Saturday, March 28, 2015

ท่องเที่ยวมัลดีฟส์ (Republic of Maldives)

คู่มือการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ (Republic of Maldives)
มัลดีฟส์ หรือ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic of Maldives) เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมาก ในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของ ประเทศอินเดียและศรีลังกา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที จากกรุงโคลัมโบโดยเครื่องบิน)

ภูมิประเทศ พื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้ 820 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300 ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 C (18-90 F) ตลอดทั้งบีช่วงที่ปราศจากมรสุม ได้แก่ ช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม

มัลดีฟส์ เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศโดดเด่น พื้นที่ของประเทศทั้งหมดประกอบด้วยน้ำถึงร้อยละ 97 ส่วนที่เป็นพื้นดิน คือเกาะต่างๆ ที่เกิดจากการทับถมของแนวปะการัง เกาะเหล่านี้วางตัวเรียงรายกันคล้ายวงแหวน เรียกว่า Atoll* ซึ่งรวมแล้วมัลดีฟส์มีอะทอลวางตัวในแนวเหนือใต้ทั้งหมด 26 อะทอล โดยทั้ง 26 อะทอลแบ่งย่อยเป็นอะทอลการปกครองได้ 19 เขตการปกครอง และ 1 เขตการปกครองพิเศษ คือ มาเล่ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ ในบรรดาเกาะทั้ง 1,190 เกาะของมัลดีฟส์ มีเพียง 200 เกาะเท่านั้นที่มีคนอยู่อาศัย บางเกาะอาจเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทใดรีสอร์ทหนึ่งกินบริเวณทั่วทั้งเกาะ
* กล่าวกันว่า อะทอล คือแนวปะการังที่เกิดล้อมรอบแนวฐานภูเขาไฟ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภูเขาไฟตรงกลางยุบตัวลงใต้มหาสมุทร คงเหลือแนวปะการังที่ทับถมกันเป็นกลุ่มเกาะขนาดย่อยๆ วางตัวกันเป็นวงกลมบ้างไม่กลมบ้าง


การเดินทางภายในมัลดีฟส์เนื่อง ด้วยภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเกาะปะการังนับพัน วิธีเดินทางจากสนามบินนานาชาติมาสู่เกาะต่างๆรวมถึงการเดินทางระหว่างเกาะใน มัลดีฟส์ คือการเดินทางด้วยเรือ ทั้งเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ตซึ่งเป็นที่นิยมในการใช้รับส่งแขกจากรีสอร์ทต่างๆ และการเดินทางด้วยเรือพื้นเมืองที่เรียกว่า โดนิ(Dhoni) ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก และยังเป็นการช่วยอนุรักษ์แนวปะการังใกล้เกาะไม่ให้เสียหายจากเครื่องยนต์ ของเรือโดยสารขนาดมหึมา บางแห่งมีการดัดแปลงเรือประมงหรือMasdhoni ซึ่งมีขนาดใหญ่และแล่นได้เร็วกว่าโดนิทั่วไป มาใช้รับส่งผู้โดยสารหรือให้เช่าเหมาลำไปตามแหล่งดำน้ำต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริการเรือเฟอร์รี่ขนาด 280 ที่นั่ง แล่นระหว่างเมืองมาเล่กับอะทอลอัดดู ออกทุกสัปดาห์ และเรือซาฟารี ที่ให้บริการนำเที่ยวพร้อมที่พัก อาหาร เครื่องอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องออกกำลังกาย เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ความบันเทิง ตลอดระนยะเวลาการเดินทาง และเรือเฟอร์รี่บริการจากสนามบินนานาชสติถึงเมืองมาเล่ ค่าบริการคนละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ(กลางวัน) และ 2 ดอลลาร์สหรัฐ(กลางคืน) การเดินทางโดยเครื่องบินเล็ก หรือ Sea-plane นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางภายในมัลดีฟส์ มีเที่ยวบินระหว่างเมืองมาเล่สู่เกาะอื่นๆ อาทิ เกาะเคาเดดูห์ และ เกาะจานในอะทอลอัดดู หรือเกาะฮานิมาดูห์ในทางตอนเหนือของประเทศ สำหรับการเดินทางทางบก ในมัลดีฟส์มีถนนสำหรับรถวิ่งอยู่เฉพาะในเมืองมาเล่และอะทอลอัดดูเท่านั้น และเนื่องจากแต่ละเกาะมีพื้นที่ขนาดกะทัดรัด ผู้คนจึงนิยมเดินและปั่นจักรยานมากกว่าใช้รถยนต์ 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทาง คือ ระหว่างเดือนธันวาคม ถึง เดือนเมษายน


