้การเช่ารถขับเหมาะแก่การไปเที่ยวรอบนอกเมืองหรือขับไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ เพราะในโซลหาที่จอดรถยากและการจราจรค่อนข้างหนาแน่น
โรงแรมและที่พักในโซล ที่พักในโซลมีให้เลือกมากมายและหลายรูปแบบตั้งแต่โรมแรม 5 ดาว อพาร์ทเมนต์ เกสต์เฮ้าส์ ไปจนถึงที่พักราคาประหยัด ซึ่งที่พักส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ทั่วไปในตัวเมืองและบริเวณแหล่งท่องเที่ยว
ฤดูกาลและสภาพอากาศ โซลมี 4 ฤดู โดยฤดูใบไม้ผลิ (ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) เป็นช่วงชมดอกไม้บาน ฤดูร้อน (ระหว่างปลายเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน) ก็จะเป็นช่วงที่มีเทศกาลหน้าร้อนหลายงาน อีกทั้งยังเป็นช่วงลดราคาสินค้ากลางปีอีกด้วย ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน) จะเป็นช่วงชมใบไม้แดง และฤดูหนาว (ระหว่างเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์) ก็เป็นช่วงเล่นสกี เล่นหิมะ และงานปีใหม่ แต่ทั้งนี้โซลก็สามารถเที่ยวได้ตลอด เพราะนอกจากจะมาชมธรรมชาติสวยงามในแต่ละช่วงของปีแล้ว โซลยังมีแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำระดับโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และยังมีสวนสนุกอันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคุณหนูๆ อีกด้วย เรียกได้ว่ามาเที่ยวโซลกันได้ทั้งครอบครัวในทุกฤดูกาลเลยทีเดียว
การเดินทางไปโซล มีบริการเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินต่อไปยังโซลหลายเที่ยวบินต่อวันจากหลายสายการบิน ชั่วโมงบินตรงโดยประมาณอยู่ที่ราว 5 ชั่วโมงเศษๆ
การเดินทางในโซล การเดินทางภายในโซลและเมืองใกล้เคียงค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีบริการทั้งรถโดยสารประจำทางตมโซนต่างๆ รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (MRT) รถไฟใต้ดิน (Subway) รถแท็กซี่ และรถไฟด่วนหัวจรวดแบบข้ามเมือง หรือถ้าคุณคิดจะเช่ารถขับก็สามารถทำได้ ทั้งนี้การเช่ารถขับเหมาะแก่การไปเที่ยวรอบนอกเมืองหรือขับไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ เพราะในโซลหาที่จอดรถยากและการจราจรค่อนข้างหนาแน่น
โรงแรมและที่พักในโซล ที่พักในโซลมีให้เลือกมากมายและหลายรูปแบบตั้งแต่โรมแรม 5 ดาว อพาร์ทเมนต์ เกสต์เฮ้าส์ ไปจนถึงที่พักราคาประหยัด ซึ่งที่พักส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ทั่วไปในตัวเมืองและบริเวณแหล่งท่องเที่ยว
ตลาดดงแดมุน (Dongdaemun Market) กรุงโซล เกาหลีใต้
ตลาดดงแดมุน (Dongdaemun Market) กรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ตั้ง 266 จอง-โร (Jong-ro) จงโน-กุ (Jongno-gu)
ตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซล พื้นที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยตึกและศูนย์การค้าหลายแห่ง จำหน่ายสินค้าหลากหลายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องหนัง เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และของกินของที่ระลึก ซึ่งเรียกได้ว่าขายแทบจะครบทุกอย่างเลยจริงๆ ตลาดดงแดมุนจึงนับเป็นสวรรค์ของหนุ่มสาวที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งหาสินค้าราคาถูก ต่อราคาได้ จึงเป็นหนึ่งในแหล่งช็อปปิ้งกรุงโซลที่วัยรุ่นเกาหลีชอบมาพบปะและเดินเที่ยวกันในยามค่ำคืน
ตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโซล พื้นที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยตึกและศูนย์การค้าหลายแห่ง จำหน่ายสินค้าหลากหลายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องหนัง เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และของกินของที่ระลึก ซึ่งเรียกได้ว่าขายแทบจะครบทุกอย่างเลยจริงๆ ตลาดดงแดมุนจึงนับเป็นสวรรค์ของหนุ่มสาวที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งหาสินค้าราคาถูก ต่อราคาได้ จึงเป็นหนึ่งในแหล่งช็อปปิ้งกรุงโซลที่วัยรุ่นเกาหลีชอบมาพบปะและเดินเที่ยวกันในยามค่ำคืน
หอคอยกรุงโซล (N Seoul Tower) กรุงโซล เกาหลีใต้
หอคอยกรุงโซล (N Seoul Tower) กรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ตั้ง 105 นัมซังกงวอน-กิล (Namsangongwon-gil) ยงซัง-กุ (Yongsan-gu)
หรือนัมซันทาวเวอร์ บ้างก็เรียกว่าเอ็นโซลทาวเวอร์ แต่ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไร หอคอยก็เป็นจุดชมวิวหลักและเป็น 1 ใน 18 หอคอยสูงที่สุดของโลก หอคอยสูงเกือบ 240 เมตรแห่งนี้ก็ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสถานที่เที่ยวในโซลยุคใหม่ที่หนุ่มสาวทุกคู่ที่มาเที่ยวต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะกิจกรรมยอดนิยมจนเสมือนจะเป็นประเพณีของคู่รักที่มาเยือนหอคอยแห่งนี้ คือ “การคล้องกุญแจแห่งรัก” ที่มีชื่อเสียงพอๆ กับสะพานข้ามแม่น้ำแซนของปารีสเลยทีเดียว
โดยคู่รักทั้งสองจะเขียนชื่อของตนไว้บนแม่กุญแจและทำการล็อคไว้กับรั้วเหล็ก แล้วทิ้งลูกกุญแจไปซะ โดยมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ทั้งคู่ไม่พรากจากกัน นอกจากไฮไลท์เรื่องความรักแล้ว หอคอยแห่งกรุงโซลนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หมีน้อยเท็ดดี้ (Teddy Bear Museum) โดยมีการจัดโชว์ตุ๊กตาหมีจากทั่วโลก และมีการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเกาหลีผ่านตุ๊กตาหมีในชุดเสื้อผ้าและเครื่องแบบต่างๆ
หรือนัมซันทาวเวอร์ บ้างก็เรียกว่าเอ็นโซลทาวเวอร์ แต่ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไร หอคอยก็เป็นจุดชมวิวหลักและเป็น 1 ใน 18 หอคอยสูงที่สุดของโลก หอคอยสูงเกือบ 240 เมตรแห่งนี้ก็ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสถานที่เที่ยวในโซลยุคใหม่ที่หนุ่มสาวทุกคู่ที่มาเที่ยวต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะกิจกรรมยอดนิยมจนเสมือนจะเป็นประเพณีของคู่รักที่มาเยือนหอคอยแห่งนี้ คือ “การคล้องกุญแจแห่งรัก” ที่มีชื่อเสียงพอๆ กับสะพานข้ามแม่น้ำแซนของปารีสเลยทีเดียว
โดยคู่รักทั้งสองจะเขียนชื่อของตนไว้บนแม่กุญแจและทำการล็อคไว้กับรั้วเหล็ก แล้วทิ้งลูกกุญแจไปซะ โดยมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ทั้งคู่ไม่พรากจากกัน นอกจากไฮไลท์เรื่องความรักแล้ว หอคอยแห่งกรุงโซลนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หมีน้อยเท็ดดี้ (Teddy Bear Museum) โดยมีการจัดโชว์ตุ๊กตาหมีจากทั่วโลก และมีการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเกาหลีผ่านตุ๊กตาหมีในชุดเสื้อผ้าและเครื่องแบบต่างๆ
วัดโชเกซา (Jogyesa Temple) กรุงโซล เกาหลีใต้
วัดโชเกซา (Jogyesa Temple) กรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ตั้ง 55 อุเจียงกุก-โร (Ujeongguk-ro) จงโน-กุ (Jongno-gu)
เป็นวัดใหญ่แห่งเดียวในใจกลางเมืองหลวง สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1910 และเป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโซเกซึ่งเป็นนิกายที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี นอกจากนี้ภายในวัดยังมีต้นสนโบราณจากเมืองจีนอายุกว่า 500 ปีอีกด้วย
ณ ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวายและเต็มไปด้วยแสงสีในกรุงโซล ก็มีวัดโชเกซานี่แหละที่มีแต่ความเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายนี้ โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในฐานะวัดเก่าแก่ของโซล ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ที่มีรูปลักษณ์งดงามตามแบบฉบับของเอเชียตะวันออก ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายโชเกของเกาหลี นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินเที่ยวชมต้นไม้สนโบราณอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี และเจดีย์ 7 ชั้นที่แกะสลักจากหินอย่างประณีตสวยงาม
