Thursday, March 26, 2015

ท่องเที่ยวรัสเซีย อุณหภูมิ มอสโก เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เวลา
ประเทศรัสเซียมีความแตกต่างของเวลาระหว่างตะวันตกและตะวันออก 11 เขตเวลา โดยเวลาของกรุงมอสโกจะช้ากว่าเวลาของกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมงในช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม และจะช้ากว่าบ้านเรา 4 ชั่วโมงในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม

ภาษา
ประเทศรัสเซียใช้ ภาษารัสเซียเป็นภาษาประจำชาติ ประชาส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้สำหรับคนรัสเซียที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี คือ คนที่ทำงานอยู่ในส่วนของโรงแรม บริษัทท่องเที่ยว ไกด์ บริษัทเอกชนของต่างชาติ พ่อค้าแม่ค้าขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว ส่วนร้านค้า ห้างสรรพสินค้า แท็กซี่ ต่างต้องใช้คู่มือภาษารัสเซียและภาษามือเข้าช่วยในในการซื้อต่อรองราคา สินค้าต่างๆหรืออาจใช้เครื่องคิดเลขในการต่อรองกัน


ระบบไฟฟ้า
ใช้ไฟฟ้าในรัสเซียบ้านที่ 220โวลล์ เหมือนเมืองไทยแต่มีข้อแตกต่างตรงที่เครื่องไฟฟ้าทุกชนิดจะเป็นปลั๊กขากลม 2 ขาและเต้าเสียบจะเป็นรูกลม 2 รู ซึ่งขนาดของรูกลมและความกว้างระหว่างขาปลั๊กและรุเต้าเสียบจะเหมือนเครื่อง ใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยบางประเภท ปลั๊กเสียบเป็นขาแบน 2 ขาฉะนั้นจะต้องใช้ ADAPTOR ต่อให้เป็นขากลม 2 ขาก่อน

อาหารการกิน
อาหารที่ เป็นที่นิยมของชาวรัสเซียนจะเป็นพวก ซุปกะหล่ำแบบดั้งเดิม (Shchi) ซุปบีทรูท (Borsch) สลัดมันฝรั่ง (Stilichnii) สตูว์หมู (Azu) เนื้อตุ๋นในครีมเข้มข้น (Beef Stroganoff) ฯลฯ หรือจะไปลิ้มลองอาหารแบบคอเคซัสตามร้านอาหาร หรือภัตตาคารภายในที่พักในรัสเซียของท่านก็น่าสนใจนะคะ อาทิ อาหารจอร์เจียน อาหารอาร์เมเนียน และอาหารอัสซูเรียน (อาเซอร์ไบจัน) ที่โดดเด่นด้วยรสชาติเผ็ดร้อนแบบตะวันออก อาหารจานเด็ดของเขาได้แก่ เนื้อแกะ และ เนื้อปลาสเตอร์เจียน สำหรับอาหารแป้งประจำชาติของรัสเซียก็คือ แพนเค้ก แพนเค้กที่นี่เป็นได้ทั้งของคาวและของหวานเลย ถ้าเป็นของหวานจะมีเอกลักษณ์ตรงแป้งที่เหนียวนุ่มและมีไส้อยู่ข้างใน ซึ่งมีไส้ให้ท่านได้เลือกชิมอย่างหลากหลาย ส่วนอาหารที่แพงที่สุดของประเทศคือ คาเวียร์ หรือไข่ดำจากปลาสเตอร์เจี้ยน นิยมโปะหน้าแพนเค้ก

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
  • พระราชวังเครมลิน
  • มหาวิหารเซนต์บาซิล
  • จัตุรัสแดง
  • มหาวิหารเซ็นต์ซาเวียร์
  • ห้างสรรพสินค้ากุม (Gum)
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
  • พระราชวังฤดูร้อนปีโตรเดอร์วาเรส
  • พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว
  • วิหารเซ็นไอแซค
  • โบสถ์แห่งหยดเลือด
  • โบสถ์คาซาน
  • อนุสาวรีย์พระเจ้าปีเตอร์มหาราช
  • ฯลฯ


