Monday, April 6, 2015

คิวบา (Cuba)

คิวบา

ที่ตั้ง กลางทะเลแคริบเบียน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดใน West Indies
ตั้งอยู่ทาง ทิศใต้ของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา บริเวณทางตอนเหนืออยู่ใกล้กับอ่าวเม็กซิโก
และทางด้านตะวันออกอยู่ใกล้กับไฮติ และสาธารณรัฐโดมินิกัน ทางตอนใต้ของประเทศมีภูเขาสำคัญคือ
Sierra Maestra

ภูมิอากาศ ร้อนชื้น (tropical) ฤดูแล้งระหว่างเดือน พ.ย. - เม.ย.
ฤดูฝนระหว่างเดือน พ.ค. - ต.ค.

พื้นที่ 110,860 ตารางกิโลเมตร

ประชากร 11.38 ล้านคน(2549)

เมืองหลวง ฮาวานา (Havana)

ภาษา สเปนเป็นภาษาราชการ

ศาสนา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

เชื้อชาติ Mulatto (ผิวขาวผสมนิโกร) ร้อยละ 51 ผิวขาวร้อยละ 37
ผิวดำร้อยละ 11 ชาวจีนร้อยละ 1

อัตราผู้รู้หนังสือ ร้อยละ 99

อาชีพ การกษตรกร 20% อุตสาหกรรม 19.4% ภาคบริการ 60.6% (2548)

หน่วยเงินตรา คิวบาเปโซ (1 คิวบาเปโซ* = 1.11 ดอลลาร์สหรัฐ)สหรัฐฯ) หมายเหตุ - อัตราทางการ* (ปี 2549)

(24 คิวบาเปโซ* = 1 ดอลลาร์สหรัฐ) หมายเหตุ - อัตราภายใน* (ปี 2549)

เวลาแตกต่างจากไทย -5 GMT (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง)

วันชาติ 1 มกราคม / Anniversary of the Revolution (ค.ศ. 1959)

ท่องเที่ยวออสเตรเลีย

คู่มือท่องเที่ยวออสเตรเลีย
ที่ตั้ง เป็นเกาะทวีป (Island Continent) อยู่ในซีกโลกใต้ ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก

เมืองหลวง กรุงแคนเบอร์รา เมืองที่มีประชากรมากสุด ได้แก่ นครซิดนีย์และเมลเบิร์น

ภูมิอากาศ ภาคใต้มีสภาพอากาศเย็น ในขณะที่ภาคเหนือมีอากาศร้อนชื้น เดือนร้อนที่สุดคือ มกราคมและกุมภาพันธ์ เดือนหนาวที่สุดคือ กรกฎาคม

เวลา เร็วกว่าเวลามาตรฐาน กรีนิช 10 ชม. (New South Wales, Tasmania, Victoria, Queensland และ Australian Capital Territory) 9.5 ชม. (Northern Territory และ South Australia) และ 8 ชม. (Western Australia) เวลากรุงแคนเบอร์ราเร็วกว่ากรุงเทพฯ 3 ชม.

ภาษาราชการ ภาษาอังกฤษ

ศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาธอลิค ร้อยละ 27 คริสต์นิกายแองกลิกัน ร้อยละ 21 คริสต์นิกายอื่น ๆ ร้อยละ 21 พุทธ ร้อยละ 2 มุสลิม ร้อยละ 1.5 อื่นๆ ร้อยละ 1.2 ไม่แจ้งศาสนาตน ร้อยละ 13 และไม่นับถือศาสนาใด ร้อยละ 15 (จากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2544)
วันชาติ วันที่ 26 มกราคม

ชื่อออสเตรเลีย มาจากคำในภาษาละติน ว่า australis ซึ่งหมายถึงทิศใต้ โดยมีตำนานถึง "ดินแดนทางใต้ที่ไม่รู้จัก" (ละติน: terra australis incognita) ชาวยุโรปเริ่มสำรวจค้นพบออสเตรเลียในพุทธศตวรรษที่ 22 และต่อมาจึงกลายเป็นดินแดนอาณานิคมของบริเตน โดยเริ่มต้นเป็นอาณานิคมนักโทษในนิวเซาท์เวลส์ และจึงมีการตั้งอาณานิคมขึ้นอีกห้าแห่ง อาณานิคมทั้งหกรวมตัวเป็นสหพันธรัฐในปีพ.ศ. 2444 ออสเตรเลียมีชนพื้นเมืองซึ่งอาศัยตั้งแต่ก่อนชาวยุโรปเข้ามา เรียกว่าชาวอะบอริจิน

เครือรัฐออสเตรเลีย (อังกฤษ: Commonwealth of Australia) เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่นๆในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ ประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียประกอบด้วย อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี และติมอร์ตะวันออกทางเหนือ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู และนิวแคลิโดเนียทางตะวันออกเฉียงเหนือ และนิวซีแลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้

ชน พื้นเมืองในออสเตรเลียก่อนการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป คือชาวอะบอริจิน และชาวเกาะทอร์เรสสเทรต ซึ่งชนเหล่านี้มีภาษาแตกต่างกันนับร้อยภาษา ประมาณการว่า มีชาวอะบอริจินมากกว่า 780,000 คนอยู่ในออสเตรเลียในปีพ.ศ. 2331

การค้นพบออสเตรเลียของชาวยุโรปครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้ เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2149 เป็นเรือของชาวดัตช์ โดยกัปตัน Willem Janszoon ทำแผนที่ชายฝั่งส่วนหนึ่งของออสเตรเลีย ระหว่างปีพ.ศ. 2149 และ 2313 มีเรือของชาวยุโรปประมาณ 54 ลำจากหลายชาติเดินทางมาที่ออสเตรเลีย ซึ่งรู้จักในขณะนั้นว่านิวฮอลแลนด์ ในปีพ.ศ. 2313 เจมส์ คุก เดินทางมาสำรวจออสเตรเลียและทำแผนที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย และได้ประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ให้ชื่อว่านิวเซาท์เวลส์ ต่อมาสหราชอาณาจักรใช้ออสเตรเลียเป็นอาณานิคมสำหรับนักโทษ (penal colony) ฝูงเรือแรกเดินทางมาถึงออสเตรเลียที่อ่าวซิดนีย์ในปีพ.ศ. 2330 ในวันที่ 26 มกราคม (ค.ศ. 1788) ซึ่งต่อมาเป็นวันออสเตรเลีย ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกส่วนใหญ่เป็นนักโทษและครอบครัวของทหาร โดยมีผู้อพยพเสรีเริ่มเข้ามาในปีพ.ศ. 2336 มีการตั้งถิ่นฐานบนเกาะแทสเมเนีย หรือชื่อในขณะนั้นคือฟานไดเมนส์แลนด์ ในปีพ.ศ. 2346 และตั้งเป็นอาณานิคมแยกอีกแห่งหนึ่งในปีพ.ศ. 2368 สหราชอาณาจักรประกาศสิทธิในฝั่งตะวันตกในปีพ.ศ. 2372 และเริ่มมีการตั้งอาณานิคมแยกขึ้นมาอีกหลายแห่ง ได้แก่เซาท์ออสเตรเลีย วิกตอเรีย และควีนส์แลนด์ โดยแยกออกมาจากนิวเซาท์เวลส์ เซาท์ออสเตรเลียไม่เคยเป็นอาณานิคมนักโทษ ในขณะที่วิกตอเรียและเวสเทิร์นออสเตรเลียยอมรับการขนส่งนักโทษภายหลัง เรือนักโทษลำสุดท้ายมาถึงนิวเซาท์เวลส์ในปีพ.ศ. 2391 หลังจากการรณรงค์ยกเลิกโดยกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐาน การขนส่งนักโทษยุติอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2396 ในนิวเซาท์เวลส์และแทสเมเนีย และปีพ.ศ. 2411 ในเวสเทิร์นออสเตรเลีย

ปี พ.ศ. 2394 เอดเวิร์ด ฮาร์กรีฟส์ ค้นพบสายแร่ทอง ในที่ๆเขาตั้งชื่อว่าโอฟีร์ (Ophir) ในนิวเซาท์เวลส์ ทำให้เกิดยุคตื่นทอง นำคนจำนวนมากเดินทางมาออสเตรเลีย ในปีพ.ศ. 2444 หกอาณานิคมในออสเตรเลียรวมตัวกันเป็นสหพันธรัฐ ในชื่อเครือรัฐออสเตรเลีย (Commonwealth of Australia) ประกอบด้วยรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย รัฐควีนส์แลนด์ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และรัฐแทสเมเนีย รวมหกรัฐเข้าอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญหนึ่งเดียว เฟเดอรัลแคพิทัลเทร์ริทอรีก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2454 เป็นเมืองหลวงของสหพันธรัฐ จากส่วนหนึ่งของรัฐนิวเซาท์เวลส์ บริเวณแยส-แคนเบอร์รา และเริ่มดำเนินงานรัฐสภาในแคนเบอร์ราในปีพ.ศ. 2470 ในปีพ.ศ. 2454 นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี แยกตัวออกมาจากเซาท์ออสเตรเลีย และเข้าเป็นดินแดนในกำกับของสหพันธ์ ออสเตรเลียสมัครใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมถึง 60,000 คนจากประชากรชายน้อยกว่าสามล้านคน
ออสเตรเลีย ประกาศใช้บทกฎหมายเวสต์มินสเตอร์ คริสต์ศักราช 1931 (พ.ศ. 2474) ในปีพ.ศ. 2485 โดยมีผลบังคับใช้ย้อนไปตั้งแต่ 3 กันยายน พ.ศ. 2482 ซึ่งเป็นการยุติบทบาทนิติบัญญัติของสหราชอาณาจักรในออสเตรเลียเกือบทั้งหมด ในสงครามโลกครั้งที่สอง ออสเตรเลียประกาศสงครามกับเยอรมนีพร้อมกับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส หลังจากเยอรมนีบุกโปแลนด์ ออสเตรเลียส่งทหารเข้าร่วมสมรภูมิในยุโรป เมดิเตอร์เรเนียน และแอฟริกาเหนือ แผ่นดินออสเตรเลียโดนโจมตีโดยตรงครั้งแรกจากการเข้าตีโฉบฉวยทางอากาศของ ญี่ปุ่นที่ดาร์วิน ออสเตรเลียยุตินโยบายออสเตรเลียขาว โดยดำเนินการขั้นสุดท้ายในปีพ.ศ. 2516 พระราชบัญญัติออสเตรเลีย คริสต์ศักราช 1986 (พ.ศ. 2529) ยกเลิกบทบาทของสหราชอาณาจักรในอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการของออสเตรเลียโดย สิ้นเชิง ในปีพ.ศ. 2542 ออสเตรเลียจัดการลงประชามติ ว่าจะให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีแต่งตั้งจากรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งคะแนนเสียงเกือบ 55% ลงคะแนนปฏิเสธ

ภูมิศาสตร์
ออสเตรเลีย มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปร้อยละ 65 เป็นที่ราบสูง และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งและทุรกันดาร และมีขนาดทะเลทรายรวมกันใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากทะเลทรายสะฮาราในทวีปแอฟริกา ชาวออสเตรเลียเรียกดินแดนที่แห้งแล้งและทุรกันดารนี้ว่า "เอาต์แบ็ก" ประชากรออสเตรเลียส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกหลังเทือก เขาเกรตดิไวดิง ซึ่งแบ่งแยกชายฝั่งตะวันออกกับเขตเอาต์แบ็ก มีแม่น้ำสายสำคัญ ๆ อยู่ทางภูมิภาคตะวันออก ได้แก่ แม่น้ำดาร์ลิง แม่น้ำเมอร์เรย์ ส่วนตอนกลางของประเทศที่เรียกว่า "เขตเซนทรัลโลว์แลนด์" เป็นเขตแห้งแล้งที่สุด แม่น้ำลำธารต่าง ๆ อาจแห้งสนิทเป็นเวลาหลายปี เนื่องจาก ทวีป ออสเตรเลียมีสภาพเป็นเกาะทำให้ มีสิ่งมีชวิตที่มีลักษณะเฉพาะเป็นของตนเอง เนื่องจากสิ่งมีชีวิตพวกนี้ได้มีวิวัฒนาการเป็นอิสระจากสิ่งมีชีวิตบนแผ่น ดินใหญ่ โดยเฉพาะสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง เช่น จิงโจ้

ประชากร
ประเทศ ออสเตรเลียมีประชากรประมาณ 21 ล้านคน ส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวยุโรปที่มาตั้งรกรากในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองจนถึงปี พ.ศ. 2543 มีผู้อพยพใหม่เข้ามาถึง 5.9 ล้านคน ทำให้ประชากรเกือบสองในเจ็ดของออสเตรเลียเกิดในต่างประเทศ หลังจากการเลิกนโยบายออสเตรเลียขาวในปี พ.ศ. 2516 รัฐบาลออสเตรเลียได้พยายามส่งเสริมความสามัคคีระหว่างเชื้อสายต่าง ๆ บนพื้นฐานของพหุวัฒนธรรม ในช่วงปี พ.ศ. 2548 ถึง 2549 มีผู้อพยพเข้ามากกว่า 131,000 คน ส่วนใหญ่มาจากทวีปเอเชียและโอเชียเนีย

ฟิจิ (Fiji)

ฟิจิ
ที่ตั้ง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากออสเตรเลียไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2,880 กิโลเมตร
พื้นที่ ฟิจิประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 332 เกาะ มีพื้นที่ทั้งหมด 18,333 ตารางกิโลเมตร มีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 1,260,000 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง กรุงซูวา (Suva) ตั้งอยู่บนเกาะ Viti Levu มีประชากรประมาณ 167,000 คน เกาะใหญ่อีกแห่งคือ เลาโตกา (Lautoka) มีประชากรประมาณ 30,000 คน
ภูมิประเทศ เกาะ หินภูเขาไฟ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและมีพื้นที่ราบเพียงเล็กน้อย มีแร่ธรรมชาติ เช่น ทอง เงิน ทองแดง แมงกานีส ในเกาะ Viti Levu มีบ่อน้ำพุร้อนและหุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าไม้ และต้นมะพร้าวบริเวณชายฝั่ง บริเวณที่แห้งแล้งเป็นทุ่งหญ้า หรือใช้ในการทำไร่อ้อย