เป็นวัดใหญ่แห่งเดียวในใจกลางเมืองหลวง สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1910 และเป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโซเกซึ่งเป็นนิกายที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี นอกจากนี้ภายในวัดยังมีต้นสนโบราณจากเมืองจีนอายุกว่า 500 ปีอีกด้วย
ณ ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวายและเต็มไปด้วยแสงสีในกรุงโซล ก็มีวัดโชเกซานี่แหละที่มีแต่ความเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายนี้ โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในฐานะวัดเก่าแก่ของโซล ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ที่มีรูปลักษณ์งดงามตามแบบฉบับของเอเชียตะวันออก ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายโชเกของเกาหลี นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินเที่ยวชมต้นไม้สนโบราณอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี และเจดีย์ 7 ชั้นที่แกะสลักจากหินอย่างประณีตสวยงาม
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) กรุงโซล เกาหลีใต้
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) กรุงโซล เกาหลีใต้ ที่ตั้ง 161 ซาจิก-โร (Sajik-ro) จงโน-กุ (Jongno-gu)
หรืออ่านออกเสียงว่าพระราชวังคย็องบก เป็นหนึ่งใน 5 พระราชวังเก่าแก่ของเกาหลีตั้งแต่ราชวงศ์โชซอน ซึ่งนับเป็นพระราชวังที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของเกาหลีใต้
เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในสมัยโบราณมีอายุกว่า 600 ปี ถือเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกาหลี เพราะในเขตพระราชวังนั้น ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน อีกทั้งในละแวกเดียวกันก็ยังเป็นที่ตั้งของทำเนียบและบ้านพักของประธานาธิบดีเกาหลีด้วย
มีประตูทางเข้าถึง 6 ประตู ภายในประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ถึง 10 ตำหนัก โดยพระราชวังแห่งนี้เคยถูกเผาทำลายจนเสียหายอย่างหนักในสมัยสงครามญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันก็ถูกบูรณะซ่อมแซมจนมีสภาพสวยงามตามต้นฉบับเดิม หากใครไม่มาพระราชวังแห่งนี้ก็ถือว่ามาเที่ยวไม่ถึงโซลเลยนะ!
หรืออ่านออกเสียงว่าพระราชวังคย็องบก เป็นหนึ่งใน 5 พระราชวังเก่าแก่ของเกาหลีตั้งแต่ราชวงศ์โชซอน ซึ่งนับเป็นพระราชวังที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของเกาหลีใต้
เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในสมัยโบราณมีอายุกว่า 600 ปี ถือเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกาหลี เพราะในเขตพระราชวังนั้น ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน อีกทั้งในละแวกเดียวกันก็ยังเป็นที่ตั้งของทำเนียบและบ้านพักของประธานาธิบดีเกาหลีด้วย
มีประตูทางเข้าถึง 6 ประตู ภายในประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ถึง 10 ตำหนัก โดยพระราชวังแห่งนี้เคยถูกเผาทำลายจนเสียหายอย่างหนักในสมัยสงครามญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันก็ถูกบูรณะซ่อมแซมจนมีสภาพสวยงามตามต้นฉบับเดิม หากใครไม่มาพระราชวังแห่งนี้ก็ถือว่ามาเที่ยวไม่ถึงโซลเลยนะ!
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก กรุงโซล เกาหลีใต้
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) กรุงโซล เกาหลีใต้
สูดกลิ่นอายของวัฒนธรรมเกาหลีโบราณให้เต็มปอด! เพราะที่นี่คือหนึ่งในหมู่บ้านโบราณที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานของเมืองโซลของเกาหลีและราชวงศ์โชซอนที่มีอายุมานานกว่า 600 ปี ตั้งอยู่บนทำเลน่าเที่ยวระหว่างพระราชวังเคียงบกกุงและพระราชวังชางดกกุง ซึ่งบ้านเรือนของที่นี่ถูกอนุรักษ์ไว้แบบดั้งเดิมกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร นั่งจิบชา และเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีได้แบบเต็มร้อย
สูดกลิ่นอายของวัฒนธรรมเกาหลีโบราณให้เต็มปอด! เพราะที่นี่คือหนึ่งในหมู่บ้านโบราณที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานของเมืองโซลของเกาหลีและราชวงศ์โชซอนที่มีอายุมานานกว่า 600 ปี ตั้งอยู่บนทำเลน่าเที่ยวระหว่างพระราชวังเคียงบกกุงและพระราชวังชางดกกุง ซึ่งบ้านเรือนของที่นี่ถูกอนุรักษ์ไว้แบบดั้งเดิมกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร นั่งจิบชา และเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีได้แบบเต็มร้อย
ตำนานแห่งสัตว์ประหลาด
ตำนานแห่งสัตว์ประหลาด
• ตำนานแห่งสัตว์ประหลาดแห่งคานาสือ เล่ากันว่า....ภายในทะเลสาปนี้มีสัตว์ประหลาดตัวสีแดงอาศัยอยู่
• เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ได้มีคณะสำรวจเข้าไปทำการสำรวจทะเลสาบแห่งนี้เป็นเวลาสองเดือน นักสำรวจกลุ่มนี้พบโครงกระดูกขนาดสมบูรณ์ของม้า วัว แพะ และแกะจำนวนมากจมอยู่ในทะเลสาป ทำให้นักสำรวจรวมถึงชาวบ้านต่างก็กล่าวขวัญกันไปต่างๆ นานาว่า ระหว่างที่สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านเหล่านี้เล็มหญ้าอยู่บริเวณริมทะเลสาบคงถูกสัตว์ประหลาดลากลงน้ำเอาไปกินทั้งตัว ดังนั้นคณะสำรวจจึงพิสูจน์ว่าสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสในตำนานนั้นมีจริงหรือไม่ ด้วยการวางแหจับปลาขนาดใหญ่ยาวกว่า 600 เมตร ขึงไว้ในบริเวณที่พบกระดูกสัตว์จำนวนมาก โดยหวังว่าเจ้าสัตว์ประหลาดจะว่ายน้ำมาติดกับ สุดท้ายการจับตัวประหลาดก้อต้องล้มเหลว เพราะในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นแหขนาดใหญ่ที่วางเอาไว้กลับหายไปหมด และอีกหลายวันต่อมากลับมีคนไปพบแหชุดเดียวกันนั้นลอยไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร
• วันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2546 ขณะที่พื้นที่แถบคานาสเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ชาวบ้านทั้งหลายก็ยังได้ยินเสียงดังกังวาน คล้ายกับเป็นเสียงร้องของสัตว์ก้องไปทั่วบริเวณอีกด้วย ด้วยคำร่ำลือทั้งหลายแหล่นี้นี่เองที่ทำให้ ชาวบ้านต่างไม่กล้าที่จะนำ ม้า วัว แกะ หรือแพะไปหากินหญ้าบริเวณริมทะเลสาบคานาสอีกจนกระทั่งทุกวันนี้
• อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายกลุ่มเข้าไปสำรวจทะเลสาบแล้ว ก็ปรากฎข้อโต้เถียงมาว่า แท้จริงแล้วสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสที่ชาวบ้านร่ำลือกันในตำนานนั้นน่าจะเป็น เจ้าปลาแดงยักษ์ ที่รู้จักกันในนาม Giant Taimen มากกว่า โดยเจ้าปลา Giant Taimen นี้มีชื่อเล่นว่าปลาปีศาจ เนื่องจากเป็นปลาน้ำจืดที่ตัวใหญ่มากคือ ปลาชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่แล้วอาจมีความยาวจากหัวจรดหางถึงราว 10-15 เมตร และมีอาจมีน้ำหนักมากถึงราว 4 ตัน แต่เจ้าปลาแดงยักษ์ใหญ่ หนักเป็นตันๆ ที่กล่าวอ้างกันนี้ก็ยังไม่เคยมีใครจับได้เสียที เพียงแต่มีคนยืนยันว่าเห็นพวกมันว่ายกันอยู่เป็นกลุ่มในทะเลสาบคานาสเท่านั้น
• มันก็แปลกที่นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่ก็มองหาเจ้าสัตว์ประหลาดในตำนาน "เผื่อฟลุ๊กเจอว่างั้นเถอะ" ผมเองชื่นชมกับธรรมชาติ ก็คงต้องบอกว่าสวยมากมากๆ ใครจะคิดว่าที่นี่คือเมืองจีน....