อุณหภูมิ มอสโก เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปทัวร์รัสเซีย อยากแนะนำข้อมูลที่ควรทราบกันสักหน่อยเพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวเองสภาพอากาศของรัสเซีย เมืองมอสโก เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซียนั้นมีอยู่ 4 ฤดูก็คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูร้อนของรัสเซียจะเริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15 องศาในช่วงเดือนมิถุนายนอาการจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของปีอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 25-30 องศาชาวรัสเซียจะถือว่าร้อนมากเนื่องจากรัสเซียมีความชื้นน้อยมากคนรัสเซียจะออกมานอนอาบแดดกัน ในเดือนสิงหาคมอากาศก็จะลดลงเหลือประมาณ 15-20 องศา

        ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายนอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเท่านั้น เดือนกันยายนน้ำจะเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งอาจจะมีฝนตกบ้างเป็นบางวัน เมืองนั้นก็จะเริ่มสวยงามเนื่องจากเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองเมื่อกระทบกับแสงแดดจะเป็นสีทองสวยงามมากช่วงนี้เหมาะมากที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาทัวร์รัสเซีย และอุณหภูมิจะลดลงไปเรื่อยๆจนถึง -5 องศา ในเดือนพฤศจิกายนจะมีหิมะตกอยู่บ้าง

        ฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมินั้นจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ -10 องศา ช่วงเดือนธันวาคมจะเริ่มมีหิมะตกหนักกลางเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีอุณหภูมิจะอยู่ที่ -15 จนถึง -30 องศาบรรยากาศทั่วเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั่วทุกแห่ง การสัญจรนั้นก็ค่อนข้างลำบาก

        ฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคมอุณหภูมิประมาณ 5 องศา เดือนมีนาคมน้ำแข็งที่ปกคลุมในฤดูหนาวจะค่อยๆละลายสภาพอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นแต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทัวร์รัสเซียต้องระวังในเรื่องของการสัญจรเพราะถนนจะเปียกและสกปรกอาจจะทำให้เสื้อผ้าเปื้อนได้ ในเดือนพฤษภาคมอุณหภูมิจะอยู่ที่ 15 องศาและจะเริ่มมีแดดส่องบ้างในบางวัน

        เวลาในรัสเซียของเมืองมอสโกและเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กจะช้ากว่า 3 ชม.ตั้งแต่เดือนเมษายน – เดือนกันยายนและจะช้ากว่า 4 ชม.ตั้งแต่เดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม ในเรื่องของเวลาเปิด-ปิดร้านค้าในมอสโกและเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ร้านค้า ที่ทำการ หรือสถานที่ท่องเที่ยวโดยทั่วไปจะเปิดทำการประมาณ 10.00 น. ห้างสรรพสินค้าจะเปิดถึง 21.00 น. ส่วนร้านเล็กๆจะเปิดทำการถึง 19.00 น. ธนาคารจะเปิดถึง 17.00 น. ร้านอาหารใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงจะเปิดตั้งแต่ 12.00 - 24.00 น. นอกจากนี้ร้านอาหารแหล่งสถานที่บันเทิงต่างๆอย่างคาสิโนจะเปิดตั้งแต่ 17.00 – 06.00 น.ของวันถัดไป


        การเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าต่างๆในเมืองมอสโกและเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ร้านค้าส่วนใหญ่จะขายสินค้าเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น การซื้อสินค้าตามร้านแผงลอยข้างถนนคีโอสหรือตลาดนัดส่วนใหญ่จะขายของที่ระลึก การซื้อนักท่องเที่ยวสามารถต่อรองราคาได้



