Thursday, June 11, 2015

ทัวร์เวียดนาม เที่ยวเวียดนามเหนือ ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ 4 วัน 3 คืน

1.ทัวร์เวียดนาม ล่องเรือชมมรดกโลกอ่าว “ฮาลองเบย์”
2.เที่ยวเมือง นิงห์บิงห์ สัมผัสความงามของ “ฮาลองบก”
3.เคารพศพประธานาธิบดีโฮจิมินห์ วีรบุรุษของชาวเวียดนาม
4.ชมโชว์หุ่นกระบอกน้ำ วัฒนธรรม 1 เดียวในโลก
5.เที่ยวเวียดนาม ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองหลากหลายชนิด ถนน 36 สาย
--------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 1 กรุงเทพฯ – ฮานอย – ฮาลอง – ช้อปปิ้งตลาดกลางคืน
10.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ Q สายการบินการ์ตาร์แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ
13.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงฮานอยโดย เที่ยวบินที่ QR 834
15.10 น. สนามบินนอยไบ กรุงฮานอย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาลอง ดินแดนแห่งมังกรหลับใหลตั้งอยู่ใน จังหวัดกว่างนิงห์ซึ่งจังหวัดนี้จะมีพรมแดนร่วมกับจีนทางทิศเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม โดยรถโค้ชปรับอากาศ ระยะทางประมาณ 165 กิโลเมตร ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศข้างทาง ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่การเกษตรกรรมและนาข้าวเขียวขจี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  นำท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกที่ตลาดกลางคืน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการต่อรองสินค้า ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า หรือสินค้าพื้นเมืองต่างๆมากมาย
  นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม  BLUE SKY HOTEL  (ระดับ 3 ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่ 2 ฮาลอง – ล่องเรืออ่าวฮาลอง – ถ้ำนางฟ้า – นิงห์บิงห์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อล่องเรือชมความงดงามของ อ่าวฮาลองเบย์ อ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ นั้นตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนาม ได้กล่าวถึงมังกรโบราณซึ่งเคยร่อนมาลงในอ่าวนี้เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์ และชื่อของฮาลอง ก็แปลได้ว่า มังกรร่อนลง เชิญท่านสัมผัสจากความงดงามและสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง จนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ. 2537 สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้แต่งแต้มด้วยเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตานับพันเกาะ สลับซับซ้อนเรียงตัวกันอย่างสวยงาม  ผ่านเกาะต่างๆ ที่มีรูปร่างแปลกตา ลักษณะทั่วไปของอ่าวฮาลองนั้นประกอบไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยจำนวนกว่า 1,000 เกาะ และมีเนื้อที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวตังเกี๋ยของทะเลจีนใต้ นำท่านเข้าชม ถ้ำนางฟ้า ชมหินงอกหินย้อยต่างๆ ภายในถ้ำ ที่ประดับตกแต่งด้วยแสงสีสวยงาม หินแต่ละก้อนจะมีลักษณะคล้ายกับสัตว์ตามแต่ท่านจินตนาการ ชม กระชังปลา ของชาวประมงโดยจะสร้างแพและกะชังไว้สำหรับเลี้ยง กุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆได้จากที่นี่
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน บนเรือ (อาหารซีฟู๊ด) ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของอ่าวฮาลอง
  หลังอาหารกลางวัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนิงห์บิงห์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองฮานอย เป็นจังหวัดที่มีความพิเศษทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นอยู่อย่างหนึ่งคือ มีพื้นที่ที่เป็นที่ชุ่มน้ำ ในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาล จนพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า “ อ่าวฮาลองบนแผ่นดิน หรือ ฮาลองบก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม YEN NHI HOTEL (ระดับ 3 ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่ 3 นิงห์บิงห์ – ล่องเรือฮาลองบก – ถ้ำตำก๊อก – ทะเลสาบคืนดาบ – โชว์หุ่นกระบอกน้ำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  นำท่านล่องเรือพาย ล่องไปตามคลอง ซึ่งสองข้างทางโอบล้อมด้วยภูเขาหินปูน ชมทิวทัศน์อันงดงามเขียวขจีและบรรยากาศอันแสนสดชื่น ระหว่างทางไปชมถ้ำต่าง ๆ จะผ่านนาข้าว ซึ่งมีอยู่ทั้งสองข้างทาง จากนั้นนำท่านชม ถ้ำตำก๊อก เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยอันน่ามหัศจรรย์ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความลึกของเทือกเขา ภูเขาและทะเลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้ที่นี่มีภูมิประเทศที่ราวกับภาพวาด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองฮานอย มีความหมายว่า “เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่าน” ซึ่งหมายถึงแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านตัวเมืองฮานอย อันเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ชมทะเลสาบคืนดาบ ทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย ทะเลสาบแห่งนี้มีตำนานกล่าวว่า ในสมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามได้สงครามมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้สักที ทำให้เกิดความท้อแท้พระทัย เมื่อได้มาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ ได้มีเต่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งได้คาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ เพื่อทำสงครามกับประเทศจีน หลังจากที่พระองค์ได้รับดาบมานั้น พระองค์ได้กลับไปทำสงครามอีกครั้ง และได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อเสร็จศึกสงครามแล้ว พระองค์ได้นำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้ นำท่านข้าม สะพานแสงอาทิตย์ สีแดงสดใสสู่กลางทะเลสาบคืนดาบ ชมวัด หง๊อกเซิน วัดโบราณ ภายในประกอบด้วย ศาลเจ้าโบราณ และ เต่าสต๊าฟ ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อว่า เต่าตัวนี้ คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 2 ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านาน ชมการแสดง ระบำตุ๊กตาน้ำ ศิลปกรรมประจำชาติ เอกลักษณ์ของประเทศเวียดนามและมีแห่งเดียวในโลก ชมความสามารถในการเชิดหุ่นกระบอก (เชิดจากในน้ำผสมผสานกับเสียงบรรเลงของเครื่องดนตรีเวียดนามและพากย์สดๆของคณะละคร) นำเสนอเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ประเพณี วัฒนธรรมของชาวเวียดนาม และบอกกล่าวถึงเมืองหลวงฮานอย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม VESNA HOTEL (ระดับ 3 ดาว) หรือเทียบเท่า