• จบรายการภาคเช้า ก็มาต่อกันด้วยภาคบ่าย นั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ในทะเลสาบคานาสือและตามหาสัตว์ประหลาดในตำนานกันอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับเมืองเบอร์จิ้น...
• ตำนานแห่งสัตว์ประหลาดแห่งคานาสือ เล่ากันว่า....ภายในทะเลสาปนี้มีสัตว์ประหลาดตัวสีแดงอาศัยอยู่
• เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ได้มีคณะสำรวจเข้าไปทำการสำรวจทะเลสาบแห่งนี้เป็นเวลาสองเดือน นักสำรวจกลุ่มนี้พบโครงกระดูกขนาดสมบูรณ์ของม้า วัว แพะ และแกะจำนวนมากจมอยู่ในทะเลสาป ทำให้นักสำรวจรวมถึงชาวบ้านต่างก็กล่าวขวัญกันไปต่างๆ นานาว่า ระหว่างที่สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านเหล่านี้เล็มหญ้าอยู่บริเวณริมทะเลสาบคงถูกสัตว์ประหลาดลากลงน้ำเอาไปกินทั้งตัว ดังนั้นคณะสำรวจจึงพิสูจน์ว่าสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสในตำนานนั้นมีจริงหรือไม่ ด้วยการวางแหจับปลาขนาดใหญ่ยาวกว่า 600 เมตร ขึงไว้ในบริเวณที่พบกระดูกสัตว์จำนวนมาก โดยหวังว่าเจ้าสัตว์ประหลาดจะว่ายน้ำมาติดกับ สุดท้ายการจับตัวประหลาดก้อต้องล้มเหลว เพราะในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นแหขนาดใหญ่ที่วางเอาไว้กลับหายไปหมด และอีกหลายวันต่อมากลับมีคนไปพบแหชุดเดียวกันนั้นลอยไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร
• วันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2546 ขณะที่พื้นที่แถบคานาสเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ชาวบ้านทั้งหลายก็ยังได้ยินเสียงดังกังวาน คล้ายกับเป็นเสียงร้องของสัตว์ก้องไปทั่วบริเวณอีกด้วย ด้วยคำร่ำลือทั้งหลายแหล่นี้นี่เองที่ทำให้ ชาวบ้านต่างไม่กล้าที่จะนำ ม้า วัว แกะ หรือแพะไปหากินหญ้าบริเวณริมทะเลสาบคานาสอีกจนกระทั่งทุกวันนี้
• อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายกลุ่มเข้าไปสำรวจทะเลสาบแล้ว ก็ปรากฎข้อโต้เถียงมาว่า แท้จริงแล้วสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสที่ชาวบ้านร่ำลือกันในตำนานนั้นน่าจะเป็น เจ้าปลาแดงยักษ์ ที่รู้จักกันในนาม Giant Taimen มากกว่า โดยเจ้าปลา Giant Taimen นี้มีชื่อเล่นว่าปลาปีศาจ เนื่องจากเป็นปลาน้ำจืดที่ตัวใหญ่มากคือ ปลาชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่แล้วอาจมีความยาวจากหัวจรดหางถึงราว 10-15 เมตร และมีอาจมีน้ำหนักมากถึงราว 4 ตัน แต่เจ้าปลาแดงยักษ์ใหญ่ หนักเป็นตันๆ ที่กล่าวอ้างกันนี้ก็ยังไม่เคยมีใครจับได้เสียที เพียงแต่มีคนยืนยันว่าเห็นพวกมันว่ายกันอยู่เป็นกลุ่มในทะเลสาบคานาสเท่านั้น
• มันก็แปลกที่นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่ก็มองหาเจ้าสัตว์ประหลาดในตำนาน "เผื่อฟลุ๊กเจอว่างั้นเถอะ" ผมเองชื่นชมกับธรรมชาติ ก็คงต้องบอกว่าสวยมากมากๆ ใครจะคิดว่าที่นี่คือเมืองจีน....
• จบรายการภาคเช้า ก็มาต่อกันด้วยภาคบ่าย นั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ในทะเลสาบคานาสือและตามหาสัตว์ประหลาดในตำนานกันอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับเมืองเบอร์จิ้น...
คานาสือ
คานาสือ อุทยานคานาส
• คานาสือ หรืออุทยานคานาส เขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งผมเองได้มาในช่วงเดือนปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศจีน แต่บนยอดเขาของแนวเทือกเขาอัลไตที่คานาสือ ก็ยังปกคลุมไปด้วยหิมะ... อากาศเย็นสบายดี สำหรับการมาเที่ยวอุทยานคานาสือ ซึ่งเปิดให้เที่ยวได้ปีละ 6 เดือนคือ เดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม ความสวยงามของที่นี่ ใครจะคิดว่านี่หรือคือแผ่นดินจีน..? ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า ผืนป่า ภูเขาหิมะ ทะเลทรายและใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในแต่ละเดือนก็มีความสวยงามแตกต่างกัน
• เที่ยวอุทยานคานาสือเดือนไหนดี...???
