เตรียมตัวไปเที่ยวประเทศเกาหลี
ประเทศเกาหลีใต้หรือสาธารณรัฐเกาหลี
ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างทะเลตะวันออก (East Sea) ใกล้ๆกับญี่ปุ่น กับทะเลเหลือง (Yellow Sea) ถูกแบ่งออกเป็นสอง ส่วนที่บริเวณเส้นขนานที่ 38 โดยมีเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone:DMZ) หรือพันมุนจอม (Panmunjeom) คั่นกลางไว้ ด้านเหนือปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ คือเกาหลีเหนือ โดยมีรัสเซียหนุนหลัง ส่วนด้านล่างปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย โดยมีสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือ นั่นคือเกาหลีใต้
• เกาหลีใต้มีพื้นที่ 99,500 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาซึ่งมีถึงร้อยละ 70 ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของเกาหลีจึงมีมากมาย คนเกาหลีเองนิยมไปปีนเขากันในวันหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย
• เกาหลีใต้มีประชากรประมาณ 49 ล้านคน โดย 1 ใน 4 ของประชาการทั้งประเทศจะเข้ามาอาศัยและทำงานในกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง
เกาหลีใต้แบ่งออกเป็นเขตจังหวัดได้ 9 จังหวัด
โดยแต่ละจังหวัดประกอบด้วยเมือง น้อยใหญ่ต่างๆหลายเมืองรวมกัน คือ
1.จังหวัดเคียงจิโด (Gyeonggi-do) เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงกรุงโซล เมืองชูวอน เมืองอินชอน เมืองบูชอน เป็นต้น
2.จังหวัดคังวอนโด (Gangwon-do) มีเมืองซกโซ เมืองคังนึง
3.จังหวัดชุงชองนัมโด (Chungcheongbuk-do) ที่มีเมืองซูอันโบ
5.จังหวัดชอลลาบุกโด (Jeollbuk-do)
6.จังหวัดชอลลานัมโด (Jeollanam-do) มีเมืองกวางจู
7.จังหวัดเคียงซังบุกโด (Gyeongsangbuk-do)มีเมืองแดกู เคียงจู อันดง
8.จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) มีเมืองปูซาน อุลซาน
9.จังหวัดเชจูโด (Jeju-do) เกาะเชจูที่ตั้งอยู่ทางใต้สุด
เที่ยวอะไรในเกาหลี
1.กรุงโซล มีพระราชวังหลักทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วยพระราชวังเคียงบกที่ใหญ่โตที่สุด, พระราชวังชางด็อกคุงที่สวยงามที่สุด, ศาลเจียวชงเมียว ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก, วัดโชเกชา, วัดพงอึนชา, พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเกาหลี, อนุสรณ์สถานแห่งสงครามเกาหลี, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านและหมู่บ้านของเกาหลีในอดีต รวมทั้งตลาดดังอีกหลายๆแห่งที่พลาดไม่ได้ไล่ตั้งแต่ ตลาดทงแดมุน ตลาดนัมแดมุน ตลาดเมียงดง ตลาดอินซาดง ตลาดอิเทวอน
• ถ้าชอบสวนสนุกก็มีทั้งเอเวอร์แลนด์ ลอตเต้เวิลด์ ที่สนุกได้ไม่เบื่อทั้งวัน
• ถ้าชอบเดินห้างก็มีห้างใหญ่ไฮโซ ให้เลือกเดินมากมาย
2.เมืองรอบๆกรุงโซล ที่โดดเด่นและน่าไปเยี่ยมมองที่สุดคือ
• เมืองซูวอน เที่ยวป้อมปราการฮวาซอง
• เมืองชุนชอน มี เกาะนามิ ตามรอยละครดัง Winter Love Song เพลงรักในสายลมหนาว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยือนอยู่ไม่ขาดสาย
• เมืองยางจู ที่อยู่ทางตอนเหนือกรุงโซล ก็มีโรงถ่ายละครแดจังกึม ของสถานีโทรทัศน์ MBC ที่ฮิตเปรี้ยงปร้างอีกเรื่องในบ้านเราและทั่วเอเชีย
• เมืองอินชอน นอกจากชายทะเลแล้วยังเป็นที่ตั้งของสนามบินที่ดีที่สุดในโลกอีกแห่งนั่นคือสนามบินอินชอน
3.เมืองซกโซ อันเป็นเมืองหน้าด่านที่จะพาเราขึ้นไปพิชิตยอดเขาซอรักซาน ในอุทยานแห่งชาติเขาซอรักซาน ที่สวยที่สุดไปคนละแบบในแต่ละฤดู รวมทั้งชายทะเลของ เมืองหยางหยางและคังนึง ก็ไปเดินเล่นได้โดยได้โดยปราศจากสิ่งรบกวนทางสายตา ไม่ว่าจะเป็นร่มหรือเตียงผ้าใบ และหาปลาหมึกสดย่างรับประทานได้
4.เมืองอันดง สถานที่จัดงานระบำหน้ากาก ที่จัดราวเดือนตุลาคมของทุกปี รวมทั้ง หมู่บ้านฮวาเฮว ที่เก่าแก่ที่สุดในเกาหลี