ภูมิอากาศ ภูมิอากาศเขตร้อน และอยู่ในเขตมรสุม
ประชากร 853,445(ปี 2549)
เชื้อชาติ ชาวพื้นเมืองฟิจิร้อยละ 54 และชาวฟิจิเชื้อสายอินเดีย ร้อยละ40
ศาสนา คริสต์ (นิกาย Methodist) ฮินดู มุสลิม
ภาษา อังกฤษ (ทางการ) ฟิเจียน และฮินดี
หน่วยเงินตรา ฟิจิดอลลาร์ (F$) (1 ฟิจิดอลลาร์เท่ากับประมาณ 0.5947 ดอลลาร์สหรัฐ)
วันชาติ 10 ตุลาคม 2513 (ค.ศ. 1970) ซึ่งเป็นวันที่ฟิจิได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร
GDP ประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
GDP Per Capita ประมาณ 3,514 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
Real GDP Growth ร้อยละ 2.6
อุตสาหกรรม น้ำตาล ท่องเที่ยว เสื้อผ้าสำเร็จรูป
สินค้าส่งออก น้ำตาล เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทอง ไม้ น้ำมันมะพร้าว ปลา น้ำเปล่าบรรจุขวด
ตลาดส่งออก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร
สินค้านำเข้า สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร
ตลาดนำเข้า ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ

ปาปัว นิว กีนี

ปาปัว นิว กีนี
ที่ตั้ง ทิศตะวันตกของภูมิภาคแปซิฟิกใต้ มีพรมแดนติดกับจังหวัดปาปัวตะวันตกของอินโดนีเซีย โดยตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของเกาะ New Guinea ซึ่งเป็นเกาะเขตร้อนขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากออสเตรเลียไปทางทิศเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร
พื้นที่ 452,860 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะขนาดใหญ่ 3 เกาะ และเกาะเล็กๆ อีกกว่า 600 เกาะ เขตเศรษฐกิจจำเพาะ 3,120,000 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง กรุงพอร์ตมอร์สบี (Port Moresby) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะนิวกินี ประชากรประมาณ 320,000 คน และเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศ
ภูมิประเทศ มีลักษณะเป็นภูเขาและชายฝั่งทะเล
ภูมิอากาศ ภูมิอากาศเขตร้อน (tropical) และอยู่ในเขตลมมรสุม
ประชากร 5,670,544 คน (ปี 2549)
ภาษา อังกฤษ (ทางการ) อังกฤษพิดจิน (Pidgin English) โมตู (Motu) และมีภาษาพื้นเมืองของเผ่าต่าง ๆ ประมาณ 715 ภาษา
ศาสนา คริสต์ นิกาย Roman Catholic ร้อยละ 22 นิกาย Lutheran ร้อยละ 16 นิกาย Protestant ร้อยละ 10 ความเชื่อพื้นเมือง ร้อยละ 34 และอื่นๆ ร้อยละ 18
หน่วยเงินตรา คีน่า (Kina) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 3.0189 คีน่า (ปี 2549)
วันชาติ 16 กันยายน (ปาปัวนิวกินีได้รับเอกราชในปี 2518)
GDP 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
GDP per capita 662 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)
Real GDP Growth ร้อยละ 3.7 (2549)
อุตสาหกรรม มะพร้าวแห้ง น้ำมันปาล์ม ไม้อัด ทอง เงิน ทองแดง ก่อสร้าง ท่องเที่ยว น้ำมันดิบ
สินค้าส่งออก ทอง น้ำมันดิบ ทองแดง สินค้าเกษตร ซุง กาแฟ
ตลาดส่งออก ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ จีน
สินค้านำเข้า เครื่องจักร สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร น้ำมัน
ตลาดนำเข้า ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ นิวซีแลนด์ มาเลเซีย

ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์

คู่มือท่องเที่ยวนิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์ หมายถึง "ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว" หรือ Niu Tireni [นิวทิเรนี] ซึ่งเป็นการทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ) เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ - นิวซีแลนด์มีเมืองหลวงชื่อเวลลิงตัน (Wellington)

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ห่างไกลจากประเทศอื่น ๆ มากที่สุด ประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุดคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะใหญ่ 2,000 กิโลเมตร โดยที่มี ทะเลแทสมันกั้นกลาง ดินแดนเดียวที่อยู่ทางใต้คือทวีปแอนตาร์กติกา และทางเหนือคือนิวแคลิโดเนีย ฟิจิ และตองกา
"นิวซีแลนด์?ดินแดนแห่งทิวหมอกขาว"- The Land of The Long White Cloud"

ประเทศ นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ห่างจากประเทศออสเตรเลียมาทางทิศตะวันออก 1,600 กิโลเมตร ประเทศนิวซีแลนด์ประกอบด้วย 2 เกาะหลัก คือ เกาะเหนือ (North Island) และเกาะใต้ (South Island) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า ประเทศอังกฤษเล็กน้อย และใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น และยังมีเกาะเล็ก ๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะเกาะเล็กซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะใต้ มีชื่อเรียกว่า เกาะสจ๊วต (Stewart Island).

ประเทศนิวซีแลนด์ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 270,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีช่องแคบคุ๊กเป็นจุดแบ่งเขตระหว่างพื้นที่ของเกาะเหนือและเกาะใต้ ซึ่งจัดเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ราวกับว่าประเทศเล็กๆ นี้ได้รวบรวมสภาพพื้นที่ และบรรยากาศของนานาประเทศทั่วโลก ไว้อย่างครบถ้วน เพราะนิวซีแลนด์ประกอบไปด้วยชายหาดทอดยาว กว่า 1,700 กิโลเมตร รับกับมหาสมุทรสีครามที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งบริเวณที่เป็นบ่อน้ำร้อน ภูเขาไฟ บ่อโคลนเดือด ฟยอร์ด และซาวนด์ อันสวยงามและน่าพิศวงยิ่งนัก


เกาะเหนือ
 ตอนที่ 1 - กรุงเทพ - สิงคโปร์ - โอ๊คแลนด์
 ตอนที่ 2 - โอ๊คแลนด์ - ตูรังกา - โรโตรัว
 ตอนที่ 3 - โรโตรัว - เตาโป
 ตอนที่ 4 - เตาโป - ทองการีโร่ - วังกานุย - สแตรทฟอร์ด - นิว พลีมัธ
 ตอนที่ 5 - นิวพลีมัธ - เม้าท์ทารานากิ - พลิมเมอร์ตัน

เกาะเหนือ สู่ เกาะใต้ การ เดินทางจากเกาะเหนือสู่เกาะใต้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือเฟอร์รี่ ข้ามฟากระหว่างท่าเรือ Wellington (เกาะเหนือ) - ท่าเรือ Picton (เกาะใต้) ตลอดระยะทาง 92 กิโลเมตร เราจะได้สัมผัสกับการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากในบรรยากาศที่สวยที่สุด ในโลก สำหรับบริการเรือข้ามฟากจะมีสองรายใหญ่ๆ และเป็นที่รู้จักคือ Bluebridge cook strait ferry และ InterIslander ferry เราสามารถจองตั๋วเรือผ่านทางเว็บไซต์หรือสามารถไปซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ แต่พวกเราเลือกที่จะจองผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อความสะดวก และ รวดเร็ว




แหล่งท่องเที่ยวในกวม

แหล่งท่องเที่ยวในกวม

ท่องเที่ยวโอมาน (Oman)

คู่มือท่องเที่ยวโอมาน (Oman)
โอมาน (Oman) หรือชื่อทางการว่า รัฐสุลต่านโอมาน (Sultanate of Oman) เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ มีพรมแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางตะวันตกติดกับซาอุดีอาระเบีย และทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเยเมน มีชายฝั่งบนทะเลอาหรับทางใต้และตะวันออก และอ่าวโอมานทางตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ก็ยังมีดินแดนส่วนแยกอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย ลักษณะของพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและภูเขา มีชายฝั่งทะเลยาว 2,092 กิโลเมตร

เมืองหลวง กรุงมัสกัต (Muscat)

เมืองสำคัญ Matrah, Ruwi, Nizwa, Salalah, Sohar

ศาสนา ร้อยละ 82 นับถือศาสนาอิสลาม (สำนัก Ibadhi เป็นส่วนมาก และ นิกายสุหนี่และชีอะต์อีกเล็กน้อย) ร้อยละ 12 นับถือศาสนาฮินดูและคริสต์

ภาษาอาหรับ และมีการใช้ภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย

หน่วยเงินตรา โอมานริยาล (Omani Rial) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ
เท่ากับ 0.38 ริยาล หรือ 1 ริยาลประมาณ 110 บาท

ภูมิอากาศ
โอมานสามารถแบ่งเขตลักษณะภูมิอากาศได้ ดังนี้

เขต กึ่งทะเลทราย-ร้อนแห้งแล้ง และอบอุ่นแห้งแล้ง ปรากฏอยู่เป็นแนวแคบๆ แถบภูเขาสูงชายฝั่งอ่าวโอมาน พืชพรรณ เป็นไม้พุ่มเตี้ย ไม้หนาม หญ้าทนแล้งประเภทต่างๆ

เขตทะเลทราย-แห้งแล้งจัดตลอดปี ปรากฏกระจายครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายรับอัลคาลิ พืชพรรณ อินทผลัม กระบองเพชร ไม้พุ่มประเภทหนาม



ท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates)

คู่มือท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates)
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) เป็นประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอาหรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ริมอ่าวเปอร์เซีย ประกอบด้วยรัฐเจ้าผู้ครองนคร (emirates) 7 รัฐ ได้แก่ อาบูดาบี อัจมาน ดูไบ ฟูไจราห์ ราสอัลไคมาห์ ชาร์จาห์ และอุมม์อัลไกไวน์ ในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2514 กลุ่มรัฐดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อ รัฐสงบศึก (Trucial States) หรือ ทรูเชียลโอมาน (Trucial Oman) โดยอ้างอิงตามสัญญาสงบศึกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระหว่างอังกฤษกับเชคอาหรับบางพระองค์

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีพรมแดนติดกับโอมาน ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ เป็นประเทศหนึ่งที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน

ทิศ เหนือเป็นทะเลอ่าวเปอร์เซียหรืออ่าวอาหรับ ทิศตะวันออกติดกับโอมานและอ่าวเปอร์เซียบริเวณ ใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ (Hormuz) และบริเวณอ่าวโอมาน ทิศใต้และตะวันตกติดกับโอมานและซาอุดีอาระเบีย

เมืองหลวง กรุงอาบูดาบี (Abu Dhabi)

ศาสนา ศาสนาอิสลามร้อยละ 96 (สุหนี่ร้อยละ 80 ชีอะต์ ร้อยละ 16) ฮินดู คริสต์ และอื่นๆ ร้อยละ 4

ภาษา
ภาษา อาหรับเป็นภาษาราชการ ภาษาอังกฤษมีการใช้อย่างกว้างขวาง และภาษาฟาร์ซี (Farsi) มีการใช้ระหว่างชาวอิหร่านที่พำนักอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ภูมิอากาศ มี 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อนและฤดูหนาว
เดือน พฤษภาคมถึงกันยายนอากาศร้อนจัดและความชื้นสูง อุณหภูมิประมาณ 32-48 องศาเซลเซียส เดือนตุลาคมถึงเมษายนเป็นฤดูหนาวซึ่งอากาศไม่หนาวมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ย 15-30 องศาเซลเซียส

หน่วยเงินตรา ดีแรห์ม (Dirham) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 3.6 ดีแรห์ม หรือ 1 ดีแรห์ม เท่ากับประมาณ 10 บาท

สังคม
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เหมือนกับประเทศอ่าวอื่นๆ ที่ให้สวัสดิการกับประชาชนสูงในด้านสาธารณสุข การเคหะ และการดำรงชีพ มีการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีมาตรฐานการดำรงชีพสูงเป็นอันดับต้นของตะวันออกกลาง มีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และสตรีมีเสรีภาพในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ สูง เมื่อเทียบกับสังคมประเทศอาหรับทั่วไป

- สำหรับคนชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และชุมชนชาวต่างชาติที่มีรายได้สูง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับว่ามีสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่มั่นคง แต่สำหรับแรงงานที่มีรายได้ต่ำจะประสบความยากลำบาก เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและการที่ระดับการคุ้มครองของรัฐยังไม่สูงพอ ในกรณีที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง

ผู้แทนทางการทูต
ฝ่ายไทย
Royal Thai Embassy
East 18/1, District 80, Al Murror Road,
4th Street,Oppcrsitc Al Falah Plaza,
P.O, Box,47466, Abu Dhabi
Tel. (971-2) 6421772
Fax. (971-2) 6421773
E-mail : thaiauh@emirates.net.ae

ฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
The Embassy of the United Arab Emirates
82 Saeng Thong Thani Bldg., 25th Fl.,
North Sathorn Road,
Bangkok 10500
Tel: 0-2639-9820-4
Fax: 0-2639-9818
Consular Fax: 0-2639-9800

ท่องเที่ยวประเทศอิหร่าน (Iran)

คู่มือท่องเที่ยวประเทศอิหร่าน (Iran)
ประเทศอิหร่าน (Iran) เป็นประเทศในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งช่วงก่อนปี พ.ศ. 2478 ชาวตะวันตกเรียกว่า เปอร์เซีย

อิหร่าน มีพรมแดนทางทิศตะวันออกติดต่อกับปากีสถาน (909 กิโลเมตร) และอัฟกานิสถาน (936 กิโลเมตร) ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับเติร์กเมนิสถาน (1,000 กิโลเมตร) ทิศเหนือจรดทะเลแคสเปียน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดต่อกับอาเซอร์ไบจาน (500 กิโลเมตร) และอาร์เมเนีย (35 กิโลเมตร) ตุรกี (500 กิโลเมตร) และอิรัก (1,458 กิโลเมตร) ส่วนทิศใต้จรดอ่าวเปอร์เซีย (ทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้) และ อ่าวโอมาน (ทิศตะวันออกเฉียงใต้)

ในปี พ.ศ. 2522 การปฏิวัตินำโดยอายะตุลลอห์ โคไมนี (Ayatollah Khomeini) ทำให้มีการก่อตั้งเป็น สาธารณรัฐอิสลามโดยโค่นล้มราชวงศ์ปาห์เลวีที่ปกครองภายใต้สาธารณรัฐอิสลามเท วาธิปไตย (theocratic Islamic republic) ทำให้ชื่อเต็มของประเทศนี้ในปัจจุบันคือ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน (Islamic Republic of Iran)

เมืองหลวง
กรุงเตหะราน (Tehran)