วันที่ 4 ฮานอย – สุสานลุงโฮ – วัดเจดีย์เสาเดียว – พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – ช้อปปิ้งถนน 36 สาย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  ชมสุสานลุงโฮ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1973 ชมร่างของรัฐบุรุษอาวุโสอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ซึ่งได้รับการอาบน้ำยาเป็นอย่างดีอยู่ในโลงแก้วภายในห้องที่ควบคุมอุณหภูมิคงที่ (หมายเหตุ สุสานโฮจิมินห์จะปิดทุกวันจันทร์, วันศุกร์ และตลอดทั้งเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี แต่สามารถชมบริเวณภายนอกได้) ชมบ้านพักที่อยู่อาศัยของท่านอดีตประธานธิบดีโฮจิมินห์ซึ่งครั้งหนึ่งใช้เป็นศูนย์บัญชาการในสงครามเวียดนาม จากนั้นชม วัดเจดีย์เสาเดียว One Pillar Pagoda ที่มีอายุกว่า 400 ปี เป็นเจดีย์ไม้ที่มีความงดงามมาก ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระบัวเป็นที่เคารพสักการะของชาวเวียดนามมาแต่โบราณ จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ สถานที่แสดงประวัติการเดินทางของลุงโฮ ในการศึกษาหาความรู้เพื่อกอบกู้ชาติ ภายในอาคาร มีการจัดแบ่งเป็นห้องต่าง ๆ จัดแสดงงานศิลปะ และภาพถ่ายต่างๆซึ่งเป็นกิจกรรมที่อดีตประธานาธิบดีฯเคยทำเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่พร้อมทั้งมีห้องจัดนิทรรศการ, ห้องสมุด, ห้องวิจัย และห้องประชุม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านชม ทะเลสาบตะวันตก ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ของกรุงฮานอย  จากนั้นเชิญท่าน อิสระช้อบปิ้งถนน 36 สาย  มีสินค้าราคาถูกให้ท่านได้เลือกสรรมากมาย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึกต่างๆ ฯลฯ
  สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินนอยไบ เพื่อเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
16.35 น. เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ  โดยสายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 835
18.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ…



No comments:

Post a Comment