วีซ่านักท่องเที่ยวสามารถขอ Visa on Arrival ได้เมื่อไปถึงมัลดีฟส์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ วีซ่ามีอายุ 30 วัน


การจับจ่ายใช้สอยหน่วยเงินของมัลดีฟส์เรียกว่า รูฟิยา(Rufiya: MVR)
1 รูฟิยาแบ่งย่อยออกเป็น 100 ลาริ มีธนบัตรขนาด 500, 100, 50, 20, 10 และ 5 รูฟิยา เหรียญขนาด 2 และ 1 รูฟิยา และ 50, 25, 10, 5, 2 และ 1 ลาริ อัตราแลกเปลี่ยน (ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550)
1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 12.95 รูฟิยา หรือ 1 รูฟิยา เท่ากับ 2.7 บาท
สกุล เงินต่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับในมัลดีฟส์ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอริง ยูโร ฟรังก์สวิส ดอลลาร์ออสเตรเลีย และเยนญี่ปุ่น ซึ่งสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินรูฟิยาได้ที่ธนาคาร โรงแรม รีสอร์ท และร้านค้าชั้นนำ
นักท่องเที่ยวสามารถใช้เงินตราสกุลดอลลาร์สหรัฐจับจ่าย ซื้อของแทนเงินท้องถิ่น ที่พัก และร้านค้าส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต สินค้ายอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนมัลดีฟส์ คืองานหัตถกรรมพื้นเมือง งานฝีมือและของตกแต่งบ้านจากผลิตภัณฑ์จากทะเล ปลาแห้ง และ ปลากระป๋องซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของที่นี่


เทศกาลสำคัญเช่น เดียวกับชาติมุสลิมอื่นๆ เทศกาลสำคัญๆ ของชาวมัลดีฟส์เป็นเทศกาลตามคติศาสนาอิสลาม ซึ่งยึดถือเอาปฏิทินจันทรคติของอิสลามเป็นที่ตั้ง อาทิ

Ramadan ช่วงเดือนเก้าของปฏิทินจันทรคติของอิสลามถือเป็นเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด

Eid-ul lhaa
เทศกาลบวงสรวง ตรงกับวันที่ 10 เดือน Zul Hiija หรือวันที่ 66 หลังวันเสร็จสิ้นการถือศีลอด เป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวมัลดีฟส์ ราว 5-7 วัน ในช่วงนี้ผู้คนนิยมเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตามเกาสะต่างๆ และมีการแสดงดนตรี เต้นรำ และกีฬาพื้นเมืองร่วมกับการเต้นรำและดนตรีสมัยใหม่

Kuda Eid
วันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด ในตอนเช้าชาวมุสลิมจะเดินทางไผปสวดมนต์ที่มัสยิด จากนั้นจะมีการฉลองที่บ้าน เชิญญาติพี่น้อง เพื่อน และเพื่อนบ้านมาร่วมรับประทานอาหาร ถือเป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน

วันประสูติศาสดา ชาวมัลดีฟส์เฉลิมฉองวันคล้ายวันประสูติศาสดาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วโลก มีการเชิญแขกไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน

นอกจากนี้ยังมีวันหยุดประจำปี ได้แก่
วันปีใหม่สากล ( 1 มกราคม)
วันขึ้นปีใหม่ที่ทั่วโลกร่วมกันเฉลิมฉลอง

วันฉลองอิสรภาพ ( 26 กรกฎาคม) มีขบวนพาเหรดและกิจกรรมเฉลิมฉลองบริเวณจัตุรัสกลางเมืองมาเล่