ภูมิศาสตร์
ลักษณะ ภูมิประเทศมากกว่าร้อยละ 95 เป็นที่สูงในลักษณะของเทือกเขาสูงและที่ราบสูง เทือกเขาสูงที่ปรากฏในอิหร่านมี 2 เทือกเขาคือ เทือกเขาเอลบูร์ซทางตอนเหนือวางตัวขนาน กับชายฝั่งทะเลแคสเปียน และเทือกเขาซากรอส วางตัวขนานกับอ่าวเปอร์เซีย ทั้ง 2 เทือกเขา วางตัวแยกออกมาจากอาณเมเนียนนอต ขณะที่ที่ราบสูงจะอยู่ตอนกลางของประเทศเป็นที่ราบ ผืนใหญ่ครอบคลุมพื้นเกือบทั้งประเทศต่อเนื่องเข้าไปถึงอัฟกานิสถานและ ปากีสถาน ส่วน ภูมิประเทศชายฝั่งจะปรากฏอยู่ 2 บริเวณคือ ตอนเหนือเป็นชายฝั่งทะเลแคสเปียน ส่วนด้าน ตะวันตกเฉียงใต้ และด้านใต้เป็นชายฝั่งราบของทะเลบริเวณอ่าวเปอร์เซีย

ศาสนา
ศาสนาอิสลาม (เป็นนิกายชีอะต์ ร้อยละ 89 สุหนี่ร้อยละ 9)
ศาสนาคริสต์ ศาสนายิว และอื่นๆ ร้อยละ 2 (ปี 2549)

ภาษา ภาษาฟาร์ซี (Farsi) หรือภาษาเปอร์เซีย เป็นภาษาราชการ

วันชาต11 กุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นวันรำลึกถึงการปฏิวัติอิสลาม
(ทั้งนี้ วันประกาศสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน คือ 1 เมษายน 2522)

ทรัพยากรธรรมชาติ
ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน โครเมียม
ทองแดง สินแร่เหล็ก ตะกั่ว แมงกานีส สังกะสี และกำมะถัน

หน่วยเงิน
Iranian rials (IRR) โดย 1 US$ = 9,246.94 IRR (2549)

ผู้แทนทางการทูต
ฝ่ายไทย
Royal Thai Embassy
No. 4, Esteghlal Alley,
Baharestan Avenue
P.O. Box 11495-111 Tehran
Tel. (98-21) 7753-1433, 7764-3297-9
Fax. (98-21) 7753-2022
E-mail : info@thaiembassy-tehran.org
Website : http://www.thaiembassy-tehran.org
Office Hours :08.30 - 12.00 & 13.00 - 16.30
Days Off : Friday & Saturday


ฝ่ายอิหร่าน
The Embassy of the Islamic Republic of Iran
215 Sukhumvit Road,
Sukhumvit Soi 49 (Soi Klang)
Khlong Tan Nuea, Wattana
Bangkok 10110
Tel: 0-2390-0871-3
Fax: 0-2390-0867
E-mail: Info@iranembassy.or.th
Website: http://www.iranembassy.or.th
Office Hours: 09.00 - 16.30 (Monday - Friday)

ท่องเที่ยวรัฐอิสราเอล (State of Israel)

คู่มือท่องเที่ยวรัฐอิสราเอล (State of Israel)
รัฐอิสราเอล (State of Israel) เป็นประเทศใน ทวีปยุโรป และ ตะวันออกกลาง ปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และเป็น "รัฐยิว" ตามนโยบายแห่งชาติ ประชากรของอิสราเอลส่วนใหญ่เป็นชาวยิว โดยมีชนกลุ่มน้อยขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่ชาวยิว ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลามหรือศาสนาคริสต์

อิสราเอล มีพรมแดน (ตามเข็มนาฬิกา) ติดกับประเทศเลบานอน ซีเรีย จอร์แดน และอียิปต์ อิสราเอลมีชายฝั่งบนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อ่าวไอลัต/อะกาบา (อะกอบะหฺ) (Gulf of Eilat / Aqaba) และทะเลเดดซี กำเนิดของชาวฮิบรูเริ่มขึ้นเมื่อ 4,000 ปีก่อน โดยบรรพบุรุษของอับราฮัม (อิบรอฮิม) ได้พาครอบครัวของตนอพยพออกมาจากนครอูร์ (ur)หรือเมืองคลาเดีย ในดินแดนเมโสโปเตเมียของอาณาจักรสุเมเรีย ด้วยเกิดความขัดแย้งเรื่องความเชื่อกับกษัตริย์นิมรูค (numruk) ผู้ปกครองนครอูร์ ซึ่งอับราฮัมเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีเพียงพระองค์เดียว ขัดกับชาวนครอูร์ที่นับถือพระเจ้าหลายองค์ และส่วนใหญ่นับถือบูชาเทพเจว็ด

เมืองหลวง
กรุงเทลอาวีฟ

ที่ตั้ง ทวีปเอเชีย โดยอยู่กึ่งกลางระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกา
- ทิศเหนือ ติดกับเลบานอน
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับซีเรีย
- ทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับจอร์แดนแม่น้ำจอร์แดน และ Dead Sea
- ทิศตะวันตก ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- ทิศใต้ ติดกับอ่าว Aqaba (Red Sea)
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับคาบสมุทรไซนาย อียิปต์

ภาษา
ภาษา Hebrew และ Arabic เป็นภาษาราชการแต่ประชาชนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี

ศาสนา
ศาสนา ยูดายร้อยละ 76.4 มุสลิม ร้อยละ 16 ชาวอาหรับที่เป็นคริสเตียน ร้อยละ 1.7 คริสเตียน ร้อยละ 0.4 ดรูซ ร้อยละ 1.6 และอื่นๆ ร้อยละ 3.9

หน่วยเงินตรา NIS (New Israeli Shekel) หน่วยย่อยของเงิน NIS เรียกว่า Agorot (1 NIS = 100 Agorot)

ระบอบการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา

ผู้แทนทางการทูต

ฝ่ายไทย
Royal Thai Embassy
21 Shaul Hamelech Blvd.
Tel Aviv 64367
Tel. (972-3) 695-8980, 695-8984
Fax. (972-3) 695-8991
E-mail : thaisr@netvision.net.il
kasivat@hotmail.com
Website : http://www.thaiembassy.org/telaviv

ฝ่ายอิสราเอล
Embassy of Israel
Ocean Tower II, 25th Fl.,
75 Sukhumvit Soi 19,
Bangkok 10110
Tel: 0-2204-9200
Fax: 0-2204-9255
E-mail: info@bangkok.mfa.gov.il
Website: http://bangkok.mfa.gov.il


ท่องเที่ยวสาธารณรัฐเลบานอน (lebanon)

คู่มือท่องเที่ยวสาธารณรัฐเลบานอน (lebanon)
สาธารณรัฐเลบานอน (lebanon) เป็นประเทศในเอเชียตะวันตก เฉียงใต้ ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และถือเป็นหนึ่งใน 15 ดินแดนที่ประกอบเป็น "แหล่งกำเนิดแห่งมนุษยชาติ" (Cradle of Humanity) เลบานอนมีพรมแดนติดกับประเทศซีเรียและประเทศอิสราเอล พรมแดนที่ติดกับประเทศอิสราเอลได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติแล้ว แต่พื้นที่บางส่วน เรียกว่า "ชีบาฟาร์ม" (Shebaa farms) ตั้งอยู่ในที่ราบสูงโกลันยังคงครอบครองโดยอิสราเอล ซึ่งอ้างว่าเป็นพื้นที่ของซีเรีย กองทัพต่อต้านอ้างว่า "ชีบาฟาร์ม" เป็นพื้นที่ของเลบานอน และในบางโอกาสก็โจมตีที่มั่นของอิสราเอลภายในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ซีเรียบำรุงรักษากองทัพที่มีทหารประมาณ 14,000 นายในเลบานอน ชาวเลบานอนที่สนับสนุนเลบานอนอ้างว่าเป็นการอยู่อย่างถูกต้องเนื่องจาก รัฐบาลเลบานอนได้ขอไว้ ตอนเริ่มสงครามกลางเมืองเมื่อ พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) ผู้ที่ไม่เห็นด้วยอ้างว่า การอยู่ของซีเรียเป็นประหนึ่งการยึดครองโดยอำนาจต่างชาติ

เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2549 เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลลอหฺ อิสราเอลยกกำลังสามเหล่าทัพโจมตีประเทศเลบานอน

เมื่องหลวง
กรุงเบรุต (Beirut)

เชื้อชาต
อาหรับร้อยละ 95 อาร์เมเนียนร้อยละ 4 และอื่น ๆ ร้อยละ 1

วันสถาปนาประเทศ
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2486 (1943)

ภาษา ภาษาอาหรับและฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการชาวเลบานอน ส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้

ศาสนา
อิสลาม ร้อยละ 59.7 (นิกายชีอะต์ ประมาณ ร้อยละ 35 และนิกายสุหนี่ ประมาณ ร้อยละ 21) คริสต์ร้อยละ 39 (Maronites, Greek Orthodox, Armenian Apostolic, Melkite Greek Catholics และ Chaldean Catholic) Druze ร้อยละ 5 และอื่น ๆ ร้อยละ 1.3

เวลา
ช้ากว่าไทย 4.5 ชั่วโมง



ท่องเที่ยวประเทศเยเมน (Yemen)

คู่มือท่องเที่ยวประเทศเยเมน (Yemen)
ประเทศเยเมน (Yemen) หรือ สาธารณรัฐเยเมน (Republic of Yemen) ประกอบด้วยอดีตเยเมนเหนือและเยเมนใต้ เป็นประเทศในคาบสมุทรอาหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และเป็นส่วนหนึ่งของตะวันออกกลาง มีชายฝั่งจรดทะเลอาหรับและอ่าวเอเดนทางทิศใต้ จรดทะเลแดงทางทิศตะวันตก มีพรมแดนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับโอมาน ส่วนพรมแดนด้านอื่น ๆ ติดกับซาอุดีอาระเบีย

ศาสนา ศาสนาอิสลาม (ฝ่ายสุหนี่) นอกจากนั้นยังมีชนกลุ่มน้อย ส่วนหนึ่งนับถือศาสนายิวและศาสนาคริสต์
เยเมนมีอาณาเขตรวมถึงเกาะโซโคตราซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ประมาณ 350 กิโลเมตร นอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก

ขนาดพื้นที่ 536,869 ตารางกิโลเมตร

ประชากร
21.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับ มีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายแอฟโร-อาหรับ และเอเชียใต้ (อินเดีย) จำนวนหนึ่ง

ภาษา ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่ใช้กันโดยทั่วไป

เมืองหลวง ซานอา (Sana’a)

เมืองสำคัญ
เมือง Aden เมือง Hodeidah และเมือง Taiz

หน่วยเงินตรา ริยาล (Yemeni Riyal) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ
เท่ากับ 166.44 ริยาล

ท่องเที่ยวบาห์เรน (Bahrain)

คู่มือท่องเที่ยวบาห์เรน (Bahrain)
บาห์เรน (Bahrain) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ราชอาณาจักรบาห์เรน (Kingdom of Bahrain) ตั้ง อยู่ในอ่าวเปอร์เซีย แต่เป็นประเทศเกาะที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่น ๆ ในอ่าวเปอร์เซีย เกาะบาห์เรนประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ประมาณ 33 เกาะในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งห่างจากฝั่งทะเลตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย 24 กิโลเมตรและห่างจากชายฝั่งทะเลตะวันตกของกาตาร์ 27 กิโลเมตร
เกาะ บาห์เรนเชื่อมต่อกับซาอุดีอาระเบียซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกด้วยสะพานคิงฟาฮัด (เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529) ส่วนสะพานมิตรภาพกาตาร์-บาห์เรน ที่กำลังอยู่ในระหว่างวางแผนงานนั้น จะเชื่อมต่อบาห์เรนเข้ากับกาตาร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ และจะเป็นสะพานขึงที่ยาวที่สุดในโลก

เมืองหลวง
กรุงมานามา (Manama)

ภูมิอากาศ
ช่วง ฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 19 - 29 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูร้อน (เดือนเมษายน-ตุลาคม) อุณหภูมิอาจสูงถึง 49 องศาเซลเซียส

เชื้อชาต
ชาวบาห์เรน 62.4%, อื่นๆ 37.6%

ภาษา
อาหรับ (ภาษาอังกฤษก็ใช้กันอย่างกว้างขวาง)

ศาสนาอิสลาม (ชีอะห์และสุหนี่) 85% คริสต์และอื่นๆ 15%

วันชาติ
16 ธันวาคม

วันประกาศเอกราช
15 สิงหาคม (ได้รับเอกราชจากอังกฤษปี 2514)

เวลา
ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง



ท่องเที่ยวประเทศซีเรีย (Syria)

คู่มือท่องเที่ยวประเทศซีเรีย (Syria)
ประเทศซีเรีย (Syria) หรือ สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย (Syrian Arab Republic) เป็นประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับ (จากใต้ไปเหนือ) ประเทศเลบานอน ประเทศอิสราเอล ประเทศจอร์แดน ประเทศอิรัก และประเทศตุรกี พรมแดนกับประเทศอิสราเอลยังคงเป็นกรณีพิพาท จนกว่าจะมีการสะสางข้อโต้แย้งที่ยังค้างอยู่ เกี่ยวกับการครองครองที่สูงโกลัน (Golan Heights)

เมืองหลวง
กรุงดามัสกัส (Damascus)

ภูมิอากาศ
ชาย ฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนอากาศชื้น ตอนกลางและทางตะวันออกมีอุณหภูมิสูงในหน้าร้อนถึง 43 องศาเซลเซียส ในหน้าหนาวมีอากาศที่พอเหมาะ มีความหนาวเย็นในบางครั้ง ทางเหนือมีฝนตกจำนวนมาก

เชื้อชาติ อาหรับร้อยละ 90.3 เคอร์ดส์ อาร์เมเนียน และอื่น ๆ ร้อยละ 9.7

ภาษา
อาหรับเป็นภาษาราชการ ฝรั่งเศส อังกฤษ ใช้กันอย่างกว้างขวาง

ศาสนา
มุสลิม (สุหนี่) ร้อยละ 74 Alawite, ดรูซและมุสลิมนิกายอื่น ๆ ร้อยละ 16 คริสเตียนร้อยละ 10

วันชาติ 17 เมษายน 2589

เวลา ช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง



ท่องเที่ยวประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia)

คู่มือท่องเที่ยวประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia)
ประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) หรือ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางบนคาบสมุทรอาหรับ มีพรมแดนติดกับประเทศอิรัก จอร์แดน คูเวต โอมาน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเยเมน ติดอ่าวเปอร์เซียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลแดงทางทิศตะวันตก

เมืองหลวง กรุงริยาด (Riyadh)

เมืองสำคัญ เจดดาห์ (Jeddah) มักกะห์ (Makkah) ทาอีฟ (Taif)
เมดินา (Medina) และดัมมัม (Dammam)

ประชากร ประมาณ 27 ล้านคน 90 % เป็นเผ่าอาหรับ 10 % เป็นแอฟริกัน ทั้งนี้รวมคนต่างชาติประมาณ 5.5 ล้านคน (ปี 2549)

ศาสนา อิสลาม (ส่วนใหญ่นับถือสุหนี่ มีชีอะห์ประมาณ 5 แสนคน)

ภาษาราชการ อาหรับ

หน่วยเงินตรา
ริยาล (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 3.75 ริยาล / 1 ริยาล ประมาณ10.5 บาท)



ท่องเที่ยวจอร์แดน (Jordan)

คู่มือท่องเที่ยวจอร์แดน (Jordan)
จอร์แดน (Jordan) หรือ ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน (Hashemite Kingdom of Jordan) เป็นประเทศในตะวันออกกลาง มีพรมแดนติดกับประเทศซีเรียทางทิศเหนือ ติดต่อกับอิรักทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดต่อกับซาอุดีอาระเบียทางทิศตะวันออกและทิศใต้ รวมทั้งติดต่อกับอิสราเอลและดินแดนที่อิสราเอลครอบครองทางทิศตะวันตก

จอร์แดน มีชายฝั่งทะเลเดดซีร่วมกับอิสราเอลและดินแดนที่อิสราเอลครอบครอง มีชายฝั่งอ่าวอะกอบาร่วมกับอิสราเอล ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์

เมืองหลวง กรุงอัมมาน (Amman)

เมืองสำคัญ
เมืองซาร์กา (Zarka) เมืองอีร์บิด (Irbid) และเมืองท่าอะกาบา (Aqaba)

ภูมิอากาศ อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างแห้งแล้ง มีปริมาณฝนตกน้อย กลางวันมีแดดจัดและอากาศเย็นในเวลากลางคืน อุณหภูมิฤดูร้อนเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส
และอุณภูมิฤดูหนาวเฉลี่ย 8 องศาเซลเซียส

เชื้อชาต
อาหรับ (98%) เซอร์คัสเซียน (1%) และอาร์มาเนียน (1%)

ภาษา อาหรับเป็นภาษาราชการ แต่ชาวจอร์แดนส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้

ศาสนา
อิสลามร้อยละ 98 (สุหนี่ร้อยละ 92 ชีอะห์ร้อยละ 6) และ คริสเตียนร้อยละ 1 อื่นๆร้อยละ 1

วันประกาศเอกราช25 พฤษภาคม

เวลา
ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง
สกุลเงิน จอร์แดนดีนาร์ (Jordanian dinar: JOD)

อัตราแลกเปลี่ยน
1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 0.708 จอร์แดนดินาร์ หรือ 1 จอร์แดนดินาร์ เท่ากับประมาณ 46 บาท (2549)


ท่องเที่ยวรัฐคูเวต (State of Kuwait)

คู่มือท่องเที่ยวรัฐคูเวต (State of Kuwait)
รัฐคูเวต (State of Kuwait) เป็นรัฐเจ้าผู้ครองนคร (emirate) ที่มีขนาดเล็กและมีน้ำมันอยู่มาก ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ริมชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศซาอุดีอาระเบีย และพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศอิรัก

เมืองหลวง Kuwait City

ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศแบบทะเลทราย ช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม อากาศร้อนจัด ส่วนช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศหนาว

เชื้อชาติ
คูเวตร้อยละ 45, อาหรับอื่นๆร้อยละ 35, อื่นๆร้อยละ 20

ภาษาราชการ อาหรับ ภาษาอังกฤษใข้กันอย่างแพร่หลาย

ศาสนา อิสลามร้อยละ 95 (ชีอะห์ร้อยละ 30 ซุนหนี่ 65)
คริสเตียนร้อยละ 4.5

วันชาติ (National Day) 25 กุมภาพันธ์

เวลา
ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง
สกุลเงิน
คูเวตดีนาร์ Kuwait Dinars (KWD)

อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 0.289 KWD (2549)

รูปแบบการเมือง
 ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Hereditary Emirate)
 His Highness Sheikh Sabah Al-Ahmad Al-Jaber Al-Sabah ได้ทรงมีพระราชดำรัสต่อประชาชนชาวคูเวต ในโอกาสขึ้นครองราชย์เป็นเจ้าผู้ครองรัฐคูเวต แสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัย โดยประชาชนทุกคนมีความเสมอภาค มีอิสระเสรีภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และมีสิทธิเสรีในการแสดงความคิดเห็น



ท่องเที่ยวประเทศกาตา

คู่มือท่องเที่ยวประเทศกาตา
ประเทศกาตาร์ หรือ รัฐกาตาร์ (State of Qatar) เป็นรัฐเจ้าผู้ครองนคร (emirate) ในตะวันออกกลางตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดเล็กที่แตกมาจากคาบสมุทรอาหรับ
ดังนั้นมันจึงเป็นประเทศมุสลิมในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพียงประเทศเดียวที่มีสภาพเป็นเกาะ
มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีชายฝั่งริมอ่าวเปอร์เซีย
ประเทศกาตาร์ เป็นแหลมยื่นจากชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรอาระเบียออกไปในอ่าวเปอร์เซีย
ทิศใต้และทิศตะวันตกติดกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับบาห์เรน

กาตาร์เป็นประเทศอิสลาม ดังนั้นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้หญิง
ควรแต่งกายให้มิดชิด ปิดไหล่และขา
เลี่ยงการใส่มินิสเกิร์ตและกางเกงขาสั้น
ห้ามนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นเรื่องผิดกฏหมาย
คู่รักควรหลีกเลี่ยงการแสดงออก เช่น การจับมือ กอด จูบ
เนื่องจากวัฒนธรรมของที่นี่ไม่อนุญาติ

เมืองหลวง
กรุงโดฮา (Doha)

เมืองสำคัญ Umm Said, Al-Khor, Dakhan, Wakrah, Madinet, Al-Shamal

ภาษา ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ และภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง

ศาสนา ประชากรร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่และศาสนาอื่นๆ อีกร้อยละ 5

หน่วยเงินตรา กาตาร์ริยาล (Qatar Riyal) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ
เท่ากับ 3.65 กาตาร์ริยาล หรือ 1 กาตาร์ริยาล เท่ากับประมาณ 11 บาท




ท่องเที่ยวอาร์เจนตินา

คู่มือท่องเที่ยวอาร์เจนตินา
อาร์เจนตินา หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐอาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในประเทศในทวีปอเมริกาใต้ (ละตินอเมริกา) ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาแอนดีสทางทิศตะวันตก และมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ มีพรมแดนจดประเทศปารากวัยและประเทศโบลิเวียทางภาคเหนือ จดประเทศอุรุกวัยและประเทศบราซิลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจดประเทศชิลีทางภาคตะวันตกและภาคใต้ อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของทวีปอเมริกาใต้ รองจากบราซิล และมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของโลก

เมืองหลวง
กรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires)

ภูมิอากาศ
โดยทั่วไปมีอุณหภูมิแตกต่างกันระหว่างพื้นที่ภาคเหนือและใต้ของประเทศ
ภาคเหนือ - อากาศกึ่งร้อนกึ่งอบอุ่น (ฤดูร้อน 23-37 เซลเซียส / ฤดูหนาว 5-22 เซลเซียส)
ภาคใต้ - อากาศหนาวและฝนตก (ฤดูร้อน 10-21 เซลเซียส / ฤดูหนาว ต่ำกว่า 0 เซลเซียส)
บริเวณ ใต้สุดของประเทศมีลักษณะอากาศแบบแอนตาร์กติกซึ่งเป็นน้ำแข็งตลอดทั้งปี ทั้งนี้ บริเวณที่ราบแปมปัส (Pampas plains) มีอากาศอุ่นและชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมีนาคม และ 12 องศาเซลเซียส ตั้งแต่มิถุนายน ถึง กันยายน

เมืองสำคัญ
Federal District, CÓrdoba, Santa Fe, Mendoza, Tucumán

ภาษา ภาษาสเปน เป็นภาษาราชการ

ศาสนา
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกร้อยละ 92 โปรแตสแตนท์ ร้อยละ 2 ยิว ร้อยละ 2 และอื่นๆ ร้อยละ 4

วัฒนธรรม
คน ประเทศอาร์เจนตินา มีวิธีการทักทายกัน โดยสำหรับผู้หญิงกับผู้หญิง ที่เจอกันครั้งแรก จะเอาแก้มขวามาชนกัน สำหรับผู้ชายกับผู้ชายที่มีการเจอกันครั้งแรก จะจับมือกัน แต่ถ้ามีการสนิทสนมกันมากขี้นแล้ว ก็จะนำแก้มมาชนแก้มเช่นเดียวกันกับผู้หญิง หรือถ้าสนิทกันมากกว่านั้น ก็จะกอดกัน ถ้าเป็นกระเทยกับผู้ชายก็จะจับอวัยวะเพศของฝ่ายตรงข้าม

เชื้อชาติ ผิวขาว (ส่วนใหญ่มีเชื้อสายสเปนและอิตาเลียน) ร้อยละ 97
และอื่นๆ (เมสติโซ – ผิวขาวผสมชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง ชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง และกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ชาวผิวขาว) ร้อยละ 3

หน่วยเงินตรา
เปโซ (Argentine Peso: ARS): 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 3.14 เปโซ (ณ วันที่ 7 ส.ค. 2550)

เวลาต่างจากไทย ช้ากว่าไทย 10 ชั่วโมง



ท่องเที่ยวประเทศเวเนซุเอลา

คู่มือท่องเที่ยวประเทศเวเนซุเอลา
ประเทศเวเนซุเอลา หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา เป็นประเทศบนชายฝั่งด้านเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ติดกับทะเลแคริบเบียน ประเทศเวเนซุเอลามีพรมแดนติดกับประเทศกายอานาทางทิศตะวันออก ประเทศบราซิลทางทิศใต้ และประเทศโคลอมเบียทางทิศตะวันตก และมีหมู่เกาะนอกชายฝั่งที่อยู่ใกล้คือตรินิแดดและโตเบโก อารูบา และเนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส
เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมน้ำมัน เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมหลากหลาย โดยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ความหลากหลายทางชีวภาพสูง นอกจากนี้ ประเทศยังเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องนางงามและการประกวดนางงามมาก ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านนางงามอันดับเพราะของโลก โดยเวเนซุเอลามีนางงามจากเวทีใหญ่ทั้งสี่คือ นางงามจักรวาล(Miss Universe) 6 คน, นางงามโลก (Miss World) 5 คน, นางงามนานาชาติ (Miss International) 5 คนและ นางงามปฐพี 1 คน (Miss Earth)

เมืองหลวงการากัส (Caracas) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเวเนซุเอลา

ประชากร27.30 ล้านคน (2549)

ภูมิอากาศ
ร้อนชื้น (tropical) ถึงบริเวณเทือกเขามีอากาศเย็น

ภาษาสเปนเป็นภาษาทางการ แต่ยังคงใช้ภาษาท้องถิ่นของอินเดียนพื้นเมืองจำนวนอีก 31 ภาษา อาทิ ภาษา วายู (Wayuu) เพโมน (Pemon) วาเรา
(Warao) ยาโนมามิ (Yanomami) และกวาฮิโบ (Guajibo) เป็นต้น

ศาสนา
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 96

หน่วยเงินตราเวเนซุเอลาน โบลิวาร์ (โดย 2,144.60 เวเนซุเอลาน โบลิวาร์ มีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ)


ท่องเที่ยวประเทศปารากวัย

คู่มือท่องเที่ยวประเทศปารากวัย
ประเทศปารากวัย หรือชื่อทางการ สาธารณรัฐปารากวัย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทวีปอเมริกาใต้ ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำปารากวัย มีอาณาเขตจรดประเทศอาร์เจนตินาทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ จรดประเทศบราซิลทางทิศเหนือ และจรดประเทศโบลิเวียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อ ประเทศปารากวัยมีความหมายว่า "น้ำซึ่งไหลไปสู่น้ำ (water that goes to the water)" โดยมาจากคำในภาษากวารานี: ปารา (pará) แปลว่า มหาสมุทร, กวา (gua) แปลว่า สู่/จาก, และ อี (y) แปลว่า น้ำ วลีในภาษากวารานีมักจะอ้างถึงเมืองหลวงอะซุนซิออง แต่ในภาษาสเปนจะอ้างถึงทั้งประเทศ

ภูมิอากาศ
กึ่งร้อนชื้น

เมืองหลวง อซุนซิออน (Asuncion)

เมืองท่าสำคัญ
Asuncion, Villeta, San Antonio, Encarnacion

ภาษา สเปน (ภาษาราชการ) และ Guarani

ศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาธอลิก (90%) โปรเตสแตนต์และอื่นๆ (10%)

เชื้อชาติ Mestizo (สเปนผสมอินเดียนพื้นเมือง) (95%) ผิวขาวผสมอินเดียนพื้นเมือง (5%)

หน่วยเงินตราGuarani (G) โดย 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ = 6,230 Guarani

วันประกาศเอกราช14 พฤษภาคม 1811 จากสเปน

วันชาติ14 พฤษภาคม Independence Day



ท่องเที่ยวบราซิล (Brazil)

คู่มือท่องเที่ยวบราซิล (Brazil)
ในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีพื้นที่กว้างขวางระหว่างตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้และมหาสมุทรแอตแลนติก มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอุรุกวัย อาร์เจนตินา ปารากวัย โบลิเวีย เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา กายอานา ซูรินาเม และดินแดนเฟรนช์เกียนา — ทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ยกเว้นเอกวาดอร์และชิลี
ชื่อ "บราซิล" มาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า บราซิลวูด (Pau-Brasil ในภาษาโปรตุเกส) ซึ่งนำไปใช้ย้อมผ้าด้วยสีแดงจากเปลือกไม้ของมัน บราซิลเป็นดินแดนแห่งเกษตรกรรมและป่าเขตร้อน การที่บราซิลมีทรัพยากรธรรมชาติที่มากมายและมีแรงงานเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สูงที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ (สูงเป็นอันดับที่ 10 ของโลก) และเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในปัจจุบัน บราซิลใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการ

เมืองหลวง กรุงบราซิเลีย (Brasilia)

ภูมิประเทศ ทางตอนเหนือส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบและพื้นดินต่ำเป็นคลื่น บางแห่งของประเทศเป็นทุ่งกว้าง เนินเขา ภูเขา และมีแนวชายฝั่งแคบ

ภูมิอากาศ
อากาศอากาศร้อนชื้น ส่วนทางตอนใต้อากาศเย็นสบาย

ทรัพยากรธรรมชาติ
น้ำมัน ปิโตรเลียม บอกไซท์ ทองคำ แร่เหล็ก (เป็นผู้ส่งออกแร่และผลิตภัณฑ์เหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลก) แมงกานีส นิกเกิล ฟอสเฟต พลาตินัม ดีบุก ยูเรเนียม พลังน้ำ (hydropower) และไม้


ภาษา
โปรตุเกส (ภาษาราชการ) สเปน อังกฤษ และฝรั่งเศส

ศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (80%)

เชื้อชาติ ผิว ขาว (โปรตุเกส อิตาลี เยอรมัน สเปน โปแลนด์) (55%) ผิวผสมระหว่างผิวขาวและผิวดำ (38%) ผิวดำ 6% และอื่นๆ {ญี่ปุ่น อาหรับ ชาวอินเดียนพื้นเมือง (Amerindian)} (1%)



ท่องเที่ยวซูรินาเม (Suriname)

คู่มือท่องเที่ยวซูรินาเม (Suriname)
ซูรินาเม (Suriname) สุรินัม (Surinam) และ สรานัง (Sranang) หรือ สาธารณรัฐซูรินาเม (Republic of Suriname) หรือ เดิมรู้จักกันในชื่อ เนเธอร์แลนด์เกียนา และ ดัตช์เกียนา) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ระหว่างเฟรนช์เกียนาทางทิศตะวันออกและกายอานาทางทิศตะวันตก เขตแดนทางทิศใต้ติดต่อกับบราซิล ส่วนทางเหนือจรดมหาสมุทรแอตแลนติก พื้นที่ทางใต้สุดของประเทศกำลังเป็นกรณีพิพาทกับกายอานาและเฟรนช์เกียนา มีเนื้อที่ 163,270 ตารางกิโลเมตร

เมืองหลวงParamaribo (พารามาริโบ)

ภูมิอากาศ
แตกต่างไปตามสภาพภูมิประเทศ ซึ่งมีทั้งที่ราบต่ำและที่ราบสูง

เชื้อชาติ ประชากร มีเชื้อสายฮินดูร้อยละ 37 เชื้อสาย Creole (ยุโรป-แอฟริกัน) ร้อยละ 31 อินโดนีเซีย ร้อยละ 15 ส่วนที่เหลือเป็นเชื้อสายประกอบด้วย จีน และยุโรป

ภาษา ใช้ภาษาดัชท์เป็นภาษาราชการ

ศาสนา
มุสลิม ฮินดู และโรมันคาทอลิก

วันชาติ Independence Day 25 พ.ย. 2518

สกุลเงิน
Surinamese guilder (SRG) 2178.50 guilders เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ธค. 2543)

ท่องเที่ยวประเทศชิลี

คู่มือท่องเที่ยวประเทศชิลี มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐชิลี (República de Chile) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ มีเนื้อที่ติดชายฝั่งทะเลยาวระหว่างเทือกเขาแอนดีสกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีอาณาเขตจรดประเทศอาร์เจนตินาทางทิศตะวันออก จรดโบลิเวียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และจรดเปรูทางทิศเหนือ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันตกของประเทศมีความยาว 6,435 กิโลเมตร ชิลีมีดินแดนในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยครอบครองหมู่เกาะควนเฟร์นันเดซ เกาะซาลาอีโกเมซ หมู่เกาะเดสเบนตูราดัส และเกาะอีสเตอร์ในโพลินีเซีย ชิลียังอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนในแอนตาร์กติกาด้วย
เมืองหลวงกรุง ซันติอาโก (Santiago) ตั้งขึ้นโดยกัปตันเรือชาวสเปนชื่อ เปโดร เด วาลดิเวีย (Pedro de Valdivia) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2084 ปัจจุบันกรุงซันติอาโก มีประชากรประมาณ 5.3 ล้านคน

พื้นที่ 2,006,626 ตารางกิโลเมตร (นับรวมเกาะอีสเตอร์และเกาะอื่นๆ ในมหาสมุทร แปซิฟิกกับพื้นที่บริเวณแอนตาร์กติกอีก 1,250,000 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวประมาณ 4,200 กิโลเมตร และอีก 8,000 กิโลเมตร ในส่วนของ แอนตาร์กติก มีความกว้างเฉลี่ยประมาณ 177 กิโลเมตร และมีช่วงกว้างที่สุด 362 กิโลเมตร

ประชากร
ประมาณ 16 ล้านคน

ภูมิอากาศ
อบอุ่น ภาคเหนืออากาศแห้ง ภาคใต้อากาศชื้น ความชื้น โดยเฉลี่ย ประมาณร้อยละ 50 มี 4 ฤดู
- ฤดูร้อน ปลายธันวาคม – มีนาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 13-29 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง ปลายมีนาคม – มิถุนายน อุณหภูมิเฉลี่ย 8-23 องศาเซลเซียส
- ฤดูหนาว ปลายมิถุนายน – กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ย 4-16 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ผลิ ปลายกันยายน – ธันวาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 8-22 องศาเซลเซียส

ภาษา ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ

ศาสนา นับถือ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกร้อยละ 76.7 นิกายโปรเตสแตนท์ ร้อยละ 13.25 ไม่นับถือศาสนาใดๆ ร้อยละ 5.8 และนับถือศาสนาอื่นๆ ร้อยละ 4.3

หน่วยเงินตรา สกุลเปโซชิลี (Chilean Peso) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 520.40 เปโซ (สถานะวันที่ 7 สิงหาคม 2550)

วันชาติ 18 กันยายน - วันประกาศเอกราชจากสเปน เมื่อปี 2353

เชื้อชาติ ร้อยละ 95 เป็นเชื้อชาติยูโรเปียน อาทิ สเปน เยอรมัน อังกฤษ อิตาเลียน นอกจากนั้น ส่วนใหญ่เป็นอาหรับและยูโกสลาเวีย

ท่องเที่ยวประเทศโคลอมเบีย (Colombia)

คู่มือท่องเที่ยวประเทศโคลอมเบีย (Colombia)
ประเทศโคลอมเบีย (Colombia) บางครั้งสะกดเป็นภาษาไทยว่า โคลัมเบีย หรือ ชื่อทางการ สาธารณรัฐโคลอมเบีย เป็นประเทศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ มีอาณาเขตทางทิศตะวันออกติดต่อกับเวเนซุเอลาและบราซิล ทางทิศใต้ติดต่อกับเอกวาดอร์และเปรู ทางทิศเหนือจรดทะเลแคริบเบียน ส่วนทางทิศตะวันตกติดต่อกับปานามาและมหาสมุทรแปซิฟิก

คำว่า "โคลอมเบีย (Colombia)" มาจากชื่อของนักสำรวจคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (กริสโตบัล โกลอง ในภาษาสเปน และ กริสโตโฟโร โกลอมโบ ในภาษาอิตาลี) ถูกนำมาใช้โดยนักปฏิวัติฟรันซิสโก เด มีรันดาซึ่งเขาใช้อ้างอิงถึง "โลกใหม่" โดยเฉพาะดินแดนและอาณานิคมอเมริกันทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การปกครองของสเปนและ โปรตุเกส ชื่อนี้ได้มาเป็นชื่อของสาธารณรัฐโคลอมเบียในปี พ.ศ. 2362 ซึ่งประกอบด้วยดินแดนของประเทศโคลอมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ และปานามาในปัจจุบัน
สถานภาพสาธารณรัฐแห่งนี้สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2373 เมื่อเวเนซุเอลาและเอกวาดอร์ขอแยกตัวออกไป ส่วนจังหวัดกุนดีนามาร์กา (Cundinamarca) ก็กลายเป็นประเทศใหม่ในชื่อ สาธารณรัฐนิวกรานาดา (República de la Nueva Granada) ต่อมา พ.ศ. 2406 นิวกรานาดาเปลี่ยนชื่อทางการของตนเป็น สหรัฐโคลอมเบีย (Estados Unidos de Colombia) และในปี พ.ศ. 2429 ก็ได้เปลี่ยนเป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบันคือสาธารณรัฐโคลอมเบีย

เมืองหลวงกรุงโบโกตา (Bogotá)


ภูมิอากาศ อากาศร้อนชื้นในบริเวณแถบชายฝั่งและที่ราบทางด้านตะวันออก บริเวณเทือกเขามีอากาศเย็น

ภาษา สเปน (ภาษาราชการ)

ศาสนา
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 90

หน่วยเงินตรา เปโซโคลอมเบีย (Colombian Peso) โดย 1 ดอลลาร์สหรัฐ มีค่าเท่ากับ1,970 เปโซโคลอมเบีย (2 ส.ค. 2550)

ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำประเทศ

Thursday, April 2, 2015

ท่องเที่ยวสาธารณรัฐโดมินิกัน (Dominican Republic)

คู่มือท่องเที่ยวสาธารณรัฐโดมินิกัน (Dominican Republic)
สาธารณรัฐโดมินิกัน (Dominican Republic) เป็น ประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ใน 3 ทางทิศตะวันออกของเกาะฮิสปันโยลาซึ่งขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในหมู่เกาะแอนทิลลิสใหญ่ เกาะนี้ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ทางทิศตะวันตกของเปอร์โตริโก และอยู่ทางทิศตะวันออกของคิวบาและจาเมกา โดยสาธารณรัฐโดมินิกันมีอาณาเขตจรดเฮติทางทิศตะวันตก
สาธารณรัฐโดมินิกันเป็นคนละประเทศกับโดมินิกา ซึ่งเป็นประเทศในทะเลแคริบเบียนอีกประเทศหนึ่ง

เมืองหลวงกรุงซันโต โดมิงโก (Santo Domingo)

ภาษาทางการภาษาสเปน

ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 95% อื่นๆ 5%

เชื้อชาติ
ประชากรร้อยละ 73 เป็นเชื้อชาติผสม ประกอบไปด้วยแอฟริกันและ ยุโรป

การปกครองระบอบประชาธิปไตย

หน่วยเงินตราโดมินิกันเปโซ ( 1USD = 33.359 โดมินิกันเปโซ)

ท่องเที่ยวปานามา (Panama)

คู่มือท่องเที่ยวปานามา (Panama)
ปานามา (Panama) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐปานามา (Republic of Panama) เป็นประเทศที่อยู่ทางใต้สุดของอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศคอสตาริกาทางทิศตะวันตก และจรดประเทศโคลอมเบียทางทิศตะวันออก

เมืองหลวงกรุงปานามา (Panama City)

ที่ตั้ง
ประเทศ ปานามาตั้งอยู่บริเวณส่วนที่แคบที่สุดของภูมิภาคอเมริกากลาง พื้นที่ทางทิศเหนือและใต้เป็นชายฝั่งทะเล โดยทิศเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก และทิศใต้ติดทะเลแคริบเบียน พรมแดนด้านทิศตะวันตกติดกับคอสตาริกา ส่วนทิศตะวันออกติดกับโคลอมเบีย

ภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อน และได้รับอิทธิพลจากลมทะเล

ภาษาสเปน

ศาสนาโรมันคาทอลิก

เชื้อชาติ
ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเลือดผสม Mestizo (ผิวขาว+คนพื้นเมือง) หรือ Mulatto (ผิวดำ+คนพื้นเมือง)

อัตราการรู้หนังสือ (2546)
ร้อยละ 92.3

หน่วยเงินตราBalboa มีค่าเท่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลปานามาผลิตเพียงแต่เหรียญกษาปณ์สกุล Balboa เท่านั้น การซื้อขายโดยทั่วไปใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ

เวลาต่างจากประเทศไทยช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง

รูปแบบการปกครองประชาธิปไตย ระบบประธานาธิบดี
สถานฑูตปานามาประจำประเทศไทย
Street Address : The 7th Fl., Sarasin Bldg, 14 Surasak Road
Postal Address : 
ZIP Code : 10500
City : Silom
State : Bangkok
Country : Thailand
Telephone : (+66) 22379008, 22379009
Faximile : (+66) 22379008, 22379009
Email : ptybkk@ksc.th.com

ท่องเที่ยวเม็กซิโก (Mexico)

คู่มือท่องเที่ยวเม็กซิโก (Mexico)
เม็กซิโก (Mexico) หรือชื่อทางการคือ สหรัฐเม็กซิโก (United Mexican States) เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนจรดสหรัฐอเมริกาทางเหนือ และจรดเบลีซและกัวเตมาลาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโกเป็นประเทศที่อยู่ทางเหนือสุดและตะวันตกสุดของภูมิภาคลาตินอเมริกา และเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ภาษาสเปนมากที่สุดในโลก

เมืองหลวงกรุงเม็กซิโก

ที่ตั้ง
ประเทศ เม็กซิโกตั้งอยู่ทางใต้ของสหรัฐอเมริกา ทิศเหนือติดกับสหรัฐฯ ทิศใต้ติดกับกัวเตมาลา และเบลิซ ทิศตะวันออกติดกับอ่าวเม็กซิโกและทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวแคลิฟอร์เนีย

ภูมิอากาศภาค ใต้และบริเวณที่ราบต่ำติดชายฝั่งทะเล มีอากาศร้อนชื้นแบบศูนย์สูตรอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18 องศาเซลเซียส (64 ฟาเรนไฮท์) สำหรับภาคเหนือ และภาคตะวันออกจะมีภูมิอากาศแบบทะเลทราย

พื้นที่761,600 ตารางไมล์ (1,972,500 ตารางกิโลเมตร) เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง
ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในลาตินอเมริกา และใหญ่เป็นอันดับที่ 14 ของโลก

ประชากร107.4 ล้านคน (2549)

ภาษาราชการสเปน (ราชการ) และ ภาษาพื้นเมืองได้แก่ ภาษามายัน (Mayan) และภาษานาวาท์ล (Nahautl)

ศาสนาโรมันคาทอลิก ร้อยละ 89, โปรเตสแตนท์ ร้อยละ 6, อื่นๆ ร้อยละ 5

เชื้อชาติเมสติโซ (ผิวขาวผสมอินเดียน) ร้อยละ 60, อเมริกันอินเดียน ร้อยละ 30, คอเคเชียน ร้อยละ 9, อื่นๆ ร้อยละ 1

