Tuesday, May 5, 2015

โคลอสเซียม ประเทศอิตาลี

โคลอสเซียม ประเทศอิตาลี

        การทัวร์ยุโรปในแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนอย่างแน่นอนคะ วันนี้เรามีสถานที่ซึ่งเป็นสถานที่ยกให้เป็นมรดกของโลกเลยนะค่ะ สถานที่แห่งนั้นก็คือ โคลอสเซียม ประเทศอิตาลีคะ

        โคลอสเซียม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Colosseum หรือ Flavian Amphitheatre ในภาษาอิตาลี Colosseo – โคลอสโซ สถานที่แห่งนี้เป็นสนมกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงโรม สร้างขึ้นเมื่อในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณ ค.ศ. 80 และสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเหล่านักรบโรมันอีกทั้งยังเป็นอนุสรณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน รูปแบบของอัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อขึ้นด้วยอิฐและหินทรายวัดขนาดโดยรอบแล้วประมาณ 527 เมตร สูงประมาณ 57 เมตร ซึ่งสามารถบรรจุผู้คนได้ถึง 50,000 คนเลยทีเดียว โคลอสเซียมแห่งนี้ถูกออกแบบอย่างฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใกล้นักกีฬามากขึ้น และยังมีการออกแบบทางระบายน้ำไม่ให้มีน้ำท่วมขังในขณะที่มีฝนตก โคลอสเซียมถือเป็นสถานที่ต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน ซึ่งสนามกีฬาแห่งนี้ถูกเรียกในแบบไม่เป็นทางการว่า โคลิเซียม (Coliseum)ภายใต้อัฒจันทร์โคลอสเซียม (Colosseum)และในชั้นใต้ดินของโคลอสเซียม (Colosseum)จะมีห้องสำหรับขังนักโทษที่รอการประหารชีวิต และสัตว์อย่างสิงโต หลายร้อยห้องเลยทีเดียวคะ ใช้ใต้ดินแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ให้นักโทษต่อสู้กับสิงโตที่ให้อดอาหารแต่หากนักโทษคนไหนสามารถเอาชนะสิงโตได้หรือฆ่าสิงโตได้ด้วยมือเปล่าก็จะรอดชีวิตไป นอกจากนี้ยังเป็นที่ประลองฝีมือในเชิงฟันดาบของบรรดาเหล่าทาสให้ต่อสู้กันเองถ้าใครสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของตนได้จะได้รับเกียรติและยกย่องอย่างสูงเพราะเป็นการต่อสู้ที่ชาวโรมันยกย่องกันมาก ในปีๆหนึ่ง ณ สถานที่แห่งนี้ต้องสูบเสียชีวิตนักโทษและทาสไม่ต่ำกว่าร้อยคน ถ้าเทียบกันในสมัยนี้ถือเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากๆเลยนะคะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องของในอดีต สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum)เป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันโบราณเป็นอย่างมาก แต่เมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมถอยลง โคลอสเซียมแห่งนี้ได้ถูกข้าศึกทำลายหลายครั้งติดต่อกัน จนในปัจจุบันที่เห็นเหลือแต่ซากโครงสร้างอันใหญ่โตไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ยุโรปในประเทศอิตาลีนั่นเองคะ

        ด้วยความใหญ่โตของสถานที่แห่งนี้แลละความสวยงามที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดได้ถูกรับเลือกให้เป็น 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ด้วยการลงคะแนนจากคนทั่วโลกผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 อีกด้วยคะ สถานที่แห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาทัวร์ยุโรปแวะเข้าชมกันอย่างไม่ขาดสาย

No comments:

Post a Comment