• เดือนพฤษภาคม ช่วงต้นฤดูร้อน มาดูภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้าและผืนป่าสีเขียว
• เดือนมิถุนายน - กรกฏาคม เป็นช่วงฤดูร้อน มาเที่ยวดูทุ่งดอกไม้ป่าบาน
• เดือนสิงหาคม - กลางเดือนกันยายน เป็นช่วงฤดูร้อน มาเที่ยวดูธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ วิวทิวทัศน์และผืนป่าสีเขียว
• กลางเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคม ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผืนป่าเปลี่ยนสีและยอดเขาเปลี่ยนสีครับ แต่ก็เป็นช่วงที่ค่าทัวร์แพงที่สุด ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักก็ขึ้นราคาเพราะคนจีนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด
• ผมเดินทางมาถึงอุทยานคานาสก็ตอนเย็น บริเวณใกล้ๆโรงแรมก็มีร้านอาหาร มีร้านเบียร์ อาหารที่ขึ้นชื่อที่นี่ก็เป็นแพะเสียไม้ย่างแล้วโรยด้วยสมุนไพร เป็นแพะก้นใหญ่ที่เลี้ยงบนภูเขา และยังมีชนเผ่าอาซาเค่อร์ซึ่งเป็นชนเผ่าเลี้ยงม้ากลางทุ่งหญ้าก็มาปักหลักบริการให้นักท่องเที่ยวขี่ม้า ราคาก็ไม่แพงครับ หรือจะแวะไปดื่มชาในกระโจมกับพวกเขาก็ได้
• ช่วงฤดูร้อนของเดือนมิถุนายน ที่นี่สว่างเร็วมาก ตี 5 ก็สว่างแล้วและกว่าจะมืดก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม ใครที่ไม่ชอบนอนตอนที่ยังไม่มืดก็ไปนั่งดื่มกินแพะย่างก็เพลินดี
• เช้าวันใหม่...เที่ยวคานาสือ
• ผมออกเดินทางพร้อมกับคณะกรุ๊ป ต้องไปเปลี่ยนรถเป็นรถอุทยานฯ ภายในรถก็มีกรุ๊ปทัวร์จากฮ่องกงมาร่วมแจมกันด้วย หลังจากรถออกเดินทางไปสัก 30 นาที เราก็มาแวะถ่ายรูปกับ ทะเลสาบมังกรหลับ หรือ ทะเลสาบไดโนเสาร์ ่ผมดูยังไงก็ไม่เป็นทะเลสาบเพราะแค่เป็นคุ้งน้ำและดินดอนที่เกิดกลางโค้งน้ำเป็นรูปไดโนเสาร์ จากนั้นก็เดินทางสู่จุดที่สอง เย้เลี่ยงวาน หรือ ทะเลสาบวงพระจันทร์ ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นทะเลสาบที่มีรอยเท้าของเจงกิสข่าน สำหรับผมก็เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปของวิวสวยๆมากกว่าที่ฟังตำนานรอยเท้า และจุดที่สามเป็นลานน้ำกว้างๆเป็นที่มาของชื่อ ทะเลสาบเทวดา ซึ่งทั้ง 3 ทะเลสาบนี้ก็เป็นลำน้ำสายเดียวกัน จากนั้นก็เดินทางไปชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบคานาสือที่ จุดชมวิวคานาสือ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่ ศาลาชมปลา
• คานาสือ หรืออุทยานคานาส เขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งผมเองได้มาในช่วงเดือนปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศจีน แต่บนยอดเขาของแนวเทือกเขาอัลไตที่คานาสือ ก็ยังปกคลุมไปด้วยหิมะ... อากาศเย็นสบายดี สำหรับการมาเที่ยวอุทยานคานาสือ ซึ่งเปิดให้เที่ยวได้ปีละ 6 เดือนคือ เดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม ความสวยงามของที่นี่ ใครจะคิดว่านี่หรือคือแผ่นดินจีน..? ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้า ผืนป่า ภูเขาหิมะ ทะเลทรายและใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งในแต่ละเดือนก็มีความสวยงามแตกต่างกัน
• เที่ยวอุทยานคานาสือเดือนไหนดี...???
• เดือนพฤษภาคม ช่วงต้นฤดูร้อน มาดูภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้าและผืนป่าสีเขียว
• เดือนมิถุนายน - กรกฏาคม เป็นช่วงฤดูร้อน มาเที่ยวดูทุ่งดอกไม้ป่าบาน
• เดือนสิงหาคม - กลางเดือนกันยายน เป็นช่วงฤดูร้อน มาเที่ยวดูธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ วิวทิวทัศน์และผืนป่าสีเขียว
• กลางเดือนกันยายน - ต้นเดือนตุลาคม ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผืนป่าเปลี่ยนสีและยอดเขาเปลี่ยนสีครับ แต่ก็เป็นช่วงที่ค่าทัวร์แพงที่สุด ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักก็ขึ้นราคาเพราะคนจีนนิยมมาเที่ยวมากที่สุด
• ผมเดินทางมาถึงอุทยานคานาสก็ตอนเย็น บริเวณใกล้ๆโรงแรมก็มีร้านอาหาร มีร้านเบียร์ อาหารที่ขึ้นชื่อที่นี่ก็เป็นแพะเสียไม้ย่างแล้วโรยด้วยสมุนไพร เป็นแพะก้นใหญ่ที่เลี้ยงบนภูเขา และยังมีชนเผ่าอาซาเค่อร์ซึ่งเป็นชนเผ่าเลี้ยงม้ากลางทุ่งหญ้าก็มาปักหลักบริการให้นักท่องเที่ยวขี่ม้า ราคาก็ไม่แพงครับ หรือจะแวะไปดื่มชาในกระโจมกับพวกเขาก็ได้
• ช่วงฤดูร้อนของเดือนมิถุนายน ที่นี่สว่างเร็วมาก ตี 5 ก็สว่างแล้วและกว่าจะมืดก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม ใครที่ไม่ชอบนอนตอนที่ยังไม่มืดก็ไปนั่งดื่มกินแพะย่างก็เพลินดี
• เช้าวันใหม่...เที่ยวคานาสือ
• ผมออกเดินทางพร้อมกับคณะกรุ๊ป ต้องไปเปลี่ยนรถเป็นรถอุทยานฯ ภายในรถก็มีกรุ๊ปทัวร์จากฮ่องกงมาร่วมแจมกันด้วย หลังจากรถออกเดินทางไปสัก 30 นาที เราก็มาแวะถ่ายรูปกับ ทะเลสาบมังกรหลับ หรือ ทะเลสาบไดโนเสาร์ ่ผมดูยังไงก็ไม่เป็นทะเลสาบเพราะแค่เป็นคุ้งน้ำและดินดอนที่เกิดกลางโค้งน้ำเป็นรูปไดโนเสาร์ จากนั้นก็เดินทางสู่จุดที่สอง เย้เลี่ยงวาน หรือ ทะเลสาบวงพระจันทร์ ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นทะเลสาบที่มีรอยเท้าของเจงกิสข่าน สำหรับผมก็เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปของวิวสวยๆมากกว่าที่ฟังตำนานรอยเท้า และจุดที่สามเป็นลานน้ำกว้างๆเป็นที่มาของชื่อ ทะเลสาบเทวดา ซึ่งทั้ง 3 ทะเลสาบนี้ก็เป็นลำน้ำสายเดียวกัน จากนั้นก็เดินทางไปชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบคานาสือที่ จุดชมวิวคานาสือ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่ ศาลาชมปลา
ภูเขาอู่ไถซาน (Mt Wutai)
ภูเขาอู่ไถซาน (Mt Wutai)
• ภูเขาอู่ไถ คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขามณฑลชานซี ประเทศจีน เป็นหนึ่งในสี่ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาของจีน (ประกอบด้วยภูเขาอู่ไถซาน ภูเขาจิ่วหัวซาน ภูเขาเอ๋อเหมยซานหรือง้อไบ๊ และภูเขาผู่โถวซาน)
• ภูเขาอู่ไถซานแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ธรรมราชกุมารในคติของพระพุทธศาสนามหายาน
• ภูเขาอู่ไถซานได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 33 เมื่อปี พ.ศ. 2552 ที่เมืองเซบียา ประเทศสเปน
• ภูเขาอู่ไถ คือแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขามณฑลชานซี ประเทศจีน เป็นหนึ่งในสี่ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาของจีน (ประกอบด้วยภูเขาอู่ไถซาน ภูเขาจิ่วหัวซาน ภูเขาเอ๋อเหมยซานหรือง้อไบ๊ และภูเขาผู่โถวซาน)
• ภูเขาอู่ไถซานแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ธรรมราชกุมารในคติของพระพุทธศาสนามหายาน