การศึกษา
ประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไปสามารอ่านและเขียนได้ 92.2% ของประชากรทั้งหมด (ชาย 94% หญิง 90.5%) โดยมีมหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดคือ National Autonomous University of Mexico (NAUM) ซึ่งก่อตั้งในปี 2094 (1551) และ มีนักศึกษาได้ 269,000 คน

หน่วยเงินตรา
เปโซ (Peso) (1 ดอลลาร์สหรัฐ = ประมาณ 11.132 เปโซ)

เวลาต่างจากประเทศไทย
ช้ากว่าไทย 13 ชั่วโมง

วันชาติ 16 กันยายน (ค.ศ.1810 ประกาศอิสรภาพจากสเปน)

สถานฑูตเม็กซิโกประจำประเทศไทยStreet Address : 20th Fl., Thai Wah Tower I, 21/60-62 South Sathorn Road
Postal Address : 
ZIP Code : 10120
City : Bangkok
State : Bangkok
Country : Thailand
Telephone : 0-2285-0995
Faximile : 0-2285-0667
Email : mexthai@loxinfo.co.th
Website : www.sre.gob.mx/tailandia



ท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา (United States of America)

คู่มือท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา (United States of America)
สหรัฐอเมริกา (United States of America) หรือมักจะเรียกกันย่อ ๆ ว่า สหรัฐ หรือ อเมริกา เป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยรัฐ 50 รัฐ มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนติดต่อ กับแคนาดาทางทิศเหนือ และเม็กซิโกทางทิศใต้ ส่วนพรมแดนทางทะเลนั้นติดต่อกับแคนาดา รัสเซียและบาฮามาส โดยมีมหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลแบริง มหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก และทะเลแคริบเบียนเป็นผืนน้ำล้อมรอบ นอกจากนี้ยังมีดินแดนบางส่วนในแคริบเบียน และมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วย

สหรัฐ อเมริกามีพื้นที่ขนาด 9.63 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 308 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากรัสเซีย และ แคนาดา และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก คร่าวๆ ปัจจุบัน (2555) อเมริกามีประชากรราวๆ 300 ล้านคน เป็นประเทศซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายในเชื้อชาติและวัฒนธรรม อันเป็นผลมาจากการอพยพจากหลายประเทศ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นเศรษฐกิจระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2551 กว่า 14.4 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ (อัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 15 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ)

ชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ซึ่งอาจสืบเชื้อสายมาจากชาวเอเชีย ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ประชากรชนพื้นเมืองอเมริกันเหล่านี้ลดจำนวนลงอย่างมากหลังจากการยึดครอง อาณานิคมของชาวยุโรป สหรัฐอเมริกาถูกก่อตั้งโดยสิบสามอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งมีทำเลอยู่ตามฝั่งทะเลแอตแลนติก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2319 ชาวอเมริกันประกาศอิสรภาพ ซึ่งเป็นการอ้างสิทธิ์ในการกำหนดชะตาของตนเอง และการสร้างสหภาพความร่วมมือขึ้น รัฐซึ่งก่อการจลาจลสามารถเอาชนะราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ในสงครามประกาศอิสรภาพ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอาณานิคมแห่งแรกที่ประกาศอิสรภาพได้สำเร็จ อนุสัญญาฟิลาเดลเฟียได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาฉบับปัจจุบัน เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2330 การปรับใช้อนุสัญญาดังกล่าวมีผลให้รัฐต่าง ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเดี่ยว และขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางที่มีอำนาจเด็ดขาด

ภูมิอากาศ
อากาศหนาว เว้นแต่ในมลรัฐฮาวาย และมลรัฐฟลอริดา หนาวเย็นมากที่บริเวณขั้วโลกเหนือในมลรัฐอะแลสกา บริเวณที่ราบด้านตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi) จะค่อนข้างแห้งแล้ง และมีความแห้งแล้งมากบริเวณที่ลุ่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีอากาศดีขึ้นเป็นครั้งคราวในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยจะได้รับความอบอุ่นจากลมของเนินเขาด้านตะวันออกของเทือกเขาร๊อกกี้


เชื้อชาติ
คนผิวขาวร้อยละ 81.7
คนแอฟริกันอเมริกันร้อยละ 12.9
คนเอเชียนร้อยละ 4.2
คนอเมริกันอินเดียนและชาวอะแลสการ้อยละ 1
ชาวฮาวายเอียนและชาวเกาะแปซิฟิกร้อยละ 0.2
(2546 ประมาณ)


ศาสนา
โปรเตสแตนท์ 52% , โรมันคาทอลิก 24% , มอร์มอน 2% , ยิว 1% , มุสลิม 1% , อื่น ๆ 10% , ไร้ศาสนา 10%

อัตราแลกเปลี่ยน
1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 30 บาท (2554)

เวลาต่างจากไทย
ฝั่งตะวันออก 12 ชั่วโมง ฝั่งตะวันตก 15 ชั่วโมง



ภาษา
ภาษาอังกฤษ (อเมริกันอังกฤษ) เป็นภาษาประจำชาติโดยพฤตินัย แม้จะไม่มีภาษาราชการในระดับรัฐบาลกลาง, บางกฎหมาย เช่น ข้อกำหนดการเป็นกลางของสหรัฐฯ มาตรฐานเป็นภาษาอังกฤษ ในปี 2010 ประมาณ 230 ล้านคนหรือ 80% ของประชากรที่มีอายุห้าปีและมากกว่า พูดภาษาอังกฤษเท่านั้นที่บ้าน ภาษาสเปน, พูดโดย 12% ของประชากรที่บ้าน, เป็นภาษาที่พบมากที่สุดเป็นที่สองและเป็นภาษาที่สองที่สอนกันอย่างแพร่หลาย. ชาวอเมริกันบางคน สนับสนุนการทำภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาทางการของประเทศ เช่นมันเป็นในอย่างน้อย 28 รัฐ.

ทั้งภาษาฮาวายและภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เป็นทางการในฮาวายตามกฎหมายของรัฐ ในขณะที่ ไม่มีภาษาราชการ, นิวเม็กซิโกมีกฎหมายให้ใช้ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาสเปน ในขณะที่ หลุยเซียนาจะใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส.รัฐอื่นๆ เช่นแคลิฟอร์เนีย, ให้อำนาจเอกสารสิ่งพิมพ์เป็นเวอร์ชันสเปนของเอกสารรัฐบาลบางอย่าง รวมทั้งแบบฟอร์มศาล. เขตอำนาจศาลหลายแห่งที่มีผู้พูดที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษจำนวนมาก ผลิตเอกสารของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงคะแนนเสียง จะอยู่ในภาษาพูดที่ใช้มากที่สุดใน เขตอำนาจศาลนั้น .

ดินแดนโดดเดี่ยวหลายแห่งให้การยอมรับอย่างเป็นทางการกับภาษาพื้นเมืองของ พวกเขา พร้อม กับภาษาอังกฤษ: ซามัวและชามอร์โรเป็นที่ยอมรับจากอเมริกันซามัวและกวมตามลำดับ Carolinian และ ชามอร์โร เป็นที่ยอมรับจากหมู่เกาะมาเรียนาเหนือ; ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการของเปอร์โตริโกและยังเป็นภาษาพูดอย่างกว้างขวางมาก ขึ้นนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ที่นั่น. 

การแบ่งเขตรัฐกิจ 
สหรัฐอเมริกาปัจจุบันประกอบด้วย รัฐ 50 รัฐ ดังต่อไปนี้ 
1.อลาบามา (Alabama)
“มลรัฐแห่งนกเยลโลว์แฮมเมอร์” (The Yallowhammer State) นก Yallohammer คือนกชนิดหนึ่ง
ตัวเล็ก หัว คอ และอกมีสีเหลือง นกชนิดนี้เป็นสัญญาลักษณ์ของรัฐอลาบามาจึงถูกนำมาตั้ง
เป็นชื่อเล่นของรัฐนี้

2. อลาสกา (Alaska)
มีสองชื่อเล่นคือ “พรมแดนสุดท้าย” (The Last Frontiea) และ “ดินแดนแห่งพระอาทิตยเที่ยงคืน”
(Land of the Midnight Sun) เพราะเป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่ที่สุด
ทางทิศเหนือติดพรมแดนประเทศแคนาดา

3. อริโซนา (Arizona)
“มลรัฐแห่งแกรนด์แคนยอน” (Grand Canyon State) Grand Canyon เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ตามธรรมชาติ มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลอันประกอบด้วยหุบเขาสูงและลึก ชั้นหินสูงละลิ่ว
และมีแม่น้ำ Coloradoไหลผ่านจึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้

4. อาร์แคนซอส์ (Arkansas)
“มลรัฐแห่งธรรมชาติ” (The natural State) ประกอบด้วย ป่าไม้ ไร่อ้อย ฝ้าย ข้าว
และถั่วเหลืองอันอุดมสมบูรณ์

5. แคลิฟอร์เนีย (California)
“มลรัฐแห่งทองคำ” (Golden State) ในศตวรรษที่ 19 มีการตื่นทอง (The Gold Rush)
เกิดขึ้นในมลรัฐนี้ จนเกิดคำพูดว่า “Go West Young Man” (ถ้าอยากรวย หรืออยากสาบสูญ
ก็ต้องไปขุดทองทางตะวันตกของประเทศ)สัญลักษณ์ ของมลรัฐนี้คือสะพานแขวน Golden Get
ในเมือง San Francisco และ Hollywoodเมืองอุตสหกรรมภาพยนตร์

6. โคโลราโด (Colorado)
“มลรัฐเฉลิมฉลองหนึ่งศตวรรษ” (Centennial State)มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศงดงาม เช่น
วนอุทยานเทือกเขาร๊อกกี้และสถานที่เล่นสกีอันเลื่องลือ

7. คอนเนกติกัต (Connecticut)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งรัฐธรรมนูญ” (The Constitution State) และ “มลรัฐแห่งผลจันทร์เทศ”
(Nutmeg State) nutmeg เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง คือผลจันทร์เทศ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเยล
(Yale University) ก็อยู่ในมลรัฐนี้

8. เดลาแวร์ (Delaware)
มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งเพชร” (Diamond State) “มลรัฐหมายเลขหนึ่ง” (First State)
และ “โลกมหัศจรรย์ใบน้อย” (Small Wonder)

9. ฟลอริดา (Florida)
“มลรัฐแห่งตะวัน” (Sunshine State) เพราะเป็นมลรัฐที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล
มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกคือ Disney World และชายหาด Miami
อันสวยงาม

10. จอร์เจีย (Georgia)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งลูกพีช” (Peach State) และ “เอ็มไพร์สเตทแห่งภาคใต้”
(Empire State of The South) เพราะมีการปลูกต้นพีชมาก เมืองหลวงคือ Atlanta
มีตึกสูงๆ ทันสมัยไม่น้อยหน้านิวยอร์ก

11. ฮาวายอิ (Hawaii)
“อโลฮา ฮาวายอิ” (Aloha Hawaii) เป็นมลรัฐที่ ห้าสิบของประเทศคำว่า “อโลฮา”
เป็นคำทักทายของชาวพื้นเมืองของหมู่เกาะชาวฮาวายอิ จึงเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่น
ของมลรัฐ Hawaii

12. ไอดาโฮ (Idaho)
“มลรัฐแห่งอัญมณี” (Gem) มีการทำเหมืองแร่และป่าไม้

13. อิลลินอยส์ (Illinois)
“มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งหญ้า”(Prairie State) เมือง Sprigfield ในมลรัฐ
Illinois เป็นประธานาธิบดี Abraham Lincoln ผู้เลิกระบบทาส

14. อินเดียนา (Indiana)
“มลรัฐแห่งทีมบาสเกตบอลฮูเซียร์” (Hoosier State) Hoosier เป็นชื่อทีมบาสเกตบอล
ชื่อเสียงขจรขจาย จึงเป็นความภาคภูมิใจแห่งชาวมลรัฐ Indiana

15. ไอโอวา (Iowa)
“มลรัฐแห่งตาเหยี่ยว” (Hawkeye State) เหยี่ยวเป็นสัตว์ที่ว่องไว บินสูง และมีตาแหลมคม
มลรัฐนี้มีการเกษตรกรรม เช่น การทำฟาร์มและปศุสัตว์

16. แคนซัส (Kansas)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งดอกทานตะวัน” (Sunflower State) และ “มลรัฐกลุ่มผู้ต้องการ
ล้มเลิกระบบทาส” (Jayhawk State) jayhawk เป็นกลุ่มหัวรุนแรงในมลรัฐ Kansas
ในสมัยสงครามกลางเมือง

17. เคนตักกี (Kentucky)
“มลรัฐแห่งดนตรีเครื่องสาย” (ได้แก่ แบนโจและกีตาร์) (Bluegrass State) Kentucky
ยังมีชื่อเสียงเรื่องการเลี้ยงม้าแข่งพันธุ์ดีที่สุดของโลก

18. หลุยเซียนา (Louisiana)
“มลรัฐแห่งนกกระทุง” (Pelican State) นกกระทุงเป็นนกขนาดใหญ่กินปลา คอพอก เมือง
New Orleans ในมลรัฐ Louisiana เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพราะมีบรรยากาศ
ฝรั่งเศสและเทศกาล Mardi Gras

19. เมน (Maine)
“มลรัฐแห่งต้นสน” (Pine Tree State) ต้นสนมีใบแหลมมีรูปเป็นกรวย ที่ใดมีป่าสน
ที่นั่นอากาศดี เพราะต้นสนให้ออกซิเจน มลรัฐนี้มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและทะเลสาบ

20. แมรีแลนด์ (Maryland)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งเสรีภาพ” (Free State) และ “มลรัฐแห่งสายเก่า”
(Old line State) เป็นหนึ่งใน 13 รัฐแรก

21. แมสสาซูเสตส์ (Massachusetts)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งอ่าวทะเล” (Bay State)และ “มลรัฐแห่งอาณานิคมอันเก่าแก่”
(Old Colony State) เป็นหนึ่งใน 13 รัฐแรกและมีประวัติศาสตร์เป็นศูนย์กลางของ
ปัญญาชนและนักศึกษา

22. มิชิแกน (Michigan)
“มลรัฐแห่งวูฟเวอรีน” (Wolverine State) วูฟเวอรีน (Wolverine)เป็นสัตว์ในเขตหนาว
จำพวกสุนัขจิ้งจอก คล้ายแมว เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนยาวสีดำ Michigan ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ
ถึงสี่ทะเลสาบ และเป็นรัฐอันดับหนึ่งที่ผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก โดยมีเมือง
Detroit เป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ

23. มินเนโซตา (Minnesota)
มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งดาวเหนือ” (North Star State) “มลรัฐแห่งกระรอกโกเฟอร์”
(Gopher State) และ “ดินแดนแห่ง 10,000 ทะเลสาบ”(Land of 10,000 Lakes)
โกเฟอร์ (gopher) เป็นกระรอกอยู่ทวีปอเมริกาเหนือคล้ายหนูขนาดใหญ่ มีกระพุ้งแก้มใหญ่มาก

24. มิสซิสซิปปี (Mississippi)
มีชื่อเล่นว่า “มลรัฐแห่งดอกแมกโนเลีย” (Magnolia State) แมกโนเลีย (Magnolia)
เป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง จำพวกดอกมณฑามีดอกสีขาว ชมพู ม่วง และเหลือง Mississipp
i ยังเป็นรัฐที่มีการปลูกฝ้ายมากที่สุดในประเทศ

25. มิสซูรี (Missouri)
“มลรัฐที่มีสิ่งให้ชมมากมาย” (Show-me State) มลรัฐนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
เช่น Hannibal เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักประพันธ์เอก Mark Twain และพิพิธภัณฑ์
Jesse James

26. มอนตานา (Montana)
“มลรัฐแห่งสมบัติล้ำค่า” (Treasure State) สิ่งที่มีค่าของมลรัฐนี้ คือ การเกษตร การล่าสัตว์
และการเลี้ยงสัตว์ เช่น แกะ และปศุสัตว์

27. เนบราสกา (Nebraska)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งผู้แกะข้าวโพด” (Cornhusker State) และ “มลรัฐแห่งเนื้อวัว”
(Beef State) ทั้งสองชื่อนี้แสดงว่ามลรัฐนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวโพดและวัว และยังมีอุตสาหกรรม
บรรจุเนื้อสัตว์ในเมืองใหญ่ ๆ อีกด้วย

28. เนวาดา (Nevada)
มีสามชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งพันธุ์ไม้ละเมาะ” (Sagebrush State) “มลัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่เงิน”
(Silver State) และ “มลรัฐที่เกิดมาเพื่อการรบ” (Battle Born State) มลรัฐนี้มีคาสิโน ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและศูนย์กลางบันเทิงชั้นแนวหน้าของโลกอยู่ใน Las Vegas

29. นิวแฮมเซียร์ (New Hampshire)
“มล รัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยหินแกรนิต” (Granite State) New Hampshire เป็นรัฐที่มีทัศนียภาพ งดงามและแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

30. นิวเจอร์ซี (New Jersey)
“มลรัฐที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้” (Garden State) มลรัฐนี้มีสถานที่ตากอากาศตามแนวชายฝั่ง
และมีสถานคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย

31. นิวแม็กซิโก (New Mexico)
“ดินแดนแห่งมนต์ขลัง” (Land of Emchantment) ชื่อทางการของมลรัฐนี้ตั้งตามประเทศแม็กซิโก
ที่อยู่ติดกัน

32. นิวยอร์ก(New York)
“มลรัฐแห่งตึกระฟ้าเอ็มไพร์สเตท” (Empire State) ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา
จึง เป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้ “แอปเปิลผลใหญ่” (The Great Apple) คืออีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียกรัฐนี้อย่างไม่เป็นทางการแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ของมลรัฐนี้คือ
น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls)

33. นอร์ธแคโรไลนา (North Carolina)
“มลรัฐแห่งน้ำมันดิบ” (Tar Heel State) North Carolina เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของ
Carl Sandburg นักประพันธ์ร่วมสมัยในศตวรรษที่ 20

34. นอร์ธดาโกตา (North Dokota)
มีสี่ชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งอินเดียนแดงเผ่าเซอุ๊กซ์” (Sioux State) “มลรัฐแห่งนกฟลิกเคอร์เทล”
(Flickertail State) “มลรัฐแห่งอุทยานสันติภาพ” (Peace Garden State) และ
“มลรัฐแห่งผู้ขับขี่ทรหด” (Rough Rider State)

35. โ อไฮโอ (Ohio)
“มลรัฐแห่งตาไม้” (The Buckeye State) buckeye คือบริเวณใจกลางของเนื้อไม้ซุงหรือตาไม้ซุง
ลักษณะเป็นวงเล็ก ๆ ที่ซ้อนด้วยวงใหญ่ ๆ Ohio เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีถึงห้าท่าน
มีเมือง Youngstown เป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรมเหล็ก

36. โอกลาโฮมา (Oklahoma)
“มลรัฐแห่งอนาคตอันใกล้” (Sooner State) ในอดีต มลรัฐนี้เป็นดินแดนอยู่ห่างไกลความเจริญ
(The Wilderness) และเป็นถิ่นฐานของอินเดียนแดง

37. ออเรกอน (Oregon)
“มลรัฐแห่งตัวบีเวอร์” (Beaver State) beaver เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งจำพวกหนู คล้ายนากกินปลา
ขนาดเท่าแมว ฟันคม สามารถกัดต้นไม้ใหญ่ ๆ ให้ล้มได้ หนังมีขนละเอียดใช้ทำเครื่องกันหนาว
อาศัยอยู่ในน้ำ Oregon มีอุตสาหกรรมจับปลาแซลมอนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

38. เพนซิลเวเนีย (Pennsylvania)
“มลรัฐที่เป็นหลักสำคัญ” (Keystone State) Keystone คือหินก้อนที่อยู่บนสุดตรงกลางของยอดโค้ง
หรือหลังคาโค้งทำหน้าที่ยึดหินก้อนอื่น ๆ มิให้คลาดเคลื่อนหรือหลุดจากกัน ดังเช่น Pennsylvania
ซึ่งเป็นมลรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งประเทศ

39. โรดไอส์แลนด์(Rhode Island)
“มลรัฐแห่งมหาสมุทร” (Ocean State) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดมหาสมุทร
แอตแลนติก

40. เซาธ์แคโรไลนา (South Carolina)
“มลรัฐแห่งต้นปาล์มรูปใบพัด” (Palmetto) South Carolina เป็นสมรภูมรบสำคัญทางประวัติศาสตร
์ในสมัยสงครามกลางเมือง

41. เซาธ์ดาโกตา (South Dakota)
มีสองชื่อเล่น “มลรัฐแห่งภูเขารัชมอร์” (Mount Rushmore Sate) และ “มลรัฐแห่งไคโอต”
(Coyote State) เป็นภูเขา Rush More ที่ด้านหนึ่งแกะสลักเป็นรูปใบหน้าของประธานาธิบดีสี่ท่าน
ได้แก่่ George Washingtom, Thomas Jefferson, Abraham Lincoln และ Theodore
Roosevelt ส่วน coyote เป็นหมาป่าตัวเล็ก อาศัยอยู่ภาคตะวันตกของอเมริกา

42. เทนเนสซี (Tennessee)
“มลรัฐแห่งอาสาสมัคร” (Volunteer State) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือเมือง Memphis บ้านเกิดเมืองนอน
ของ Elvis Presley นักร้องในศตวรรษ 1960

43. เท็กซัส (Taxas)
“มล รัฐแห่งดาวดวงเด่น” (Lone Star State) เพราะมลรัฐนี้มีธงประจำรัฐเป็นรูปดาวดวงเดียวโดดเด่น เอกลักษณ์อีกอย่างของมลรัฐนี้คือการขี่ม้าผาดโผนที่เรียกว่า Rodeo cowboy เมืองสำคัญคือ Houston ซึ่งเป็นฐานปล่อยจรวดและศูนย์ฝึกมนุษย์อวกาศ

44. ยูทาร์ (Utah)
“มลรัฐแห่งรังผึ้ง” (Beehive State) เมือง Salt Lake City ในรัฐ Utah เคยเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก
ฤดูหนาวใน ค.ศ. 2002

45. เวอร์มอนต์ (Vermont)
“มลรัฐแห่งภูเขาสีเขียว”(Green Mountain State ) นักท่องเที่ยวนิยมเล่นสกีและตกปลาตามแหล่งท่องเที่ยว
สำคัญต่าง ๆ ของมลรัฐนี้

46. เวอร์จิเนีย (Virginia)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐที่การปกครองอย่างเก่า” (The Old Dominion) และ “เมืองมารดรแห่งประธานาธิบดี”
(Mother of Presidentts) เพราะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของประธานาธิบดีสามท่านโดยเฉพาะประธานาธิบด
ีท่านแรก George Washington และมีเมือง Jamestown ป็นเมืองประวัติศาสตร์เพราะเป็นเมืองแรก
ที่มีคนผิวขาวอพยพเข้ามาตั้งรกรากและเป็นเมืองแรกที่มีทาสผิวดำ

47. วอชิงตัน (Washington)
“มลรัฐที่เขียวชอุ่มตลอดปี” (Evergreen State) มีเมืองสำคัญคือ Seattle ซึ่งเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์อากาศ

48. เวอร์จิเนียตะวันตก (West Virginia)
“มลรัฐแห่งภูเขา” เพราะพื้นที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง ๆ ต่ำ ๆนอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติ ป่าไม้และ
บริเวณสันทนาการมากมาย

49. วิสคอนซิน (Wisconcin)
มีสองชื่อเล่นคือ “มลรัฐแห่งแบดเจอร์” (Badger State) และ “มลรัฐแห่งนมเนย” (Dairy State)
badger คือสัตว์ชนิดหนึ่งขนาดเท่าสุนัขจิ้งจอก เท้ามีเล็บอย่างหมี และมลรัฐนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยนมเนย

50. ไวโอมิง (Wyoming)
“มลรัฐแห่งความเสมอภาค”(Equality State)สัญลักษณ์คือวนอุทยาน Yellowstoneซึ่งเป็นวนอุทยาน
แห่งชาติแห่งแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา





ที่ตั้งและข้อมูลสำหรับติดต่อ
เว็บไซต์: สถานทูตและสถานกงสุลอเมริกา - USTravelDocs

สถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ ประเทศไทย
ที่อยู่: 95 ถนนวิทยุ
กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย
แฟกซ์: +66-2-254-1171
เว็บไซต์: http://thai.bangkok.usembassy.gov/ อีเมล:
สถานกงสุล จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย 
ที่อยู่: ที่อยู่: 387 ถนนวิชยานนท์
เชียงใหม่ 50300 ประเทศไทย<
แฟกซ์: +66-53-252-633
เว็บไซต์: http://chiangmai.usconsulate.gov/ อีเมล: conschiangmai@state.gov


 






ท่องเที่ยวจาไมกา (Jamaica)

คู่มือท่องเที่ยวจาไมกา (Jamaica)
จาไมกา (Jamaica) เป็นประเทศที่อยู่บนเกาะในภูมิภาคหมู่เกาะแอนทิลลิสใหญ่ เกาะจาเมกาเป็นเกาะที่มีความยาว 240 กม. และกว้าง 85 กม. และตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มันมีระยะห่าง 635 กม. ไปทางตะวันออกของแผ่นดินใหญ่แห่งภูมิภาคอเมริกากลาง มีระยะห่าง 150 กม. ไปทางใต้ของคิวบา และ 180 กม. ไปทางตะวันตกของเกาะฮิสปันโยลาซึ่งเป็นที่ตั้งของเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกัน
ชื่อ ประเทศ "จาไมกา" นั้นมาจากการเรียกขานเกาะของชนพื้นเมืองตาอีโน (Taíno) ที่พูดภาษาอาราวัก (Arawakan) ที่เรียกเกาะนี้ว่า "ฌาเมคา" (Xaymaca) ซึ่งแปลได้เป็นสองความหมายคือ "ดินแดนแห่งใบไม้ผลิ" หรือ "แดนแห่งป่าและน้ำ" จาเมกาเคยตกอยู่ใต้อาณัติของสเปนในสมัยราชวงศ์ฮัปสบูร์ก ซึ่งเรียกเกาะนี้ว่า ซันเดียโก (Santiago) จากนั้นจึงตกอยู่ในการครอบครองของราชอาณานิคมอินดีสตะวันตกแห่งบริเตน (British Crown Colony of West Indies) ที่แปลงคำภาษาพื้นเมืองที่ใช้เรียกชื่อเกาะ จากฌาเมคา มาเป็นจาเมกาซึ่งกลายเป็นชื่อของเกาะและประเทศที่อยู่บนเกาะนั้นมาจนถึงทุก วันนี้ ประชากรของจาเมกาส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้สืบเชื้อสายมาจากทาสชาวแอฟริกัน จาเมกายังเป็นประเทศที่ประชากรพูดและเขียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักมากที่สุด ในทวีปอเมริกาทั้งเหนือ, กลางและใต้เป็นอันดับสาม รองจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยทั่วไปแล้ว คนไทยมักอ่านออกเสียง "จาเมกา" เป็น "จาไมกา" (อ่านออกเสียงว่า จา-ไม-ก้า) เสียมากกว่า

ที่ตั้งเป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียน ตั้งอยู่ห่างจากคิวบาทางทิศเหนือประมาณ 90 ไมล์ และเฮติทางทิศตะวันออกประมาณ 100 ไมล์

ภูมิประเทศ
ส่วนใหญ่เป็นภูเขา บางแห่งเป็นที่ราบชายฝั่งแคบๆ ที่ไม่ต่อเนื่องกัน

ภูมิอากาศ แบบ ร้อนชื้น (tropical) โดยเฉพาะบริเวณที่ราบชายฝั่งทะเล อุณหภูมิจะเย็นขึ้นในบริเวณที่เป็นภูเขา อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 27 องศาเซลเซียส และปริมาณฝนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 1,980 มิลลิเมตร

ทรัพยากรธรรมชาติ
บอกไซต์ ยิบซัมและหินปูน

เมืองหลวง
กรุงคิงสตัน (Kingston)

ภาษา ภาษาอังกฤษ (ภาษาราชการ) และภาษา Patois

ศาสนา ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ (61.3%) นิกายโรมันคาทอลิค (4%) อื่นๆ และลัทธิเชื่อในจิตวิญญาณ (34.7%)

เชื้อชาตเชื้อสายแอฟริกัน (90.4%) เชื้อสายผสม (7.3%) อินเดียตะวันออก (1.3%) จีน (0.2%) ผิวขาว (0.2%) และอื่นๆ (0.1%)


หน่วยเงินตรา จาเมกันดอลลาร์ (Jamaican dollar – J$)

