Saturday, May 9, 2015

พระนอนชเวตาเลียว หงสาวดี ประเทศพม่า

  พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะที่งดงามเป็นอย่างมาก มีความงามในลักษณะของมอญ ที่วัดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่านิยมมาสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมาก

        พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นที่เคารพของขาวพม่าเป็นอย่างมากและยังถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปนอนที่มีความสวยสดงดงามที่สุดของประเทศพม่าอีกด้วย พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มีอายุถึง 1,200 ปี คนไทยจะรู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า พระนอนยิ้มหวาน เนื่องด้วยพระพักตร์ของท่านั้นได้รับการวาดและตกแต่งไว้อย่างงดงามพร้อมด้วยรอยยิ้มที่หวาน พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวนั้นเป็นองค์พระที่เป็นศิลปะในแบบของมอญ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าแมงกะติปะเมื่อ พ.ศ.1537 ซึ่งสร้างขึ้นสมัยที่มอญนั้นเจริญรุ่งเรืองในอำนาจ พุทธลักษณะเด่นของพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวก็คือบริเวณพระบาทที่วางไม่เสมอกันจะเหมือนพระพุทธไสยาสน์ของประเทศไทยซึ่งมีความหมายว่าในขณะนั้นพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ซึ่งถือเป็นอากัปกิริยาก่อนที่พระองค์นั้นจะเสด็จสู่ปรินิพานในวันต่อมา พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวมีความประมาณ 181 ฟุต มีความสูงประมาณ 50 ฟุต และเป็นปูชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับ 2 ของเมืองหงสาวดีอีกด้วยซึ่งอันดับ 1 ก็คือ พระมหาธาตุมุเตา ด้านหลังของพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวนั้นจะมีภาพวาดที่เล่าถึงตำนานว่า มีพระราชาอยู่องค์หนึ่งที่ไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาแต่ทรงลุ่มหลงในการบูชายักษ์ตนหนึ่งมากขนาดถึงต้องมีรูปปั้นไว้กราบไหว้ในวันหนึ่งพระราชาได้เสด็จไปประพาสในป่าพร้อมกับพระโอรสของตน และพระโอรสก็ไปพบกับชาวบ้านซึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธารก็เกิดหลงรักตั้งแต่แรกพบถึงกับพากลับมาที่พระราชวังแต่หญิงสาวได้อันเชิญพระพุทธรูปติดตัวไปด้วยเพื่อนำไปบูชาในวัง ทำให้พระราชาโกรธมากจนถึงขั้นสั่งให้ทหารนั้นจับทั้งสองคนมัดไว้รวมกันเพื่อที่จะสั่งประหารชีวิต แต่แล้วชาวบ้านได้ตั้งจิตอธิฐานว่าถ้าพระพุทธเจ้ามีจริงก็ขอให้หญิงสาวแคล้วคลาด ต่อมาปรากฏว่าเชือกที่มัดตัวทั้งสองคนนั้นก็หลุดออกทันทีขณะที่รูปปั้นยักษ์นั้นก็แตกสลายเช่นกัน พระราชาจึงหันกลับมานับถือศาสนาพุทธและตนนั้นก็ขอไถ่บาปโดยการสร้างพระพุทธไสยาสน์เป็นเครื่องเตือนใจและได้ถือเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระโอรสของตนกับหญิงสาวคนนั้น

        ต่อมาเมื่อเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกิดขึ้นกับเมืองหงสาวดีเมืองนี้ก็ถูกทิ้งให้รกล้างพระพุทธไสยาสน์ก็ถูกทิ้งไว้กลายเป็นกองอิฐอยู่ใต้โคลนจนมาเมื่อ พ.ศ.2424 จึงขุดพบพระนอนองค์นี้จากนั้นเมื่อปี พ.ศ.2491 พม่าได้เอกราชก็ได้ทำการบูรณะใหม่ทั้งหมด ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทัวร์พม่านิยมไปสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมาก ไปทัวร์พม่าทั้งทีไม่อยากให้นักท่องเที่ยวพลาดกับสถานที่สำคัญแห่งนี้

No comments:

Post a Comment