• ภูเขาอู่ไถซานได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 33 เมื่อปี พ.ศ. 2552 ที่เมืองเซบียา ประเทศสเปน
อารามลอยฟ้า วัดลอยฟ้าเสวียนคงซื่อ เมืองต้าถง
อารามลอยฟ้า วัดลอยฟ้าเสวียนคงซื่อ เมืองต้าถง
อารามลอยฟ้า ตั้งอยู่เมืองต้าถง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองต้าถง อารามลอยฟ้าหรือในชื่อว่า “วัดเสวียนคง” (Xuankong Temple) มีอายุกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ตรงจุดที่เป็นเขาสูงชันของเขาเหิงซาน อารามลอยฟ้าสร้างอิงอยู่กับแนวผาสูงชันมีเสาไม้ค้ำเอาไว้ สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายราชวงศ์เว่ยเหนือ โดยการรวมเอาพุทธศาสนา ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื๊อเข้าไว้ด้วยกัน
อารามลอยฟ้า ตั้งอยู่เมืองต้าถง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองต้าถง อารามลอยฟ้าหรือในชื่อว่า “วัดเสวียนคง” (Xuankong Temple) มีอายุกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ตรงจุดที่เป็นเขาสูงชันของเขาเหิงซาน อารามลอยฟ้าสร้างอิงอยู่กับแนวผาสูงชันมีเสาไม้ค้ำเอาไว้ สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายราชวงศ์เว่ยเหนือ โดยการรวมเอาพุทธศาสนา ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื๊อเข้าไว้ด้วยกัน
ถ้ำผาหยุนกังสือคู
ถ้ำผาหยุนกังสือคู อยู่ห่างจากเมืองต้าถงไปทางทิศตะวันตกประมาณ 16 กิโลเมตร ตั้งแต่มีการขุดเจาะถ้ำผาที่เชิงเขาอู่โจวซัน ที่มีความยาวจากทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตกราว 1 กิโลเมตร ปัจจุบัน ค้นพบถ้ำผาขนาดใหญ่ 45 คูหา และช่องเขาใหญ่น้อยซึ่งเป็นแท่นบูชาพระพุทธรูปที่สำคัญ 209 แท่น มีรูปแกะสลักนูนสูงปรากฏอยู่ทั้งภายในและภายนอกมากกว่า 50,000 ชิ้น ในประติมากรรมรูปสลักนูนสูงเหล่านี้ ขนาดใหญ่ที่สุดสูงถึง 17 เมตร และเล็กสุดสูงเพียง 2 เซนติเมตรเท่านั้น รูปสลักพระโพธิสัตว์ ยักษ์ และนางฟ้าอ่อนช้อยมีชีวิตชีวา
เจดีย์วัดฝอกง (Pagoda of Fogong Temple)
เจดีย์วัดฝอกง (Pagoda of Fogong Temple) เจดีย์ไม้ศากยมุนี เป็นเจที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน เจดีย์วัดฝอกงมีชื่อว่า “เจดีย์ศากยมุนี” (Sakyamuni Pagoda) ตั้งอยู่ในวัดฝอกง สร้างเมื่อปี 1056 โดยจักรพรรดิในราชวงศ์เหลียวโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นว่าเจดีย์มี 5 ชั้น แต่หากเข้าไปชมด้านในจะเห็นว่าถูกแบ่งออกทั้งหมด 9 ชั้น ที่สำคัญเจดีย์วัดฝอกงถูกยกให้เป็นด่านเจดีย์สามองค์ร่วมกับหอไอเฟลและหอเอนเมืองปิซา
เมืองต้าถง (datong city) เมืองประวัติศาสตร์และประติมากรรมโบราณ
เมืองต้าถง (datong city) เมืองประวัติศาสตร์และประติมากรรมโบราณ
• เมืองต้าถง อยู่ในมณฑลซานซี มีชื่อปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์หลังราชวงศ์เป่ยเว่ย ย้ายราชธานีมาอยู่ที่ต้าถงในปี คศ.386 เป็นเมืองวัฒนธรรมชื่อดังและเมืองประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,400 ปี รวบรวมวัฒนธรรมทั้งชนชาติส่วนน้อยและชนชาติฮั่น อีกทั้งเป็นสถานที่ตั้งป้อมปราการสำคัญทางทหาร มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น ถ้ำผาหยุนกัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของประวัติศาสตร์จิตรกรรมจีน วัดหัวเหยียนและวัดซั่นหั้ว มีประติมากรรมรูปสลักอายุนับพันปีอยู่มากมาย เขาเหิงซาน ซึ่งถือเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจีน
• เมืองต้าถง อยู่ในมณฑลซานซี มีชื่อปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์หลังราชวงศ์เป่ยเว่ย ย้ายราชธานีมาอยู่ที่ต้าถงในปี คศ.386 เป็นเมืองวัฒนธรรมชื่อดังและเมืองประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,400 ปี รวบรวมวัฒนธรรมทั้งชนชาติส่วนน้อยและชนชาติฮั่น อีกทั้งเป็นสถานที่ตั้งป้อมปราการสำคัญทางทหาร มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น ถ้ำผาหยุนกัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของประวัติศาสตร์จิตรกรรมจีน วัดหัวเหยียนและวัดซั่นหั้ว มีประติมากรรมรูปสลักอายุนับพันปีอยู่มากมาย เขาเหิงซาน ซึ่งถือเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจีน
เมืองโบราณผิงเหยา
เมืองโบราณผิงเหยา
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ. 1997
ก่อสร้างครั้งแรก – สมัยราชวงค์โจวตะวันตก (827 -782 ปี ก่อนคริสตกาล)
เมืองโบราณผิงเหยา เป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 2,700 ปี ยังคงรักษาโครงสร้างบ้านเมืองแบบชาวฮั่นในสมัยหมิงและชิง (ราวค.ศ. 1368–1911)ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ การวางผังเมืองได้รับการออกแบบอย่างเป็นระเบียบ สิ่งปลูกสร้างภายในเมืองอย่าง วัดวาอาราม อาคารหอสูง ถนน บ้านเรือนราษฎร ฯลฯ ต่างสะท้อนให้เห็นถึงวิทยาการความรู้และวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ
เมืองเก่าผิงเหยา ตั้งอยู่บนที่ราบไท่หยวนริมฝั่งแม่น้ำเฝินเหอ ตอนกลางของมณฑลซันซีทางภาคเหนือของจีน ห่างจากเมืองไท่หยวนเมืองเอกของมณฑล 80 กิโลเมตร เคยเป็นศูนย์กลางตลาดทางการเงินของประเทศมาก่อน
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ. 1997
ก่อสร้างครั้งแรก – สมัยราชวงค์โจวตะวันตก (827 -782 ปี ก่อนคริสตกาล)
เมืองโบราณผิงเหยา เป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 2,700 ปี ยังคงรักษาโครงสร้างบ้านเมืองแบบชาวฮั่นในสมัยหมิงและชิง (ราวค.ศ. 1368–1911)ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ การวางผังเมืองได้รับการออกแบบอย่างเป็นระเบียบ สิ่งปลูกสร้างภายในเมืองอย่าง วัดวาอาราม อาคารหอสูง ถนน บ้านเรือนราษฎร ฯลฯ ต่างสะท้อนให้เห็นถึงวิทยาการความรู้และวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ
เมืองเก่าผิงเหยา ตั้งอยู่บนที่ราบไท่หยวนริมฝั่งแม่น้ำเฝินเหอ ตอนกลางของมณฑลซันซีทางภาคเหนือของจีน ห่างจากเมืองไท่หยวนเมืองเอกของมณฑล 80 กิโลเมตร เคยเป็นศูนย์กลางตลาดทางการเงินของประเทศมาก่อน
อารามจิ้นฉือหรือวัดจิ้นฉือ (Jinchi Temple) เมืองไท่หยวน
อารามจิ้นฉือหรือวัดจิ้นฉือ (Jinchi Temple) เมืองไท่หยวน
• อารามจิ้นฉือหรือวัดจิ้นฉือ สร้างในยุคราชวงศ์เว่ยเหนือ ประมาณ 1,500 ปีมาแล้ว ตัวและอาคารต่างๆภายในวัดถูกสร้างเพิ่มเติม จึงมีความงดงามตามแปลกตาตามศิลปะยุคสมัยต่างๆ ประกอบกับความศรัทธาของผู้คนของ ลัทธิขงจื้อ พุทธศาสนา และลัทธิเต๋าปะปนกัน วัดจิ้นฉือจึงเป็นตัวอย่างของสุดยอดศิลปะและสถาปัตยกรรมจีนโบราณแห่งหนึ่ง