  การเดินทางโดยรถเมล์ในรัสเซีย ที่นี่จะมีรถเมล์อยู่ 2 แบบ ก็คือรถเมล์ปกติที่ใช้น้ำมันทั่วไปภาษารัสเซียเรียกว่า อัฟโตบุส (ABTOBUS) และรถเมล์แบบไฟฟ้าภาษารัสเซียเรียกว่า ลีบุส (TALEBUS)เป็นรถเมล์ที่มีจุดสัมผัสไฟฟ้าอยู่บนหลังคารถเมล์จะวิ่งไปตามสายไฟฟ้าตลอดถนนในแต่ละสาย สภาพของรถโดยทั่วไปก็จะเก่าหน่อยแต่ก็ยังใช้งานได้ดี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทัวร์รัสเซียจะต้องซื้อตั๋วที่จุดขายซึ่งจะแขวนอยู่ภายในรถเมล์นั้นแหละคะ นักท่องเที่ยวต้องเก็บตั๋วไว้เผื่อมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ หากไม่มีตั๋วจะถูกปรับในราคาที่สูงมากเนื่องจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจะขึ้นมาตรวจเป็นประจำ รถเมล์ในรัสเซียจะจอดรับ – ส่งผู้โดยสารทุกป้ายเวลาของรถจะเริ่มตั้งแต่ 05.30 – 01.00น. ของวันรุ่งขึ้น

        รถรางไฟฟ้าในรัสเซียภาษารัสเซียเรียกว่าตรัมวัย (TRAMVAI)ที่รัสเซียจะใช้รถรางเป็นพาหนะอีกชนิดหนึ่งส่วนมากแล้วจะวิ่งอยู่กลางถนนสายหลักๆของเมือง สภาพก็จะค่อนข้างเก่า การให้บริการก็จะเหมือนกับรถเมล์และรถเมล์ไฟฟ้า รถรางไฟฟ้าจะจอดรับ – ส่งผู้โดยสารทุกป้ายและวิ่งตั้งแต่ 05.30 – 01.00น.ของวันรุ่งขึ้นเหมือนรถเมล์และรถเมล์ไฟฟ้า

        แท็กซี่ (TAXI) ในรัสเซีย ที่นี่จะมีรถแท็กซี่ขึ้นป้ายอยู่ไม่มากนัก สีของรถจะเป็นสีเหลืองล้วนค่าโดยสารจะใช้มิตเตอร์หรือต่อรองราคากันได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วรถโดยสารนั่งส่วนบุคคลในรัสเซียทุกคนก็เป็นแท็กซี่หมด หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทัวร์รัสเซียยืนโบกรถเมื่อมีรถมาก็ต้องบอกสถานที่ก่อนและต่อรองราคา ซึ่งจำเป็นต้องพูดภาษารัสเซีย

        สิ่งสาธารณูปโภคในรัสเซีย มอสโก เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ระบบไฟฟ้าในรัสเซียจะใช้ไฟฟ้าเหมือนเมืองไทยแต่จะต่างกันตรงที่เครื่องไฟฟ้าทุกชนิดจะเป็นปลั๊กขากลม 2 ขา และเต้าเสียบนั้นจะมีเป็นรูกลม 2 รู ขนาดของรูกลมและความกว้างระหว่างขาปลั๊กและรูเต้าเสียบจะเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยแต่บางประเภทปลั๊กเสียบเป็นขาแบบ 2 ขา เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ADAPTOR ต่อให้เป็นขากลม 2 ขาก่อน

        ระบบประปาในรัสเซีย อาคารทุกหลังของรัสเซียจะมีก๊อกน้ำร้อนและเย็นให้ น้ำร้อนก็จะร้อนจัดเพราะจะใส่สารเคมีเพื่อช่วยให้เกิดความร้อนอยู่ตลอดเวลาดังนั้นจึงห้ามใช้ดื่มหรือนำไปประกอบอาหารแต่จะใช้อาบน้ำและซักล้างได้ ส่วนน้ำเย็นก็จะเป็นน้ำที่เย็นจัดนำไปประกอบอาหารได้ ปกติแล้วคนรัสเซียจะดื่มน้ำจากก๊อกน้ำเย็นแต่สำนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปทัวร์รัสเซียอาจจะไม่ชอบใจนักเพราะน้ำจะเย็นและรู้สึกกร่อยๆ ทางที่ดีควรซื้อน้ำดื่มจากร้านค้า น้ำดื่มที่มีขายนั้นมีอยู่ 3 ชนิดคือ น้ำดื่มชนิดก๊าซ น้ำดื่มชนิดไม่มีก๊าซและน้ำแร่






No comments:

Post a Comment