อัตราแลกเปลี่ยน (2004) 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 61 จาเมกันดอลลาร์

วันประกาศเอกราช 6 สิงหาคม ค.ศ. 1962 จากสหราชอาณาจักร

วันชาติ
(Independence Day) 6 สิงหาคม

วันสถาปนารัฐธรรมนูญ
6 สิงหาคม 1962

เวลาแตกต่างจากไทย ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง (-5 GMT)

การเมืองการปกครอง
ใน อดีตจาเมกาเป็นที่อยู่ของชาวพื้นเมืองเผ่า Arawaks ซึ่งอพยพมาจากดินแดนตอนในของทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาโคลัมบัสและคณะได้เดินทางมาถึงใน ค.ศ. 1494 และยึดครองเป็นอาณานิคมของสเปน ประมาณ ค.ศ. 1510 เริ่มมีการนำทาสผิวดำจากทวีปแอฟริกาเข้ามาเป็นแรงงานแทนชาวพื้นเมืองเดิม ซึ่งลดจำนวนลง ในปี ค.ศ. 1655 กองทัพอังกฤษได้บุกเข้ายึดเกาะจาเมกา และปรับปรุงเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลและแหล่งค้าทาสที่สำคัญในทวีปอเมริกา ในทศวรรษที่ 1930 รัฐสภาอังกฤษเริ่มให้สิทธิปกครองตนเองบางส่วนแก่รัฐบาลพื้นเมือง และในปี ค.ศ. 1958 จาเมกาก็ได้เข้าเป้นสมาชิก West Indian Federation ซึ่งประเทศอาณานิคมอังกฤษในแคริบเบียนได้ถอนตัวในปี ค.ศ. 1961 และได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1962

รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (Constitutional Monarchy)

เขตการปกครอง
แบ่ง ออกเป็น14 เขต ได้แก่ Kingston, St. Andrew, St. Thomas, Portland, St. Mary, St. Ann, Trelawny, St. James, Hanover, Westmoreland, St. Elizabeth, Manchester, Clarendon และ St. Catherine

ท่องเที่ยวประเทศแคนาดา

คู่มือท่องเที่ยวประเทศแคนาดา
ดินแดนที่เป็นประเทศแคนาดาในปัจจุบันใน อดีตมีผู้อยู่อาศัยอยู่แล้วเป็นชนพื้นเมืองหลากหลายกลุ่ม เมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 นักสำรวจเดินทางชาวอังกฤษและฝรั่งเศสได้เข้ามาสำรวจ และต่อมาจึงมีการตั้งรกรากขึ้นบนแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ในปี ค.ศ.1763 ฝรั่งเศสได้ยอมสูญเสียอาณานิคมเกือบทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือหลังจากสงคราม เจ็ดปี ในปี ค.ศ.1867 มีการรวมตัวของอาณานิคมของอังกฤษ 3 แห่งขึ้น และประเทศแคนาดาก็ถือกำเนิดขึ้นในรูปแบบของเขตปกครองสหพันธรัฐ (federal dominion) ประกอบด้วย 4 มณฑล และนี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มจำนวนขึ้นของมณฑลและดินแดนต่างๆ และกระบวนการได้รับอำนาจปกครองตนเองจากสหราชอาณาจักร รัฐบัญญัติแห่งเวสต์มินสเตอร์ในปี ค.ศ.1931 ได้เพิ่มอำนาจปกครองตนเองและเป็นผลให้เกิดพระราชบัญญัติแคนาดาในปี ค.ศ.1982 ซึ่งมีผลให้แคนาดาตัดขาดจากการขึ้นตรงต่ออำนาจของรัฐสภาอังกฤษ
ประเทศแคนาดา ประกอบด้วยรัฐ 10 รัฐ และดินแดน 3 แห่ง และปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2ทรงเป็นพระประมุขสูงสุด แคนาดาเป็นประเทศที่ใช้ภาษาทางการ 2 ภาษาทั้งในระดับประเทศและในมณฑลนิวบรันสวิก ภาษาทางการ 2 ภาษานั้นคือ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แคนาดาเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และพึ่งพาการค้าขาย โดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่แคนาดามีความสัมพันธ์อันยาวนานและ สลับซับซ้อน

ที่ตั้ง
ตั้ง อยู่ทางเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ และทางตะวันออกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทางตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ทางเหนือติดกับมหาสมุทรอาร์คติก และทางใต้ติดกับประเทศสหรัฐอเมริกา

เมืองหลวง
กรุงออตตาวา (Ottawa)

เมืองสำคัญ โทรอนโต(Toronto) มอนทรีออล(Montreal) แวนคูเวอร์ (Vancouver)
ควิเบก ซิตี้ (Quebec City) แฮลิแฟ็กซ์ (Halifax) วินนิเป็ก (Winnipeg) เอ็ดมันตัน
(Edmonton)

ภูมิอากาศ
ภาคพื้นทวีป (มีหิมะในฤดูหนาว และอบอุ่นในฤดูร้อน)

ภาษา
อังกฤษและฝรั่งเศส

ศาสนา
โร มันคาธอลิก (ร้อยละ 42.6) โปรแตสแตนท์ (ร้อยละ 23.3) อิสเทอร์นออโธดอกซ์ และยิว (ร้อยละ 18) อิสลามและพุทธศาสนามีอัตราเพิ่มค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายการรับคนนอกประเทศมาตั้งถิ่นฐาน

หน่วยเงินตรา แคนาเดียนดอลลาร์ (1 CAD ประมาณ 33.72บาท) (2 สิงหาคม 2549)

ระบอบการเมือง
ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา (Parliamentary Democracy)

ระบบการปกครอง
สมาพันธรัฐ (Confederation) แบ่งเขตการปกครองออกเป็น
10 มณฑล (Province) และ 3 เขตปกครองพิเศษ (Territory) โดยแต่ละมณฑลมีมุขมนตรี (Premier) เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย

1. Ontario 2. Quebec 3. Nova Scotia 4. New Brunswick 5. Manitoba 6. British Columbia 7. Prince Edward Island 8. Saskatchewan 9. Alberta 10. Newfoundland and Labrador 11. Northwest Territories 12. Yukon Territory 13. Nunavut
ปัจจุบันแคนาดาใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็น ประมุขโดยถือพระราชินีอลิซาเบธที่สองเป็นกษัตริย์ (หมายเหตุ: พระองค์เดียวกับของสหราชอาณาจักร แต่โดยรัฐธรรมนูญแล้วถือว่าเป็นคนละตำแหน่ง แม้จะเป็นบุคคลเดียวกัน โดยมงกุฎและบัลลังก์นั้นใช้คนละแบบ ไม่ได้ใช้ร่วมกัน)

ประวัติศาสตร์โดยสังเขป ฝรั่งเศส ได้เข้ายึดครองแคนาดาฝั่งตะวันออกในปี ค.ศ.1534 และได้เริ่มตั้งถิ่นฐานในปี ค.ศ.1604 ปัญหาความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับอังกฤษเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1713 อันเนื่องจากเหตุผลด้านการประมงและการค้าขนสัตว์ ซึ่งในที่สุดดินแดนแคนาดาตกเป็นของอังกฤษ ปี ค.ศ.1849 แคนาดาได้รับการยอมรับในสิทธิการปกครองตนเอง และต่อมาปี ค.ศ.1867 ได้มีการจัดตั้ง Dominion of Canada ในลักษณะของสมาพันธรัฐซึ่งประกอบด้วย Upper และ Lower Canada (มณฑล Ontario, Quebec, Nova Scotia และ New Brunswick ในปัจจุบัน) และต่อมาได้ขยายออกไปยังมณฑลภาคตะวันตกจนถึงมณฑล British Columbia ปี ค.ศ.1931 แคนาดาได้รับสถานะเป็นประเทศที่เท่าเทียมกับอังกฤษโดยมีกษัตริย์อังกฤษเป็น พระประมุข และต่อมาในปี ค.ศ.1949 มณฑล New Foundland and Labrador เข้าร่วมเป็นมณฑลที่สิบของแคนาดา

ท่องเที่ยวนิการากัว (Nicaragua)

คู่มือท่องเที่ยวนิการากัว (Nicaragua)
นิการากัว (Nicaragua) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐนิการากัว (Republic of Niguaragua) เป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในอเมริกากลาง แต่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศฮอนดูรัส ทางใต้จรดประเทศคอสตาริกา ชายฝั่งตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนชายฝั่งตะวันออกจรดทะเลแคริบเบียน ชื่อของประเทศมาจากการสนธิระหว่างคำว่า นีการาโอ (Nicarao) เป็นชื่อชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดขณะที่ชาวสเปนมาถึง กับคำว่า อะกวา (Agua) เป็นคำภาษาสเปน แปลว่าน้ำ

เมืองหลวงกรุงมานากัว (Managua)

ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกากลาง ทิศเหนือติดฮอนดูรัส ทิศใต้ติดคอสตาริกา
ทิศตะวันออกติดกับทะเลแคริบเบียน และทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก

ภูมิอากาศแบบเขตร้อน โดยมีป่าไม้เขตร้อนทางฝั่งแอตแลนติก อุณหภูมิเฉลี่ย 25.5 องศาเซลเซียส

ภาษาราชการสเปน

ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 95 โปรเตสแตนต์ ร้อยละ 5

เชื้อชาต
Mestizo (เลือดผสมสเปนกับชาวพื้นเมือง) ร้อยละ 69 ผิวขาวร้อยละ 17 ผิวดำร้อยละ 9 ชาวพื้นเมืองร้อยละ 5

หน่วยเงินตรา Nicaraguan cordoba (NIO) อัตราแลกเปลี่ยน 16.7 NIO ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

เวลาต่างจากไทย ช้ากว่าไทย 13 ชั่วโมง

วันชาติ 15 กันยายน ค.ศ.1821 (ได้รับอิสรภาพจากสเปน)


ประเทศฮังการี (Hungary)

ท่องเที่ยวประเทศฮังการี (Hungary)
ฮังการี (Hungary) หรือ สาธารณรัฐฮังการี (Republic of Hungary) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ในยุโรปกลาง มีอาณาเขตจรดประเทศออสเตรีย สโลวาเกีย ยูเครน โรมาเนีย เซอร์เบีย โครเอเชีย และสโลวีเนีย ในท้องถิ่นเป็นที่รู้จักว่า ประเทศของชาวแมกยาร์ (Country of the Magyars) ประเทศฮังการีเคยเป็นส่วนหนึ่งของ จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประวัติอย่างยาวนานมาตั้งแต่ในตอนศตวรรษที่ 9
เมืองหลวงกรุงบูดาเปสต์ (Budapest)
ที่ตั้งบริเวณที่ราบคาร์เปเทียนในยุโรปกลาง ไม่มีทางออกทะเล
ทิศเหนือ ติดกับสโลวาเกีย และยูเครน
ทิศใต้ ติดกับโครเอเชีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร
ทิศตะวันออก ติดกับโรมาเนีย
ทิศตะวันตก ติดกับออสเตรีย และสโลวีเนีย
พื้นที่
93,030 ตาราง กิโลเมตร
ประชากร
10 ล้านคน (ปี 2550) ประกอบด้วย
ชาวฮังกาเรียน (92.3%) โรมา (1.9%) และอื่นๆ (5.8%)
ภูมิอากาศมีฤดูหนาวที่ชื้น ฤดูร้อนที่อบอุ่น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในฤดูหนาว
0 ถึง -15 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน 27-35 องศาเซลเซียส
ภูมิศาสตร์ฮังการี ตั้งอยู่กลางทวีป ยุโรป แถบที่ราบเทือกเขา คาร์ปาเทียน (Carpathian Basin) มีพรมแดนติดกับ ประเทศเพื่อนบ้าน 7 ประเทศ คือ ออสเตรีย สโลวาเกีย ยูเครน ยูโกสลาเวีย โครเอเชีย และ สโลเวเนีย รูปร่าง ประเทศฮังการี คล้ายรูปไต มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 93,000 ตารางกิโลเมตร
ภูมิประเทศ แบ่งออก เป็น 3 ส่วน
The Great Plain (Nagyalföld) เป็นที่ราบต่ำทางตะวันออกและตอนกลาง
The Little Plain เป็นที่ราบขนาดเล็กทาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแนวเทือกเขาที่สูงที่สุด ชื่อว่า Kékes tet? (สูง 1,015 เมตร)
Transdanubia เนินเขา สลับกับที่ราบสูงๆต่ำทางตะวันและตะวันตกฉียงใต้
ฮังการี มี แม่น้ำสำคัญ 2 สาย คือ
1.Danube (ดาร์นูบ, ฮังการี: Duna ดุนอ)
2.Tisza (ทิสซา)
แม่ น้ำทั้งสองสาย แบ่งประเทศออกเป็น 3 ส่วน และยังมี แม่น้ำดราวา (Drava) เป็นแม่น้ำกั้นพรมแดน ระหว่างฮังการี กับ โครเอเชีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
ฮังการีมีทะเลสาบหลายแห่ง แต่ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุด คือ ทะเลสาบบาลาตอน (Balaton)
พื้น ทีส่วนใหญ่ของฮังการี ประมาณ 70%ทำการเกษตร ส่วนพื้นที่เหลือ เป็นป่าทึบ ได้แก่ ป่าโอ๊ก และ ป่าบีช สัตว์ท้องถิ่นที่พบทั่วไป เช่น กระต่ายป่า กวาง หมี นาก สัตว์ป่าหายาก เช่น แมวป่า ค้างคาวทะเล สัตว์พื้นเมืองที่มีมากที่สุด คือ นกชนิดต่างๆ โดยเฉพาะนกน้ำที่ชอบพื้นที่ชื้นแฉะแถบที่ลุ่มตามทะเลสาบ ฮังการี มี ป่าสงวน 5 แห่งและมีการประกาศ เขตคุ้มครองกว่า 100 แห่ง
ภาษาฮังกาเรียน 98% อื่นๆ 2%
ศาสนาโรมันคาทอลิก 67.5% คาลวินิสต์ 20% ลูเธอแรนส์ 5%
หน่วยเงินตราโฟรินท์ (Forint) อัตราแลกเปลี่ยน 210.92 โฟรินท์เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ระบอบการปกครองประชาธิปไตย แบบรัฐสภา ซึ่งเป็นระบบสภาเดียว โดยมีประธานาธิบดีซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ทำหน้าที่เป็นประมุขของประเทศอยู่ในตำแหน่งวาระละ 5 ปี ดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 วาระ ปัจจุบัน คือ นาย Laszlo Solyom ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548