• สามมหัศจรรย์ของวัดจิ้นฉือคือ ต้นสนพันปี ตาน้ำที่ไม่มีวันหมด และ ปติมากรรมรูปปั้นของสตรีจีนโบราณ
• อารามจิ้นฉือหรือวัดจิ้นฉือ สร้างในยุคราชวงศ์เว่ยเหนือ ประมาณ 1,500 ปีมาแล้ว ตัวและอาคารต่างๆภายในวัดถูกสร้างเพิ่มเติม จึงมีความงดงามตามแปลกตาตามศิลปะยุคสมัยต่างๆ ประกอบกับความศรัทธาของผู้คนของ ลัทธิขงจื้อ พุทธศาสนา และลัทธิเต๋าปะปนกัน วัดจิ้นฉือจึงเป็นตัวอย่างของสุดยอดศิลปะและสถาปัตยกรรมจีนโบราณแห่งหนึ่ง
• สามมหัศจรรย์ของวัดจิ้นฉือคือ ต้นสนพันปี ตาน้ำที่ไม่มีวันหมด และ ปติมากรรมรูปปั้นของสตรีจีนโบราณ
บ้านตระกูลเฉียวในมณฑลซานซี
บ้านตระกูลเฉียวในมณฑลซานซี
บ้านตระกูลเฉียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเฉียวเจียพู่ อำเภอฉีภาคกลางของมณฑลซานซี สร้างในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง มีกำแพงอิฐสูงกว่า 10 เมตรล้อมรอบ ภายในบ้านแบ่งเป็น 6 เขตใหญ่ที่ประกอบด้วย 19 เขตเล็ก มีห้องใหญ่น้อยกว่า 300 ห้อง ลวดลายแกะสลักบนประตู หน้าต่าง หลังคา บันไดและราวสวยงามประณีต
บ้านตระกูลเฉียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเฉียวเจียพู่ อำเภอฉีภาคกลางของมณฑลซานซี สร้างในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง มีกำแพงอิฐสูงกว่า 10 เมตรล้อมรอบ ภายในบ้านแบ่งเป็น 6 เขตใหญ่ที่ประกอบด้วย 19 เขตเล็ก มีห้องใหญ่น้อยกว่า 300 ห้อง ลวดลายแกะสลักบนประตู หน้าต่าง หลังคา บันไดและราวสวยงามประณีต
พิพิธภัณฑ์ถ่านหิน
พิพิธภัณฑ์ถ่านหิน
• มณฑลซานซีมีการค้นพบทรัพยากรแร่ธาตุกว่า 105 ชนิด ในจำนวนนี้มีการสำรวจและนำมาใช้ประโยชน์แล้ว 67 ชนิด โดยมีแร่ธาตุที่ค้นพบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้แก่ ถ่านหิน หินแร่บอคไซท ธาตุแกลเลียม อลูมินัม ซีอะไลท
• มณฑลซานซีได้รับขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งถ่านหิน” โดยมีพื้นที่ที่มีแร่ถ่านหิน 62,800 ตร.กม. โดยคิดเป็น 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นแหล่งที่ผลิตถ่านหินปริมาณมากกว่า 100 ล้านตันต่อปี
• มณฑลซานซีมีการค้นพบทรัพยากรแร่ธาตุกว่า 105 ชนิด ในจำนวนนี้มีการสำรวจและนำมาใช้ประโยชน์แล้ว 67 ชนิด โดยมีแร่ธาตุที่ค้นพบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้แก่ ถ่านหิน หินแร่บอคไซท ธาตุแกลเลียม อลูมินัม ซีอะไลท
• มณฑลซานซีได้รับขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งถ่านหิน” โดยมีพื้นที่ที่มีแร่ถ่านหิน 62,800 ตร.กม. โดยคิดเป็น 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นแหล่งที่ผลิตถ่านหินปริมาณมากกว่า 100 ล้านตันต่อปี
มณฑลซานซี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศจีน
มณฑลซานซี
• มณฑลซานซี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศจีน ทิศตะวันออกมีภูเขาไท่หังซาน และมีพื้นที่ติดกับมณฑลเหอเป่ย ทิศตะวันตกมีภูเขาหลี่ว์เหลียงซาน ทิศตะวันตกและทิศใต้มีแม่น้ำเหลือง และมีอาณาเขตอยู่ติดกับมณฑลส่านซี ทิศตะวันตกเฉียงเหนืออยู่ติดกับเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทิศใต้ติดกับมณฑลเหอหนาน มณฑลซานซีมีที่ตั้งอยู่หลังภูเขาไท่หังทางทิศตะวันตก จึงได้รับขนานนามว่า “ซานซี” หรือมณฑลด้านตะวันตกของภูเขา
• มณฑลซานซี มีพื้นที่ทั้งหมด156,579 ตร.กม. คิดเป็น 1.6 % ของพื้นที่ทั้งหมด จากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกมีระยะทาง 290 กิโลเมตร ทิศเหนือไปยังทิศใต้มีระยะทาง 550 กิโลเมตร มณฑลซานซีมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ประกอบด้วยภูเขา เนินเขา ที่ราบสูง และที่ราบลุ่มโดยมีพื้นที่ที่เป็นภูเขามากกว่า 80 % ของพื้นที่ทั้งหมด และคิดเป็นสองในสามของพื้นที่รวมทั้งหมดในมณฑล พื้นที่ที่เป็นภูเขาและเนินเขาโดยส่วนใหญ่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 – 2,000 เมตร แม่น้ำสายสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเฝินเหอ ซึ่งมีความยาว 659 กิโลเมตร แม่น้ำไห่เหอ ซึ่งภายในมณฑลมีแม่น้ำ 1,000 กว่าสาย
• มณฑลซานซี มีการค้นพบทรัพยากรแร่ธาตุกว่า 105 ชนิด ในจำนวนนี้มีการสำรวจและนำมาใช้ประโยชน์แล้ว 67 ชนิด โดยมีแร่ธาตุที่ค้นพบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้แก่ ถ่านหิน หินแร่บอคไซท (Bauxite) ธาตุแกลเลียม (Gallium) อลูมินัม ซีอะไลท (Zeolite) Refractory clay
• มณฑลซานซี ได้รับขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งถ่านหิน” โดยมีพื้นที่ที่มีแร่ถ่านหิน 62,800 ตร.กม. โดยคิดเป็น 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นแหล่งที่ผลิตถ่านหินปริมาณมากกว่า 100 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในหกพื้นที่ที่ผลิตได้ในโลก
• ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม มณฑลซานซีได้รับการขนานนามว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโบราณของประเทศจีน” โดยมีวัฒนธรรมเหอตู้และติงชุน มีการค้นพบมนุษย์โบราณสมัยยุคหินเก่าสมัยราชวงศ์เซี่ยได้เริ่มก่อตั้งประเทศจีนบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลซานซี ในสมัยราชวงศ์ซางมณฑลซานซีเป็นพื้นที่ปกครองหลัก ต่อมาสมัยราชวงศ์หนานเป่ยเฉา ( ค.ศ. 420-589 ) มณฑลซานซีเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง และสมัยราชวงศ์เป่ยเหว่ยได้สร้างเมืองต้าถง (แต่ก่อนเรียกผิงตี้) เป็นเมืองหลวง สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์เหลียวมณฑลซานซีเป็นเมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศจีน และเป็นเมืองที่พัฒนาทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สมัยราชวงศ์หยวนหรือมองโกล ประเทศจีนมีมณฑลทั้งหมด 11 มณฑล โดยมณฑลซานซี ณ เวลานั้น มีพื้นที่คลอบคลุมถึงมณฑลเหอเป่ย และกลายเป็นมณฑลที่สำคัญของราชวงศ์หยวน ประกอบกับการพัฒนาของเศรษฐกิจในมณฑลจนได้รับการยกย่องจากมาร์โคโปโล จนถึงในสมัยราชวงศ์หมิงการพัฒนาทางเศรษฐกิจของมณฑลได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเมืองอันดับต้นของประเทศ
• สภาพภูมิอากาศมณฑลซานซี ภูมิอากาศแบ่งเป็น 4 ฤดู ลมมรสุมเขตอบอุ่น โดยมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปี 3 – 14 องศาเซลเซียส เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่มีอากาศร้อน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 – 26 องศาเซลเซียส
