เจดีย์เยเลพญาหรือที่เรียกกันว่า เจดีย์กลางน้ำ สร้างขึ้นในสมัยของมอญในช่วงที่รุ่งเรืองอำนาจเมื่อประมาณพันปีก่อนโดยมีคหบดีชาวมอญซึ่งเป็นผู้สร้างและได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าหากน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์เจดีย์ ถ้าหากมีนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าหรือผู้คนมากราบไหว้เป็นจำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มพื้นที่เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างอยู่บนเกาะที่เป็นเกาะเล็กๆอยู่กลางแม่น้ำกว้างใหญ่และเจดีย์แห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องไหว้พระขอพรทำธุรกิจทางการค้า
เจดีย์เยเลพญา หรือเจดีย์กลางน้ำ มีตำนานอยู่ว่าเจดีย์นี้สร้างในสมัยที่มอญมีความเจริญรุ่งเรืองเมื่อพันปีก่อนโดยพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ฝันว่าที่แห่งนี้นั้นมีเจดีย์ที่มีความงดงามจากนั้นจึงได้ไปทูลกษัตริย์ในสมัยนั้นเพื่อให้สร้างเจดีย์กลางน้ำแห่งนี้ขึ้นมาและที่นี่ยังมีงานพิธีที่สามารถจุคนได้ประมาณ 2 หมื่นคนซึ่งถือว่าเป็นเจดีย์กลางน้ำที่มีเรือรองรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าจำนวนมาก ภายในศาลาริมน้ำจะมีแม่ค้าพ่อค้านำดอกไม้ ธูป เทียน พวงมาลัย ธง-ฉัตรมาวางขาย ก่อนที่จะลงเรือนักท่องเที่ยวต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเรือและจะมีเด็กมานวดเท้าให้ ระหว่างที่เดินตามริมน้ำก็จะเจอกับชาวพม่าที่มานมัสการเป็นจำนวนมาก ระหว่างประตูทางขึ้นไปจะพบกับยักษ์สีเขียว 288ตน ที่ประตูทางเข้านั่งขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง ชาวพม่านั้นเชื่อกันว่าหากนำมือไปลูบที่ตัวยักษ์เช่น ลูบที่หลังยักษ์แล้วมาลูบที่หลังตัวเองอาการปวดหลังก็จะหายไป ปวดจุดไหนก็ให้ลูบจุดนั้น ประตูทางเข้าจะเป็นไม้ฉลุที่ทาสีทองอร่ามตา นักท่องเที่ยวนมัสการพระพุทธรูปที่เก่าแก่ทรงเครื่องจักรพรรดิซึ่งประดิษฐานอยู่บนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดด้วยทองคำเปลวซึ่งสวยงามเป็นอย่างมาก วัดโดยทั่วไปจะทำกระจกกั้นองค์พระไว้ส่วนของบูชานั้นก็จะคล้ายๆกันเกือบหมดก็คือ มะพร้าว กล้วย ดอกไม้และใบชัยชนะในส่วนที่สำคัญของพระเจดีย์เยเลพญานั้นจะอยู่ที่มุขที่ยื่นออกไปในน้ำด้านหลังของเจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระอุปคุตในตำนานได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าอโศกมหาราชเห็นพระอุปคุตที่ได้รับนิมนต์ขึ้นมาจากใต้สมุทรเพื่อป้องกันพระยามารมาทำลายการฉลองเจดีย์ เมื่อพบพระอุปคุตเห็นว่าผอมแห้งไม่น่าจะปราบมารได้จึงแกล้งปล่อยช้างตกมันมาทำร้ายเป็นการทดสอบพระอุปคุตจึงแสดงการปราบช้างสำเร็จ พระเจ้าอโศกจึงถวายภัตตาหารแต่จะเลยเวลาฉัน ท่านได้กล่าวกับพระอาทิตย์ว่าหยุดก่อนเถิดท่านเราเพิ่งปฏิบัติกิจเสร็จยังไม่ได้ฉันอาหารเลยว่ากันว่าพระอาทิตย์ก็หยุดเพื่อรอพระอุปคุตฉันอาหารจนเสร็จ ชาวพม่าจึงนิยมสร้างรูปพระสงฆ์ล้วงบาตรเงยหน้ามองพระอาทิตย์ เพราะเชื่อกันว่าพระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้และมีโชคลาภ นักท่องเที่ยวสามารถที่มาทัวร์พม่าอธิษฐานขอพรได้จากนั้นก็ลองยกก้อนหินที่วางอยู่ด้านหน้า 2 ครั้ง หากท่านรับคำอธิษฐานของเราผู้ยกหินจะรู้สึกว่ายกก้อนหินทั้ง 2 ครั้งจะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน แต่หากไม่พบความแตกต่างก็ถือว่าจะไม่ได้ตามคำขอ
การเดินทางเมืองสิเรียมนั้นไม่ยากค่ะ เมืองสิเรียมอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
No comments:
Post a Comment