สุดยอดที่สุดเห็นจะเป็น เมืองเคียงจู เป็นมรดกโลก ที่ได้ฉายาว่าเมืองพิพิธภัณฑ์ไร้กำแพงเพราะโบราณสถานและสถานที่สำคัญใน ประวัติศาสตร์ ต่างก็กระจายอยู่ที่โล่งต่างๆทั่วเมือง รวมทั้งวัดพุลกุกซาและถ้ำซอกกูรัม ที่ตั้งอยู่บนเขา
5.เมืองปูซาน เมือง ชายทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย รวมทั้งชายทะเลและตลาดค้าส่งปลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศได้รับเกียรติให้ จัดการต่างๆระดับนานาชาติหลายๆงานอยู่เป็นประจำ
6.เมืองซูอันโบ ที่ มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่ธรรมชาติ ทะเลสาบชงจูโฮ ที่เราสามารถนั่งเรือชมโขดหินที่รูปทรงแปลกตาได้ไม่มีเบื่อ รวมทั้งถ้ำโคสุ ถ้ำที่ลึก สูงและยาวที่สุด ซึ่งได้จัดเส้นทางให้เราเข้าไปชมความงามของหินงอกหอนย้อยได้ตามสบาย
• เมืองแทจอน ถือว่าเป็นเมืองแห่งวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นที่ตั้งของสวน แทจอน เอ็กซ์โป ที่เมืองนี้รับเป็นเจ้าภาพในการจัดงานเมื่อปี ค.ศ.1993 แม้จะเลยผ่านมาหลายปี สถานที่จัดงานก็ยังคงยังก็ยังคงจัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ ได้อย่างน่าสนใจเหมือนกัน
• เมืองคิมซัน ทางตอนใต้ของมณฑลแทจอน ก็เป็นแหล่งปลูกโสมที่ดีที่สุดในเกาหลีทุกสัปดาห์จะมีตลาดนัดซื้อขายโสมที่ตลาดคิมซัน
7.เมืองกวางจู เมืองทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ นั้นมีชื่อเสียงทางด้านการทำกิมจู ถึงกับมีเทศกาลการทำกิมจู ทุกๆปีราวเดือนพฤศจิกายน ส่วนที่ เมืองมกโพ เมืองชายทะเลก็มีเทศกาลพอกโคลนทุกปีเช่นกัน
8.เกาะเชจู ขึ้นชื่อ ในความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะขุนเขา ท่ามกลางอากาศเย็นสบายๆ หน้าร้อนก็ไม่ร้อนจนเกินไป ส่วนหน้าหนาวก็ไม่หนาวเหน็บขนาดมีหิมะตก ริมทะเลก็มีชายหาดสวย รวมทั้งน้ำตกและถ้ำก็มีกระจายทั่วเกาะ รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านให้เราได้ศึกษาวิถีชีวิตของคนเกาหลีในอดีต
เงินเกาหลี
• สกุลเงินของเกาหลี มีหน่วยเป็น “วอน” (Won) ถ้านำมาเทียบกับเงินบาทไทย 1 วอนจะมีค่าเท่ากับ 0.043 บาท
• สามารถแลกได้ตามธนาคารทั่วๆไปหรือตามเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราที่สนามบินก็ได้ แนะนำว่าควรจะคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกาหลีให้เพียงพอ เพราะที่เกาหลีหาที่แลกเงินค่อนข้างลำบาก และไม่ควรแลกเผื่อไว้เยอะเพราะถ้านำมาแลกเงินบาทคืน จะขาดทุนค่อนข้างเยอะ อัตราที่ธนาคารรับแลกคืนจะอยู่ราวๆ 0.030 บาทต่อ 1 วอน คิดง่ายๆถ้าเหลือเงินคืนมา 1,000 วอน ที่มันเคยมีมูลค่า 43 บาท
• ถ้ามีเงินยูเอสดอลล่าร์ นำไปแลกที่เกาหลี จะได้ราคาค่อนข้างดี
ไฟฟ้า
• เกาหลี ใช้กระแสไฟฟ้า 220 โวลท์ เหมือนบ้านเรา ปลั๊กไฟส่วนใหญ่จะเป็นรูกลมเล็ก 2 รู จำพวกที่ชาร์จแบตมือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องวดีโอจากเมืองไทยนำไปใช้ได้ ถ้าไม่มีปลั๊กหัวกลม ก็หาซื้อหัวแปลกปลั๊กไฟไปด้วย
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO : Korea Tourism Organization)
ประจำประเทศไทย
• ตั้งอยู่ชั้น 15 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ เลขที่ 191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.โทรศัพท์ 02-231 3895-6
• สามารถเข้าไปขอเอกสารการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเกาหลี หรือจะขอคำแนะนำในเรื่องต่างๆจากเจ้าหน้าที่โดยตรงก็ได้ เพราะนอกจากเอกสารที่ทาง KTO ทำแจกแล้วอาจมีโปรโมรชั่นดีๆ จากบริษัททัวร์ให้เราไปเที่ยวเกาหลีได้อย่างประหยัดและคุ้มค่าด้วยก็ได้
วีซ่าเกาหลี
• ผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยสามารถเดินทางเข้าเกาหลีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าและอยู่ในเกาหลีได้ 90 วัน
• สถานเอกอัครราชทูตเกาหลี ประจำประเทศไทย
23 ถนนเทียนร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ 0-2247-7537-41 แฟกซ์ 0-2247-7535
ที่มา oceansmile
No comments:
Post a Comment