• การแบ่งพื้นที่เขตปกครองมณฑลซานซีประกอบด้วยเมืองทั้งหมด 11 เมือง ได้แก่ เมืองต้าถ่ง เมืองโซ่วโจว เมืองซินโจว เมืองหลู่เหลียง เมืองไท่หยวน เมืองหยางฉวน เมืองจิ้นจง เมืองหลินเฟิน เมืองฉางจื้อ เมืองยุ่นเฉิง เมืองจิ้นเฉิง
• มณฑลซานซี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศจีน ทิศตะวันออกมีภูเขาไท่หังซาน และมีพื้นที่ติดกับมณฑลเหอเป่ย ทิศตะวันตกมีภูเขาหลี่ว์เหลียงซาน ทิศตะวันตกและทิศใต้มีแม่น้ำเหลือง และมีอาณาเขตอยู่ติดกับมณฑลส่านซี ทิศตะวันตกเฉียงเหนืออยู่ติดกับเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทิศใต้ติดกับมณฑลเหอหนาน มณฑลซานซีมีที่ตั้งอยู่หลังภูเขาไท่หังทางทิศตะวันตก จึงได้รับขนานนามว่า “ซานซี” หรือมณฑลด้านตะวันตกของภูเขา
• มณฑลซานซี มีพื้นที่ทั้งหมด156,579 ตร.กม. คิดเป็น 1.6 % ของพื้นที่ทั้งหมด จากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกมีระยะทาง 290 กิโลเมตร ทิศเหนือไปยังทิศใต้มีระยะทาง 550 กิโลเมตร มณฑลซานซีมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ประกอบด้วยภูเขา เนินเขา ที่ราบสูง และที่ราบลุ่มโดยมีพื้นที่ที่เป็นภูเขามากกว่า 80 % ของพื้นที่ทั้งหมด และคิดเป็นสองในสามของพื้นที่รวมทั้งหมดในมณฑล พื้นที่ที่เป็นภูเขาและเนินเขาโดยส่วนใหญ่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 – 2,000 เมตร แม่น้ำสายสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเฝินเหอ ซึ่งมีความยาว 659 กิโลเมตร แม่น้ำไห่เหอ ซึ่งภายในมณฑลมีแม่น้ำ 1,000 กว่าสาย
• มณฑลซานซี มีการค้นพบทรัพยากรแร่ธาตุกว่า 105 ชนิด ในจำนวนนี้มีการสำรวจและนำมาใช้ประโยชน์แล้ว 67 ชนิด โดยมีแร่ธาตุที่ค้นพบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ได้แก่ ถ่านหิน หินแร่บอคไซท (Bauxite) ธาตุแกลเลียม (Gallium) อลูมินัม ซีอะไลท (Zeolite) Refractory clay
• มณฑลซานซี ได้รับขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งถ่านหิน” โดยมีพื้นที่ที่มีแร่ถ่านหิน 62,800 ตร.กม. โดยคิดเป็น 40 % ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นแหล่งที่ผลิตถ่านหินปริมาณมากกว่า 100 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในหกพื้นที่ที่ผลิตได้ในโลก
• ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม มณฑลซานซีได้รับการขนานนามว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโบราณของประเทศจีน” โดยมีวัฒนธรรมเหอตู้และติงชุน มีการค้นพบมนุษย์โบราณสมัยยุคหินเก่าสมัยราชวงศ์เซี่ยได้เริ่มก่อตั้งประเทศจีนบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลซานซี ในสมัยราชวงศ์ซางมณฑลซานซีเป็นพื้นที่ปกครองหลัก ต่อมาสมัยราชวงศ์หนานเป่ยเฉา ( ค.ศ. 420-589 ) มณฑลซานซีเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง และสมัยราชวงศ์เป่ยเหว่ยได้สร้างเมืองต้าถง (แต่ก่อนเรียกผิงตี้) เป็นเมืองหลวง สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์เหลียวมณฑลซานซีเป็นเมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศจีน และเป็นเมืองที่พัฒนาทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สมัยราชวงศ์หยวนหรือมองโกล ประเทศจีนมีมณฑลทั้งหมด 11 มณฑล โดยมณฑลซานซี ณ เวลานั้น มีพื้นที่คลอบคลุมถึงมณฑลเหอเป่ย และกลายเป็นมณฑลที่สำคัญของราชวงศ์หยวน ประกอบกับการพัฒนาของเศรษฐกิจในมณฑลจนได้รับการยกย่องจากมาร์โคโปโล จนถึงในสมัยราชวงศ์หมิงการพัฒนาทางเศรษฐกิจของมณฑลได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเมืองอันดับต้นของประเทศ
• สภาพภูมิอากาศมณฑลซานซี ภูมิอากาศแบ่งเป็น 4 ฤดู ลมมรสุมเขตอบอุ่น โดยมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปี 3 – 14 องศาเซลเซียส เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่มีอากาศร้อน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 – 26 องศาเซลเซียส
• การแบ่งพื้นที่เขตปกครองมณฑลซานซีประกอบด้วยเมืองทั้งหมด 11 เมือง ได้แก่ เมืองต้าถ่ง เมืองโซ่วโจว เมืองซินโจว เมืองหลู่เหลียง เมืองไท่หยวน เมืองหยางฉวน เมืองจิ้นจง เมืองหลินเฟิน เมืองฉางจื้อ เมืองยุ่นเฉิง เมืองจิ้นเฉิง
Thursday, March 17, 2016
JAPAN RAIL PASS (ALL AREA)
Japan Rail Pass คือ บัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายที่จะช่วยให้ท่านท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างประหยัด และคุ้มค่า hisgo จำหน่าย JR Pass ที่ท่านสามารถใช้เดินทางได้ทั่วภูมิภาคของญี่ปุ่น ซึ่งมี 2 ประเภทคือ Green (ชั้นพิเศษ) และแบบ Ordinary (ชั้นธรรมดา)
JR Pass จัดทำขึ้นโดยบริษัทรถไฟชั้นนำทั้ง 6 ในญี่ปุ่น ได้แก่ JR Kyushu, JR Shikoku, JR West, JR Central, JR East และ JR Hokkaido ดำเนินการโดย Japan Railways Group (JR Group) ซึ่งได้จัดทำระบบคมนาคมที่ก้าวล้ำทันสมัยผ่านเส้นทางรถไฟทั่วทั้งญี่ปุ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกสบายในประเทศญี่ปุ่น นอกจากรถไฟแล้ว JR Pass ยังสามารถใช้ได้กับ รถบัส รถเมล์ และเรือในเครือ JR แต่ยังมีรถไฟบางสายที่ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้แก่ รถไฟ Nozomi และ Mizuho ซึ่งวิ่งอยู่บนสาย Tokaido, Sanyo และ ชินคันเซ็นคิวซู (Shinkansen Kyushu)
JAPAN RAIL PASS (ALL AREA)
Japan Rail Pass สำหรับ All Area หรือสำหรับเดินทางได้ทุกภูมิภาคนั้นมี 2 ประเภท คือ 1) Ordinary (ชั้นธรรมดา) และ 2) Green (ชั้นพิเศษ) ในแต่ละประเภทยังสามารถเลือกระยะเวลาเดินทางได้ ดังนี้ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน
เมื่อท่านซื้อ JR Pass ผ่าน hisgo เราจะออกเอกสารซึ่งเรียกว่า Exchange Order (เป็น voucher รูปร่างคล้ายตั๋วโดยสาร) โดยท่านต้องนำ Exchange Order นี้ไปแลกเป็นตั๋ว JR Pass ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต้องเปิดใช้งานภายใน 90 วัน หลังจากที่ได้รับบัตร Exchange Order
ใครที่มีสิทธิ์ใช้ได้บ้าง Japan Rail Pass
1. เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่น และมีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชั่วคราวเท่านั้น
ผู้ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวชั่วคราว ตามกฎหมายของญี่ปุ่น อนุญาตให้อยู่ในญี่ปุ่น 15-90 วันเท่านั้น ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวขอวีซ่านักท่องเที่ยวมาที่ญี่ปุ่น ทางสถานฑูตก็จะประทับตรามาที่พาสปอร์ตว่าเป็นนักท่องเที่ยวชั่วคราว การใช้ Japan Rail Pass จะถูกจำกัดเฉพาะการใช้เพียง 1 ครั้งตามการประทับตราในพาสปอร์ตเท่านั้น
