Thursday, April 2, 2015

ท่องเที่ยวประเทศสาธารณรัฐเชค

คู่มือท่องเที่ยวประเทศสาธารณรัฐเชค
สาธารณรัฐเชค
ที่ตั้ง อยู่ตอนกลางของทวีปยุโรป ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล มีพรมแดน ด้านเหนือติดกับโปแลนด์ ด้านใต้ติดกับออสเตรีย ทิศตะวันออกติดกับสโลวักและทิศตะวันตกติดกับเยอรมนี

พื้นที่ 78,866 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 2 แคว้น คือ แคว้นโบฮีเมีย และแคว้นโมราเวีย

เมืองหลวง กรุงปราก (Prague) มีประชากร 1.21 ล้านคน

เมืองสำคัญ Brno - เมืองศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของแคว้นโมราเวีย มีประชากรประมาณ 3.3 แสนคน

Ostrava - เมืองอุตสาหกรรม โดยเฉพาะทางด้านการถลุงเหล็ก อยู่ทางตะวันออกของประเทศ มีประชากรประมาณ 3.24 แสนคน

Plzen - เมืองอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล และเป็นเมืองที่กำเนิดของเบียร์สูตรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อยู่ทางเหนือของประเทศ มีประชากร 1.7 แสนคน

ประชากร 10.28 ล้านคน ประกอบด้วยชาวเช็ก (ร้อยละ 94.4) ชาวสโลวัก (ร้อยละ 3) ชาวโปล (ร้อยละ 0.6) ชาวฮังกาเรียน (ร้อยละ 0.2)

ภาษาราชการ ภาษาเช็ก ประชาชนส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมันได้และมีบ้างที่พูดภาษารัสเซียได้

ศาสนา ไม่มีศาสนาร้อยละ 39.8 โรมันคาทอลิกร้อยละ 39.2 โปรเตสแตนท์ร้อยละ 6 ออร์โธดอกส์ร้อยละ 3 และอื่นๆ ร้อยละ 13.4

วันชาติ 28 ตุลาคม

สกุลเงิน เช็กโครูน่า (Czech Koruna)

อัตราแลกเปลี่ยน US$ 1 = 20.52 โครูน่า (16 ส.ค. 2550)

ภูมิอากาศ แบบยุโรป อุณหภูมิ 20 - 25 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน และ -5 ถึง-15 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาว

GDP 141.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)

GDP per capita 13,848 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2549)

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 6.1 (ปี 2549)

อัตราเงินเฟ้อ ร้อยละ 2.8 (ปี 2549)

การเมืองการปกครอง
ระบบการเมือง ระบอบประชาธิปไตยแบบมีประธานาธิบดีเป็นประมุข

ประธานาธิบดี นาย Vaclav Klaus (เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.พ. 2546)

นายกรัฐมนตรี นาย Mirek Topolanek (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2549)

รัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Karel Schwarzenberg(เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2550)

รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งเป็นระบบสองสภา (Bicameral Parliament) คือ สภาสูง (Senate) มี 81 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดย popular vote มีวาระ 6 ปี โดยจะมีการเลือก 1 ใน 3 ทุก 2 ปี เลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 เลือกตั้งครั้งต่อไปเดือนพฤศจิกายน 2549 และ สภาล่าง
(Chamber of Deputies) มี 200 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดย popular vote มีวาระ 4 4 ปี เลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 - 3 มิถุนายน 2549

ประธานาธิบดี เป็นประมุขแห่งรัฐ มาจากการเลือกตั้งของสภาทั้งสอง โดยจะต้องได้รับเสียงข้างมากโดยเด็ดขาดจากแต่ละสภา มีวาระ 5 ปี ดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้ 2 วาระ เลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจะต้องได้รับการเสนอชื่อจากสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกสภาสูงอย่างน้อย 10 คน มีอายุอย่างน้อยที่สุด 40 ปี

นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล มีอำนาจในการบริหารสูงสุด มาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดี คณะรัฐมนตรีมาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดีโดยการเสนอชื่อจากนายกรัฐมนตรี

ศาลและอำนาจตุลาการ ได้รับการแบ่งแยกโดยสิ้นเชิงจากอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร คณะกรรมการตุลาการรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลให้มีการใช้อำนาจตุลาการ ตามรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยผู้พิพากษา 15 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี โดยอยู่ในตำแหน่งวาระละ 10 ปี




No comments:

Post a Comment