หอเอนปิซ่า อิตาลี
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์เรื่องหนีตามการิเลโอ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงก็คือ หอเอนแห่งเมืองปิซ่านั่นเอง วันนี้มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ยุโรปในประเทศอิตาลีกันคะ
หอเอนปิซ่าถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอนคะ หอเอนปิซ่านี้เป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วยนะคะ จึงมีนักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ยุโรปต้องแวะมาชมที่แห่งนี้ หอเอนปิซ่านี้ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 200 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ในช่วงแรกเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1173 หรือ พ.ศ.1716 แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าใครเป็นคนออกแบบ หอเอนปิซ่าแห่งนี้เมื่อสร้างได้ 3 ชั้นการก่อสร้างต้องถูกยุติลงในปี 1178 หรือ พ.ศ.1721 เพราะในขณะนั้นเมืองปิซ่าตกอยู่ในสภาวะสงคราม ในเวลาต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1275 หอเอนปิซ่าแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างต่ออีกครั้งโดยมีสถาปนิกชื่อว่า จิโอวานนี ดิ ซิโมเน (Giovanni di Simone)ซึ่งเขาสร้างเพิ่มอีก 4 ชั้น แต่ก็ต้องยุติการก่อสร้างอีกเมื่อปี ค.ศ.1284 เพราะสงครามอีกเช่นกัน กว่าจะมีการสร้างส่วนบนสุดของหอเอนปิซ่าซึ่งเป็นหอระฆังเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบ 100 ปีเลยละคะ โดยหอระฆังถูกสร้างโดย โดย ทอมมาโซ ดิ แอนเดรีย ปิซาโน (Tommaso di Andrea Pisano)ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1372 โดยระหว่างการก่อสร้างในช่วงแรกเพียงแค่ 5 ปี หลังจากเริ่มก่อสร้างก็ได้พบว่า หอเอนปิซ่านั้นเริ่มเอนไปทางทิศเหนือ สามารถสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของหอเอนปิซ่าเมื่อตอนต่อเติมช่วงที่สอง แต่ทางสถาปนิกจิโอวานนี ดิ ซิโมเน ยังคงเดินหน้าก่อสร้างต่อไป และสาหาตุที่หอเอนปิซ่าเอนไปทางทิศเหนือนั้น มีผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ว่าเป็นเพราะพื้นดินที่ใช้ในการก่อสร้างไม่อำนวย เพราะชั้นดินมีลักษณะปบทรายและดินโคลนซึ่งทำให้ยุบตัวลงและไม่แข็งแรงพอที่จะสามารถรองรับน้ำหนักของหอคอยขนาดใหญ่ได้ แต่ด้วยวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างนั้นทำมาจากหินปูน และปูนขาว ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถโค้งงอและทนต่อแรงต่างๆได้ดีกว่าวัสดุอื่นๆ และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมหอเอนปิซ่าถึงไม่ถล่มเพียงแต่ค่อยๆเอยลงเท่านั้นคะ นักท่องเที่ยวหลายคนคงหายคล่องใจกันแล้วนะค่ะ ว่าทำไมหอเอนปิซ่าถึงไม่ล้มลง
ซึ่งในปัจจุบันนี้หอเอนปิซ่าลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ว่า หอเอนปิซ่าแห่งนี้อาจพังถล่มลงอย่างแน่นอนเพราะในทุกๆ 20 ปี หอเอนปิซ่าแห่งนี้เอนลงมา 1 นิ้ว และยังมีคนทำทายว่าจะพังถล่มลงมาในปี 2200 หากยังไม่มีการป้องกัน สถานที่แห่งนี้สวยงามและอัศจรรย์เป็นอย่างจึงอยากแนะนำผู้ที่วางแผนทัวร์ยุโรปลองแวะไปที่นี่กันดูนะค่ะ
No comments:
Post a Comment