วันสาธารณรัฐ (11 พฤศจิกายน)
 เป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่มัลดีฟส์เปลี่ยนมาเป็นสาธารณรัฐ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1968

วันชาติมัลดีฟส์
เป็นเทศกาลฉลองชัยในโอกาสที่ Mohamed Thakurufaanu ขับไล่พวกโปรตุเกสไปจากประเทศได้เมื่อปี 1573 โดยยึดเอาวันที่หนึ่งของเดือน Rabee ul Awwal อันเป็นเดือนที่ 3 ของปฏิทินจันทรคติของอิสลามเป็นวันฉลอง




สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในมัลดีฟส์
อะทอลมาเล่ใต้ (South Malé Atoll) ใน บรรดาหมู่เกาะในอะทอลมาเล่ใต้ มีเพียง 3 เกาะเท่านั้นที่มีคนอาศัยอยู่ เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือเกาะ Maafushi เป็นที่ตั้งเรือนจำและคลังสินค้า ทั้งยังเป็นตลาดรวมปลาทะเลตากแห้งเพื่อบรรจุขายต่างประเทศ

อะทอลมาเล่เหนือ (North Malé Atoll) เกาะ หลักคือ Thulusdhoo เป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิตปลาแห้งและโค้ก มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งเล่นกระดานโต้คลื่น ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งของอะทอลมาเล่เหนือ คือ เกาะHimmafushi ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกตลอดสองข้างถนนสายหลักของเกาะ

อะทอลอารี (Ari Atoll) อะทอลรูปไข่ซึ่งอยู่ห่างจากมาเล่ราว 30 นาทีหากเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่างเกาะ เป็นอะทอลที่มีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งทั่วทั้งอะทอ ลมีรีสอร์ทอยู่ตามเกาะต่างๆ กว่า 20 เกาะ แหล่งดำน้ำตามเกาะต่างๆ ภายในอะทอลอารีนับเป็นสถานที่ดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง อาทิ Mayafushi Thila, Manta Reef, Panetone หรือ Halaveli Mushimasmingali

อะทอลฟาฟู (Faafu Atoll) เกาะทางใต้สุดของอะทอลคือเกาะ Nilaudhoo เป็นที่ตั้งของAasaari Miskiiy มัสยิดเก่าแก่เป็นอันดับสองของมัลดีฟส์ สร้างจากหินตัดแต่งอย่างดี ภายในตกแต่งด้วยเครื่องไม้

อะทอลซีนู หรือ อะทอลอัดดู(Seenu หรือ Addu Atoll) เป็นอะทอลที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดในบรรดาอะทอลทั้งหมดของมัลดีฟส์ เคยเป็นฐานทัพเรือของอังกฤษในอดีต นอกจากมาเล่ Seenu เป็นอะทอลที่มีความเป็นชุมชนมากอีกแห่งหนึ่ง ประชาชนของเกาะใช้ชีวิตอย่างอิสระและใช้ภาษาที่แตกต่างจากเมืองหลวง ที่นี่จึงเหมาะสำหรับผู้ต้องการรู้จักประเพณีวัฒนธรรมแบบมัลดีเวียนของชาว เกาะ
Meedho ตั้งอยู่ทางใต้สุดของอะทอลซีนู เป็นหนึ่งในเกาะที่มีธรรมชาติน่าชมที่สุดในหมู่เกาะมัลดีฟส์ สถานที่สำคัญคือหลุมฝังศพ Koaganu ที่ฝังศพบุคคลสำคัญของประเทศอีกแห่งหนึ่ง
อะทอลดาลู(Dhaalu Atoll) เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อปี 1998 เมืองหลวงคือ Kudahuvahoo เป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของโบราณสถานซึ่งไม่ทราบที่มาแน่ชัด ที่เรียกว่า Hawitta ซึ่งเชื่อว่าเป็นซากวัดทางพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีสุเหร่าโบราณที่สวยงาม ซึ่งค้นพบโดยนักโบราณคดี Thor Heyerdahl




No comments:

Post a Comment