วัดทิโลมินโล (Htilominlo Pagoda ) สร้างโดยพระเจ้าติโลมิโล เมื่อปี พ.ศ.1761 ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามเป็นอย่างมากทั้งภายในและภายนอก และที่สะดุดตานักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าก็คือปูนปั้นบริเวณด้านนอกของวิหารนันปยะ
วิหารนันปยะตามตำนานนั้นกล่าวว่าเป็นที่ประทับของพระเจ้ามนูหะซึ่งพระเจ้าอโนรถาได้ทรงจับเป็นเชลยมาจากเมืองสะเทิน สร้างจากอิฐและสอดินพื้นนั้นปูด้วยหิน แผงผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและมีมุขยื่นออกไปทางทิศจะวันออกใกล้กับแท่นบูชา ภายในอาคารนั้นมีเสาหินอยู่ 4 เสา แต่ละด้านของเสาจะสลักลายดอกไม้รูปสามเหลี่ยมและเทวรูปพระพรหมถือดอกบัวอยู่ในแต่ละหัตถ์ การตกแต่งภายนอกนั้นก็เป็นที่น่าสนใจไม่น้อยบานหน้าต่างจะเป็นช่องๆปรุทำจากศิลาซึ่งเป็นแบบอย่างและวิธีของงานพุกาม ลวดลายที่ประดับตามกรอบหน้าต่างและส่วนอื่นๆของผนังล้วนแต่ได้รับวัฒนธรรมจากมอญมาทั้งนั้น พระเจดีย์ธรรมยาจีสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้านรถา เจดีย์อานันทะชื่อเดิมคืออนันตปัญญาซึ่งเป็นวิหารที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีมุขเสด็จออกไปทั้ง 4 ด้านในแต่ละด้านจะมีซุ้มคูหาเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปทรงสูง 10 เมตร ซึ่งมีความสวยงามและเป็นศิลปะพระพุทธรูปต้นแบบสมัยพุกาม เจดีย์สัพพัญญู เป็นวิหารที่สูงที่สุดในพุกามมีทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 201 ฟุต เป็นวัดประจำของรัชกาลพระเจ้าอลองสินธ สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบวันในอินเดียมีความสูง 5 ชั้น ในชั้นที่ 4 จะเป็นที่ประดิษฐานของพระไตรปิฏกฉบับต้นแบบและชั้นที่ 5 นั้นจะเป็นองค์พระสถูปอันศักดิ์สิทธิ์ พระเจดีย์กูบยางคยี ที่สร้างขึ้นโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิธะเมื่อประมาณปี พ.ศ.1656 พระเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในแบบศิลปะของพุกามตอนต้น ภายในเจดีย์นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าจะได้พบกับภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามที่สุดของเมืองพุกามที่ยังหลงเหลืออยู่ในพระเจดีย์มิงกาลา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าจะได้พบกับทัศนียภาพของอาณาจักรพุกามจากมุมสูงซึ่งจะสามารถมองเห็นพระเจดีย์น้อยใหญ่ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและนี่เป็นที่มาของชื่อ ดินแดนแห่งพระเจดีย์สี่พันองค์ นั้นเอง และนอกจากนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่ริมแม่น้ำอิระวดีที่พระเจดีย์บุพะยาซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงามเป็นอย่าง สถานที่ช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองอย่างพวกเครื่องเขิน จะอยู่ในบริเวณหมู่บ้านพุกามใหม่ ที่นี่เปิดมานานติดต่อกันกว่า 1,000 ปี
หมู่บ้านแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาโดยทางน้ำเท่านั้น โดยจะมีเรือออกจากมัณฑะเลย์ทุกวัน และใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง สำหรับการเดินทางมายังที่นี่นั้นนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านบนลำน้ำสายนี้ มิงกุนตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเอยาวดี ทางตอนบนสุดของทิวเขา
No comments:
Post a Comment