ปราสาทพิมานอากาศ สร้างขึ้นในปีพุทธศตวรรษที่ 15 ในรัชสมัยของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 และพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ปราสาทพิมานอากาศเป็นศิลปะแบบคลังและเป็นศาสนาฮินดู ไศวนิกาย
ปราสาทพิมานอากาศ เป็นเพียงปราสาทเดียวที่ก่อสร้างจากหินทรายอยู่บนฐานศิลาแลงซ้อนกัน 3 ชั้น คล้ายๆกับปิรามิด ความสูงของฐานปราสาทพิมานอากาศทั้ง 3 ชั้นประมาณ 12 เมตร มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีบันไดลาดชันทั้ง 4 ด้าน ทางเข้าชมพระราชวังนั้นผู้ที่มาทัวร์กัมพูชาจะต้องเดินผ่านฐานขึ้นบนพลับพลาสูงไปตามบันไดครุฑ เนื่องจากพระราชวังต้องอยู่บนพลับพลาสูง เมื่อผู้มาทัวร์กัมพูชาขึ้นไปสู่พลับพลาจะได้พบกับประติมากรรมรูปสิงค์ ศิลปะสมัยบายนนยืนอยู่เชิงบันไดทั้งสองข้าง บนฐานพลับพลามีร่องรอยการปลุกสร้างพลับพลาในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ให้ออกว่าราชการตรวจพลสวนสนาม หรือประกอบพิธีทางศาสนา แต่ในปัจจุบันไม่เหลือร่องรอยแล้วเนื่องจากสิ่งก่อสร้างทำจากไม้
ปราสาทพิมานอากาศมีอายุที่ยาวนานส่วนใหญ่นั้นได้พังทลายไปบ้าง แต่ส่วนที่มีสภาพดีที่สุดคือ ทิศตะวันตก สองด้านของบันไดทางขึ้นมีประติมากรรมลอยตัวรูปสิงห์และรูปช้างที่มุมฐานทั้งสามชั้น ตัวปราสาทบนฐานชั้นบนสุดด้านนอกเป็นระเบียงคตทำจากหินทราย ภายในของตัวปราสาทสร้างอยู่บนฐานสูง 2.5 เมตรจากการบันทึกของจิ่วต้ากวนได้กล่าวไว้ว่า ปราสาทแห่งนี้กษัตริย์ขอมจะเสด็จมาบรรทมกับนางนาคเก้าเศียรที่แปลงร่างเป็นสาวสวยซึ่งเป็นตำนานที่เล่าขานกันของชาวจีนที่มีอาศัยอยู่ในเมืองพระนครหลวงในสมัยนั้น
สระน้ำหลวง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 45 เมตร ยาว 125 เมตร ขอบสระเป็นหินทรายล้อมรอบหลายชั้น เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และได้มีการแกะสลักภาพเพิ่มเติมในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทางด้านทิศใต้ของสระจะมีกำแพงยาวต่อขึ้นไปทางทิศตะวันตกสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นเพื่อกั้นชั้นดินจากปราสาทพิมานอากาศไม่ให้ไหลลงมาในสระแห่งนี้ จุดเด่นของกำแพงแห่งนี่ก็คือ ภาพแกะสลักที่สมบูรณ์ภาพบางตอนจะคล้ายภาพที่ผนังลายพระเจ้าขี้เรื้อน สระน้ำด้านทิศตะวันออกมีขนาดกว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร มีลักษณะเป็นสระน้ำหินทรายลึก 4.5 เมตร เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังที่สร้างในบริเวณนี้ครั้งแรก ระเบียงและสระน้ำด้านทิศตะวันตกและสระน้ำหลวงด้านนอกนั้นจะเป็นกำแพงศิลาแลงค่อนข้างทรุมโทรม ถัดเข้ามาจะเป็นสระน้ำขนาดเล็กและมีระเบียงต่ำๆจุดเด่นที่อยากแนะนำผู้มาทัวร์กัมพูชาก็คือ ภาพสลักบนกำแพง และที่ระเบียงทิศตะวันออก ระเบียงจะเป็นรูปไม้กากบาทมีเสากลมอยู่ด้านล่างแต่อาจจะเดินเข้าไปลำบากสักหน่อย
No comments:
Post a Comment