2. นักท่องเที่ยวถือสัญชาติญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในต่างประเทศที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น และแต่งงานกับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่น
JR Pass จัดทำขึ้นโดยบริษัทรถไฟชั้นนำทั้ง 6 ในญี่ปุ่น ได้แก่ JR Kyushu, JR Shikoku, JR West, JR Central, JR East และ JR Hokkaido ดำเนินการโดย Japan Railways Group (JR Group) ซึ่งได้จัดทำระบบคมนาคมที่ก้าวล้ำทันสมัยผ่านเส้นทางรถไฟทั่วทั้งญี่ปุ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกสบายในประเทศญี่ปุ่น นอกจากรถไฟแล้ว JR Pass ยังสามารถใช้ได้กับ รถบัส รถเมล์ และเรือในเครือ JR แต่ยังมีรถไฟบางสายที่ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้แก่ รถไฟ Nozomi และ Mizuho ซึ่งวิ่งอยู่บนสาย Tokaido, Sanyo และ ชินคันเซ็นคิวซู (Shinkansen Kyushu)
JAPAN RAIL PASS (ALL AREA)
Japan Rail Pass สำหรับ All Area หรือสำหรับเดินทางได้ทุกภูมิภาคนั้นมี 2 ประเภท คือ 1) Ordinary (ชั้นธรรมดา) และ 2) Green (ชั้นพิเศษ) ในแต่ละประเภทยังสามารถเลือกระยะเวลาเดินทางได้ ดังนี้ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน
เมื่อท่านซื้อ JR Pass ผ่าน hisgo เราจะออกเอกสารซึ่งเรียกว่า Exchange Order (เป็น voucher รูปร่างคล้ายตั๋วโดยสาร) โดยท่านต้องนำ Exchange Order นี้ไปแลกเป็นตั๋ว JR Pass ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต้องเปิดใช้งานภายใน 90 วัน หลังจากที่ได้รับบัตร Exchange Order
ใครที่มีสิทธิ์ใช้ได้บ้าง Japan Rail Pass
1. เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่น และมีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชั่วคราวเท่านั้น
ผู้ที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยวชั่วคราว ตามกฎหมายของญี่ปุ่น อนุญาตให้อยู่ในญี่ปุ่น 15-90 วันเท่านั้น ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวขอวีซ่านักท่องเที่ยวมาที่ญี่ปุ่น ทางสถานฑูตก็จะประทับตรามาที่พาสปอร์ตว่าเป็นนักท่องเที่ยวชั่วคราว การใช้ Japan Rail Pass จะถูกจำกัดเฉพาะการใช้เพียง 1 ครั้งตามการประทับตราในพาสปอร์ตเท่านั้น
2. นักท่องเที่ยวถือสัญชาติญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในต่างประเทศที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น และแต่งงานกับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่น
Sunday, March 13, 2016
NANLUOGU XIANG
NANLUOGU XIANG ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่ง HIP STREET ที่รวมบรรดาวัยรุ่นเด็กแนวในปักกิ่ง ซึ่งเป็นถนนแคบ ๆ ความยาวกว่า 800 เมตร ถือเป็นย่านกิน เที่ยว ช้อปที่สำคัญของปักกิ่ง
โรงงานผลิต ผ้าไหม ของจีน
โรงงานผลิต ผ้าไหม ของจีน
ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร และแรงงานคน ชมการดึงใยไหมรังแฝด
ชมวิธีการนำเส้นไหมออกมาผลิตเป็นสินค้าทั้งใช้เครื่องจักร และแรงงานคน ชมการดึงใยไหมรังแฝด
THE PLACE แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่สไตล์จีน
THE PLACE แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่สไตล์จีน
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ “THE PLACE” หรือ ซื่อ เม่า เทียน เจีย
เป็นศูนย์กลางการค้าสำหรับการช้อปปิ้งที่คึกคักแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ “THE PLACE” หรือ ซื่อ เม่า เทียน เจีย
เป็นศูนย์กลางการค้าสำหรับการช้อปปิ้งที่คึกคักแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Flowers of The World เทศกาลดอกไม้แห่งโลก
เนเธอร์แลนด์
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกดอกทิวลิปอันดับหนึ่ง ของโลก
หลายคนที่ไปเยือนเนเธอร์แลนด์ย่อมอยากไปชมและแชะภาพกับทุ่งทิวลิปหลากสี ไว้เป็นที่ระลึก
โดยเฉพาะที่สวนสวยเคอร์เคนฮอฟในเมืองลิซเซ่ หนึ่งในสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อ ของเนเธอร์แลนด์
สวนสาธารณะอุเอะโนะ ญี่ปุ่น
สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว
และเป็นสถานที่เลื่องชื่อในการชมดอกซากุระมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
เนื่องจากเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดที่ชาวโตเกียวสามารถมาชมซากุระได้
ยู่หยวนถาน จีน
ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมดอกซากุระบาน
ซึ่งชาวจีนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจนมีการจัดเป็นงานเทศกาลดอกซากุระบานขึ้น
ที่สวนสาธารณะยู่หยวนถาน ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี
ดาลัด เวียดนาม
ดาลัดได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองดอกไม้ เพราะเมืองแห่งนี้เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของดอกไม้อันงดงามหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งเมืองดาลัดยังมีงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีอันลือชื่อ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกดอกทิวลิปอันดับหนึ่ง ของโลก
หลายคนที่ไปเยือนเนเธอร์แลนด์ย่อมอยากไปชมและแชะภาพกับทุ่งทิวลิปหลากสี ไว้เป็นที่ระลึก
โดยเฉพาะที่สวนสวยเคอร์เคนฮอฟในเมืองลิซเซ่ หนึ่งในสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อ ของเนเธอร์แลนด์
สวนสาธารณะอุเอะโนะ ญี่ปุ่น
สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว
และเป็นสถานที่เลื่องชื่อในการชมดอกซากุระมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
เนื่องจากเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดที่ชาวโตเกียวสามารถมาชมซากุระได้
ยู่หยวนถาน จีน
ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมดอกซากุระบาน
ซึ่งชาวจีนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจนมีการจัดเป็นงานเทศกาลดอกซากุระบานขึ้น
ที่สวนสาธารณะยู่หยวนถาน ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี
ดาลัด เวียดนาม
ดาลัดได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองดอกไม้ เพราะเมืองแห่งนี้เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของดอกไม้อันงดงามหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งเมืองดาลัดยังมีงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีอันลือชื่อ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
Subscribe to:
Posts (Atom)