Saturday, May 9, 2015

พระเจดีย์มิงกาลา

พระเจดีย์มิงกาลา หรือที่คนไทยเรียกกันว่า มงคลเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่อยู่นอกกำแพงเมืองเก่าพุกาม และยังเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของการเข้ามาเที่ยวชมของนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่า ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่านิยมจะมาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่และชมทะเลเจดีย์ขนาดใหญ่เมื่อมองแล้วจะมีแสงสะท้อนสีทองของพระอาทิตย์ในยามเย็นซึ่งเป็นบรรยากาศที่งดงามเป็นอย่างมาก

พระเจดีย์มิงกาลานี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชมนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้จากภายนอกรอบๆพระเจดีย์ แต่จะมีผู้ที่ดูแลเจดีย์นี้อยู่ เขาสามารถพานักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้โดยที่เขาจะเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวเข้าไปชม พื้นที่บริเวณรอบๆพระเจดีย์มิงกาลานี้เคยมีผู้คนมากมายและยังมีร้านที่ขายของที่ระลึกอยู่เต็มไปหมด แต่ทางรัฐบาลได้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าเข้าไปชมเจดีย์และบริเวณรอบๆจึงทำให้เจดีย์นั้นดูทรุดโทรมลงไปมาก ตามทางเดินรอบเจดีย์จะปูด้วยอิฐก้อนขนาดใหญ่ เมื่อเดินอ้อมไปด้านตรงข้ามกับประตูทางเข้าไกด์นำทางปีนขึ้นบันไดอิฐที่ค่อนข้างจะชันเหมือนกับเจดีย์ที่อื่นๆ บนทางเดินชั้นที่สามของเจดีย์นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทุ่งเจดีย์ที่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง อีกด้านหนึ่งจะเห็นแม่น้ำอิระวดีและเมื่อมองออกไปให้ไกลจากเดิมจะเห็นทิวเขาอยู่ด้านหลังไกลๆซึ่งเป็นทัศนียภาพที่งดงามเป็นอย่างมาก บริเวณรอบๆองค์พระเจดีย์ด้านบนนั้นจะมีกระเบื้องที่เคลือบลวดลายที่สวยงามเกี่ยวกับเรื่องราวของพุทธประวัติเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ชำรุดเสียหายไปมาก คนที่เฝ้าเจดีย์ได้เล่าว่าเคยมีคนมาขโมยและงัดแผ่นกระเบื้องเคลือบพวกนี้ไปมากที่เหลือนั้นก็จะเห็นเฉพาะที่ชำรุดและเสียหายซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่หายากแล้วยังบ่งบอกถึงคนที่ทำลายสมบัติของชาติตนเองอีก กลับมาดูพื้นด้านล่างเมื่อเดินไปตามทางจะมีอิฐที่เรียงรายบนพื้นรอบองค์เจดีย์ซึ่งก็ชำรุดและเสียหายเช่นกัน

เมื่อลองมองขึ้นไปที่เจดีย์ที่ตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสรูปรงจะคล้ายๆกับปิรามิดแต่ด้านบนนั้นจะแตกต่างกับปิรามิดของที่อื่นคือด้านบนทางเดินชั้นที่ 2 และ 3 นั้นมีการก่ออิฐเรียงเป็นช่องคล้ายๆใบเสมาหรือป้อมค่ายของปราสาทล้อมรอบทางเดินตลอดแนวทั้ง 4 ด้าน ในแต่ละมุมจะมีอิฐที่ก่อเป็นพานพุ่มใหญ่ๆหรือเจดีย์องค์เล็กๆทั้ง 3 ด้าน ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้ลองชมกันก็คือ ซากหินแผ่นใหญ่ๆที่มีลักษณะคล้ายๆร่ม คนพม่าจะเรียกกันว่า สโตน อัมเบลล่า และบางอันนั้นก็ยังตั้งอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อีกด้วย

No comments:

Post a Comment